สธ. แนะพ่อแม่ระวังป้อนอาหารเด็กเล็ก โดยเฉพาะ ลูกชิ้น ไส้กรอก ถั่ว ผลไม้ที่มีเมล็ดเล็ก ป้องกันสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ หากเด็กสำลัก หายใจไม่ออก ริมฝีปากเขียวคล้ำ ให้รีบโทร.1669 ห้ามใช้นิ้วล้วงตอ จะยิ่งทำให้สิ่งแปลกปลอมตกลึกลงไปจนขาดอากาศหายไจได้ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัดก.สาธารณสุข และโฆษกก.สาธารณสุขกล่าวว่า อันตรายที่พบบ่อยในเด็กเล็กอายุ 1 - 3 ปี คือ สิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ เนื่องจากเป็นวัยอยากรู้อยากเห็น ต้องการทดลองทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง ชอบหยิบจับสิ่งของเข้าปาก ใส่จมูก และยังมีฟันกรามขึ้นไม่ครบ ทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียดพอ รวมทั้งมักจะวิ่งหรือเล่นขณะกินอาหาร หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ที่พบส่วนใหญ่มักเป็นอาหารหรือถั่วชนิดต่าง ๆ เมล็ดพืช เมล็ดผลไม้ รวมทั้งชิ้นส่วนพลาสติก ของเล่นชิ้นเล็กๆ เข็ม เข็มกลัด ลูกปัด กระดุม เป็นต้น ทั้งนี้ ขอแนะนำผู้ปกครองดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังอาหารที่มีลักษณะเป็นเส้น กลม ลื่น และแข็ง เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก ควรป้อนเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วนผลไม้เช่น แตงโม น้อยหน่า ละมุด มะขามให้แกะเมล็ดออกก่อนไม่ป้อนอาหารขณะเด็กกำลังวิ่งเล่น สอนเด็กเคี้ยวอาหารช้า ๆ ให้ละเอียดก่อนกลืน เลือกของเล่นให้เหมาะกับวัยของเด็ก ไม่ควรให้เล่นของเล่นที่มีชิ้นส่วนขนาดเล็กหรือแตกหักง่าย เก็บสิ่งของที่มีขนาดเล็ก เช่น กระดุม เข็มกลัด ยา ให้พ้นมือเด็ก และสอนเด็กไม่ให้นำของเล่นไปอมหรือเคี้ยว  เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจเด็ก ในกรณีที่เด็กมีอาการสำลัก ไออย่างรุนแรง เอามือจับบริเวณคอ พูดไม่ได้ หายใจหอบ หายใจไม่ออก ริมฝีปากเขียวคล้ำ ถือเป็นภาวะฉุกเฉิน มักเกิดจากสิ่งที่อุดกั้นมีขนาดใหญ่ไปติดค้างที่กล่องเสียง ซึ่งเป็นตำแหน่งแคบที่สุดของทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอุดกั้นอย่างสมบูรณ์และเฉียบพลัน ให้รีบโทรสายด่วน 1669 หรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็วที่สุด ห้ามใช้นิ้วมือ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ กวาดล้วงเข้าไปในลำคอเด็กเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้สิ่งแปลกตกลึกลงไปในตำแหน่งที่อุดกั้นทางเดินหายใจมากขึ้น จนขาดอากาศหายใจได้