กุนซือ “บิ๊กป้อม” โพสต์ใช้ “ม.44” อุ้ม3ค่ายมือถือส่อพ่นพิษผิดกฎหมาย ชี้จะมีคนติดคุกซ้ำรอยพรรคไทยรักไทย “อนุทิน”ลั่นขอเป็นฝ่ายค้าน เหตุจะไม่ร่วมกับรัฐบาลที่ไม่เอากัญชา ด้าน“เพื่อไทย”แฉโดนกลไกดูดคะแนนโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง สั่งเตรียมรับเหตุการเมือง พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งใหม่ “สมพงษ์”ปัดไม่รู้เรื่องถูกดันนั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย “ป๋าเหนาะ”เตือนใครจะเป็นงูเห่า จะถูก ปชช.ลงโทษ ส่วน“เรืองไกร”เผยบุกศาล รธน.วันนี้ จี้ไม่รับวินิจฉัยคำร้อง กกต. ปมคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ชี้เคยวินิจฉัยวางแนวไว้แล้วในคำสั่งที่ 1/2561เป็นแค่ข้อสงสัยไม่รับ ขณะที่ ปชช.ทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งใหม่ 6หน่วย5จังหวัด “กกต”เตือนไม่ไปเลือกตั้งจะถือเป็นผู้เสียสิทธิ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.62 นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณียืดระยะเวลาจ่ายเงินค่าประมูลคลื่นของกลุ่มโทรคมนาคม ระบุว่า “การยืดหนี้ร่วมแสนล้าน ให้แก่เอกชน 3 ราย และแถม 5จี โดยไม่ต้องประมูลนั้น กำลังเริ่มต้นสู่กระบวนการยุติธรรมตามคาดหมาย และเป็นที่คาดหมายว่าคงจะซ้ำรอยการแก้กฎหมายภาษีสรรพสามิตในยุคพรรคไทยรักไทย เพื่อไม่ต้องเก็บค่าสัมปทานมือถือ ซึ่งศาลตัดสินเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย” “แว่วว่ามีกรรมการบางท่านคัดค้านและทำความเห็นแย้งไว้ก่อนแล้วทั้งได้ลาออกด้วย คณะกรรมการนั้น จึงไม่ใช้อำนาจด้วยตนเอง และมีการชงเรื่องให้ใช้มาตรา 44 ซึ่งผมได้เตือนไว้แล้วว่ามาตรา 44 นั้น ใช้ได้เพียง 3 กรณีเท่านั้น และต้องใช้โดยสุจริต โดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญอีกด้วย มิฉะนั้นก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงาน “พันธุ์บุรีรัมย์”หรืองานวันกัญชาโลก ที่สนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เป็นสุดท้าย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ เดินทางมาชมนิทรรศการในหลากหลาย อาทิ นิทรรศการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย, นิทรรศการจำลองการปลูกจนถึงกระบวนการสกัดเป็นน้ำมันกัญชา นิทรรศการกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ นิทรรศการอาหารจากกัญชารักษาโรค นอกจากนี้ ในโลกออนไลน์ที่บุรีรัมย์ ยังได้มีการนำคลิปเสียงของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มาเผยแพร่ระหว่างการขึ้นพูดบนเวทีว่า “หากพรรคใดที่จัดตั้งรัฐบาลไม่เอานโยบายกัญชาเสรีของพรรคไปดำเนินการ ก็จะไม่ขอร่วมรัฐบาล และพร้อมจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน” ท่ามกลางเสียงปรบมือของนักท่องเที่ยวที่เข้าชมในงาน ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวในประชุมใหญ่ประจำปีครั้งแรก ว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อรับรองกิจกรรมของพรรคการเมือง ซึ่งผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ขอขอบคุณผู้สมัครส.ส. ผู้ใหญ่ของพรรค กรรรมการบริหารพรรค เจ้าหน้าที่พรรค ที่ช่วยกันดำเนินงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย “แม้ผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งไว้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากอำนาจรัฐ อำนาจเงิน ที่เราต้องเผชิญอยู่ แต่ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ ที่เรามีว่าที่ ส.ส.จำนวนมากเป็นอันดับ 1” พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าว จากนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้กำลังใจทุกคน แม้เรายังไม่ทราบผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนก็ตาม แต่เวลานี้เราจะต้องตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้ครบ 77 จังหวัด ทั้ง 250 เขตเลือกตั้ง จากเดิมที่เรามีเพียง 50 จังหวัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น ก็พร้อมส่งผู้สมัครลงครบทุกเขต ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา จะพบว่ามีหลายพื้นที่มากยังเป็นปัญหา เช่น ที่ จ.ชัยนาท พบว่าในใบส.ส.5/18 ปรากฎว่าคนที่จะต้องกรอกรายละเอียดในใบดังกล่าว ควรจะเป็นลายมือคนละลายมือแต่ปรากฏว่าคะแนนที่มาอยู่ในมือเรา ซึ่งใบส.ส.5/18 เป็นการกรอกด้วยลายมือของคนๆเดียวทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อที่ทำให้เราสงสัยว่าเมื่อไปกรอกที่หน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วย ทำไมจึงเป็นลายมือเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่าเป็นกระบวนการที่มากรอกข้อมูล ฉะนั้นสิ่งที่จะดำเนินการได้หากมีการประกาศข้อมูลดิบของแต่ละพื้นที่ ถ้าทุกคนมีดังกล่าวนี้ หรือมีรูปถ่ายที่ถ่ายจากหน้าบอร์ดในหน่วยเลือกตั้งไว้ จะนำมาพิสูจน์ทราบได้ชัดเจนว่า คะแนนที่เขียนที่ไว้ที่บอร์ดกับคะแนนที่คณะ กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นคะแนนจริงที่ตรงกันหรือไม่ “เราพบอีกว่าบางเขตเลือกตั้ง คะแนนตัวเลขจริง สมมุติว่าอยู่ประมาณ 60 แต่เวลาไปเขียนอยู่ในคะแนนมีการบวกเพิ่มเติมไป 70-80% สำหรับคะแนนพรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคเรา ทำให้คะแนนของเราหายไป ฉะนั้นกระบวนการที่เกิดขึ้นขณะนี้มีความซับซ้อนมากไปกว่าเดิม เป็นขบวนการที่ดำเนินการโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง” นายภูมิธรรม กล่าว ด้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนการประชุมถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกดันเป็นหัวหน้าพรรคแทนพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ซึ่งปรากฏว่า นายสมพงษ์ส่ายหน้าแรงๆพร้อมหัวเราะ ก่อนบอกว่า “ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง” ขณะที่ นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ กล่าวว่า ตนทำการเมืองมา 40 กว่าปี ไม่เคยมีครั้งไหนสกปรกเท่าครั้งนี้มาก่อน เอารถสิบกว่าคันมาปิดบ้านตน ทำแบบนี้ได้อย่างไร อย่างไรก็ตามขอเตือนคนที่คิดจะเป็นงูเห่าว่าถ้าไปจะถูกประชาชนลงโทษ เขาจะไม่เอา และตนก็รังเกียจงูเห่า ทางด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22เม.ย. เวลา10.00น. จะไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ไม่รับพิจารณาวินิจฉัยคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้ศาลฯวินิจฉัยว่า กกต.จะสามารถดำเนินการคำนวณหาจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ตามพรป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ที่การคิดคำนวณดังกล่าวอาจทำให้พรรคการเมืองบางพรรคที่มีจำนวน ส.ส. ที่จะพึงมีได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต่อ ส.ส.หนึ่งคนได้จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหนึ่งคน ได้หรือไม่ และการดำเนินการดังกล่าวชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 91 หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ากรณีดังกล่าวอาจเข้า ลักษณะเป็นการขอคำปรึกษา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้ในคำสั่งที่ 1/2561 ลงวันที่ 26 ม.ค. 2561 เรื่อง กกต.ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัย เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของกกต.ตามรัฐธรรมนูญ กรณี กกต.แต่ละคนจะใช้อำนาจในการสั่งยกเลิกหรือระงับการเลือกตั้ง ของหน่วยเลือกตั้งหรือเขตเลือกตั้งที่พบการกระทำความผิด โดยในคำสั่งดังกล่าวศาลเห็นว่า ตามคำร้องของกกต.ยังเป็นเพียงข้อสงสัย ข้อหารือ หรือการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ กกต. คำร้องของ กกต. จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย “ดังนั้น หากพิจารณาตามคำวินิจฉัยของคำสั่งที่ 1/2561 ศาลรัฐธรรมนูญจึงควรมีคำสั่งต่อคำร้องของ กกต. กรณีขอให้วินิจฉัยเรื่องการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการไม่รับคำร้องของ กกต. ไว้พิจารณาวินิจฉัย” นายเรืองไกร กล่าว วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.ได้จัดเลือกตั้งใหม่ใน 6 หน่วย 5 จังหวัด มีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิอย่างคึกคัก โดยจะเปิดให้ใช้สิทธิระหว่างเวลา 8.00-17.00 น. โดนมีหน่วยเลือกตั้งที่มีการจัดเลือกตั้งใหม่ ดังนี้ หน่วยเลือกตั้งที่ 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เขตเลือกตั้งที่ 13 กรุงเทพฯ หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 2 ต.ศาลา อ.เกาะคา เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลำปาง หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 5 ต.ปางหลวง อ.เกาะคา เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลำปาง หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พิษณุโลก หน่วยเลือกตั้งที่ 12 หมู่ที่ 12 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.เพชรบูรณ์ หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ยโสธร ทั้งนี้ กกต.ระบุด้วยว่า ผู้ใดที่ไม่ไปเลือกตั้งจะถือเป็นผู้เสียสิทธิ ยกเว้นกรณีลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ และได้ไปใช้สิทธิแล้ว