เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหนำทำให้บ้านเรือนราษฎรถูกพายุพัดพังเสียหายหลายอำเภอเสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนไม่มีที่พักอาศัย เนื่องจากพายุได้พัดเอาหลังคาสังกะสีปลิวตกไปไกลกว่า 80 เมตร นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนที่ถูกลมพัดเอาฝาบ้านพังเสียหายไปหลายหลังโดยเฉพาะในเขต อ.เซกา เสียหายมากสุด 153 ครัวเรือน เสียหายมากที่สุดคือตำบลซาง 46 หลัง และตำบลหนองทุ่ม 43หลัง อ.พรเจริญ 46 หลัง อ.โซ่พิสัย 3 หลัง อ.เมืองบึงกาฬ 1 หลังคาเรือน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวช้องเร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
ต่อมานายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.บึงกาฬ นางสาวประภัสรา ศรีทอง รองนายกเหล่ากาชาดบึงกาฬ นางสุทิศา คงเถลิงศิริวัฒนา นอภ.เซกา และพ.ท.วีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ ผบ.ร.13 พัน.3 ทหาร กกล.รส.บึงกาฬ ตลอดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้พี่น้องประชาชนที่ประสพเหตุวาตะภัยในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ อปท.และปภ.จังหวัดบึงกาฬได้นำสังกะสีและอุปกรณ์ซ่อมแซม เช่น ตะปู ไปมอบให้กับผู้ประสพภัย โดยมีทหาร กกล.รส.บึงกาฬ ชาวบ้านและจิตอาสา ได้ช่วยกันซ่อมแซมบ้านพักของ นายณรงค์ แก้วศรี บ้านเลขมี่ 66 หมู่ที่ 8 บ้านศรีอำนวยพร ต.ท่ากกแดง อ.เซกาและบ้านของ นางสมพร สมพงษ์ อายุ 57 ปี 33 หมู่ที่.12 บ้านท่าสำราญเหนือ ต.ซาง อ.เซกา ซึ่งทั้ง 2 คนก็บอกว่าตกใจกลัวที่เห็นพายุหมุนพักมาอย่างแรงและเร็วไฟฟ้าก็ดับ จากนั้นหลังคาสังกะสีและฝาบ้านก็ปลิวหายไปกับสายลม ลูกหลานตกใจร้องไห้กันระงม
นายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.บึงกาฬ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานเหตุวาตภัยไปให้กระทรวงมหาดไทยได้ทราบแล้ว โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.บึงกาฬ ได้มอบหมายให้ตน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมเจ้าหน้าที่ และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากวาตภัยแล้ว ส่วนเหล่ากาชาดบึงกาฬได้มอบสิ่งของช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมกับฝากเตือนประชาชนและรวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ใกล้ต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ดำเนินการตัดทอนกิ่งและใบออก เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับลม ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ต้นไม้โค่นล้มทับคน สัตว์เลี้ยงและทรัพย์สินอื่นได้ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งหรือใต้ร่มไม้ใหญ่ขณะเกิดฝนตกฟ้าคะนองซึ่งอาจจะถูกฟ้าผ่าได้.
ต่อมานายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.บึงกาฬ นางสาวประภัสรา ศรีทอง รองนายกเหล่ากาชาดบึงกาฬ นางสุทิศา คงเถลิงศิริวัฒนา นอภ.เซกา และพ.ท.วีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ ผบ.ร.13 พัน.3 ทหาร กกล.รส.บึงกาฬ ตลอดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้พี่น้องประชาชนที่ประสพเหตุวาตะภัยในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ อปท.และปภ.จังหวัดบึงกาฬได้นำสังกะสีและอุปกรณ์ซ่อมแซม เช่น ตะปู ไปมอบให้กับผู้ประสพภัย โดยมีทหาร กกล.รส.บึงกาฬ ชาวบ้านและจิตอาสา ได้ช่วยกันซ่อมแซมบ้านพักของ นายณรงค์ แก้วศรี บ้านเลขมี่ 66 หมู่ที่ 8 บ้านศรีอำนวยพร ต.ท่ากกแดง อ.เซกาและบ้านของ นางสมพร สมพงษ์ อายุ 57 ปี 33 หมู่ที่.12 บ้านท่าสำราญเหนือ ต.ซาง อ.เซกา ซึ่งทั้ง 2 คนก็บอกว่าตกใจกลัวที่เห็นพายุหมุนพักมาอย่างแรงและเร็วไฟฟ้าก็ดับ จากนั้นหลังคาสังกะสีและฝาบ้านก็ปลิวหายไปกับสายลม ลูกหลานตกใจร้องไห้กันระงม
นายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.บึงกาฬ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานเหตุวาตภัยไปให้กระทรวงมหาดไทยได้ทราบแล้ว โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.บึงกาฬ ได้มอบหมายให้ตน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมเจ้าหน้าที่ และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากวาตภัยแล้ว ส่วนเหล่ากาชาดบึงกาฬได้มอบสิ่งของช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมกับฝากเตือนประชาชนและรวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ใกล้ต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ดำเนินการตัดทอนกิ่งและใบออก เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับลม ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ต้นไม้โค่นล้มทับคน สัตว์เลี้ยงและทรัพย์สินอื่นได้ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งหรือใต้ร่มไม้ใหญ่ขณะเกิดฝนตกฟ้าคะนองซึ่งอาจจะถูกฟ้าผ่าได้.