โดนถล่มจนแทบจะเละเป็นโจ๊ก แต่ถ้าคิดว่าคนอย่าง “เทพไท เสนพงศ์” ว่าที่ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ จะถึงขั้น “เสียหลัก” ก็คงไม่ใช่ เพียงแค่ซวนเซเล็กน้อยก็เท่านั้น หลังจากที่เทพไท ทำหน้าที่เป็นหน่วยหน้ากล้าตาย ขันอาสาออกมาเสนอทางออกจากวิกฤติหลังเลือกตั้ง แต่ยังตั้งรัฐบาลกันไม่ได้ ด้วยสูตร “รัฐบาลแห่งชาติ” ก็ทำเอา เทพไท ถูกนักการเมืองด้วยกันเองวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในท่วงทำนองว่า “ไม่เอาด้วย” โดยเฉพาะฝ่ายที่ประกาศตัว เป็นกองเชียร์ ของ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะแคนดิเดต นายกฯของ “พรรคพลังประชารัฐ” ดังนั้นหลายวันที่ผ่านมานี้เทพไท จึงโดนเหน็บแนมว่าข้อเสนอของเขา นั้นไม่ต่างไปจาก “คนอกหัก” เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นพรรคได้ส.ส. เขต ต่ำกว่าร้อย ซึ่งไม่ต้องการให้บิ๊กตู่ ได้เป็นนายกฯรอบสอง เมื่อข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ โดนถล่มหนัก ล่าสุดเทพไท ประกาศขอเปลี่ยนเป็น “รัฐบาลปรองดอง” เพื่อให้ประเทศมีทางออก “วันนี้แนวทางที่ผมอาจจะเป็นไปได้น้อย แต่หลังจากกกต.ประกาศผลเลือกตั้ง ความเป็นไปได้อาจจะประมาณ 50:50 แต่ต่อไปอีกหนึ่งเดือนเชื่อว่าความเป็นไปได้จะมากถึง80 เปอร์เซนต์ และทวีมากขึ้น เพราะระยะเวลาจะเป็นตัวบีบ เพราะหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้จะเกิดแรงกดดันจากสังคมให้ทุกฝ่ายต้องหันเข้าหากัน ถ้าทุกคนถือทิฐิ หรือเห็นแก่ประโยชน์ เอาแต่ชนะคะคานกัน ประเทศก็ยิ่งเสียหาย เมื่อได้รับแรงกดดันมากๆสุดท้ายก็หนีไปไม่ได้ ที่สุดก็ต้องมาจับมือกัน”(18 เม.ย.2562) ทั้งนี้เทพไท เชื่อมั่นว่าแม้ที่ผ่านมามีข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา แต่ไม่เคยสำเร็จก็ตาม ทว่าครั้งนี้ย่อมมีโอกาสมากกว่าอย่างแน่นอน เพราะสถานการณ์การเมืองเวลานี้ถึงขั้นเกิดเดทล็อค อย่างแท้จริง สำหรับตัวเทพไท นั้นต้องถือว่าไม่ธรรมดา เพราะด้วยบุคลิกที่สร้างสีสัน ปลุกความเข้มข้นทางการเมืองให้เกิดขึ้นเป็นระยะๆแล้วเทพไท ยังถูกมองว่าการชู รัฐบาลแห่งชาติจนมาเปลี่ยนเป็นรัฐบาลปรองดอง หลังจากที่โดนกระหน่ำอย่างหนักนั้น เพราะต้องการเปิดทางให้ “คนนอก” ที่ไม่ใช่บิ๊กตู่ ได้กลับมาเป็นนายกฯแล้วนั้น ยังต้องการชูชื่อ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยหรือไม่ เทพไท นั้นนับเป็นนักการเมืองที่ผ่านมาแล้วหลายตำแหน่ง ตั้งแต่เริ่มต้นที่การเป็นส.ส.นครศรีธรรมราช ของประชาธิปัตย์ จากการเลือกตั้งก.พ.2548 นอกจากนี้ยังเคยผ่านงานในบทบาทต่างๆมาแล้วทั้ง อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการติดตามมติสภาผู้แทนราษฎร และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ รายการสายล่อฟ้า และ รายการวิเคราะห์คอลัมนิสต์ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล