ใบหน้าเป็นที่รวมส่วนประกอบของหลายอวัยวะที่สำคัญของร่างกายเพราะชีวิตประจำวันจะต้องพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก การที่ประสบปัญหาการสูญเสียอวัยวะแต่กำเนิด โรคปากแหว่ง เพดานโหว่ หรือ มีปัญหาโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น จากโรคต่างๆ จนต้องตัดบางอวัยวะออกไป เช่น ใบหน้า ลูกตา ฟัน กราม ขากรรไกร หู ช่องปาก ย่อมส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจที่จะหายตามไปด้วย ทพญ.สุชาดา ก้องเกียรติกมล ทันตแพทย์ด้านทันตกรรมประดิษฐ์ สาขาบูรณะช่องปากและใบหน้าโรงพยาบาลรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า ทันตกรรมประดิษฐ์ขากรรไกรและใบหน้าMaxillofacial Surgeryเป็นสาขาหนึ่งของทันตแพทย์ ที่มีการใช้องค์ความรู้หลากหลายด้านเพื่อประดิษฐ์หรือสร้างอวัยวะเทียม ช่วยการแก้ไขความผิดปกติที่เกี่ยวกับขากรรไกร ใบหน้า และช่องปาก เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องสูญเสียอวัยวะบริเวณใบหน้ากลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ สาเหตุของการทำอวัยวะเทียมบนใบหน้าและช่องปากให้กับคนไข้แบ่งออกเป็น 3 ข้อหลักๆ คือ 1.คนไข้ที่มีความพิการแต่กำเนิด (Congenital Missing) เช่น โรคปากแหว่งเพดานโหว่ หรือมีใบหูเพียงข้างเดียว 2.คนไข้ที่สูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ (Trauma) ผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุแล้วเกิดความผิดปกติในภายหลัง และ3.คนไข้ที่สูญเสียอวัยวะจากโรคมะเร็ง (Cancer) การรักษาแบ่งออกเป็น อวัยวะเทียมภายในช่องปาก (Intraoral) จะคำนึงถึงการใช้งานเป็นสำคัญ ได้แก่ การพูด การออกเสียง การกลืน การเคี้ยว โดยทำเพดานเทียม อุปกรณ์ช่วยกลืน อุปกรณ์ช่วยออกเสียง ฯลฯ วัสดุที่ใช้เป็นอะคริลิกเพื่อ ความทนทาน โดยในการรักษาจะมีการพิมพ์ปากทั้งด้านในและด้านนอก มีการใช้เทคนิคและขั้นตอนต่างจากอวัยวะเทียม ภายนอกช่องปาก กระบวนการทำซับซ้อนมากกว่า ใช้ระยะเวลาในการทำอวัยวะเทียมบริเวณนี้ประมาณ 1 เดือน ขณะที่การรักษาอวัยวะเทียมภายนอกช่องปาก (Extraoral) คำนึงถึงความสวยงามเป็นสำคัญ และต้องดูเป็นธรรมชาติทั้งขนาด สี และรูปร่าง วัสดุที่ใช้จะเป็นซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่น กระบวนการทำไม่ซับซ้อน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ป่วยเป็นสำคัญ เช่น ตา เบ้าตา จมูก หู ไปจนถึงกะโหลกเทียม ฯลฯ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการประดิษฐ์อวัยวะส่วนต่างๆ อาทิ มือ นิ้วมือ เป็นต้น แต่ไม่รวมแขนหรือขาเทียม  ใช้ระยะเวลาในการทำอวัยวะเทียมบริเวณนี้ประมาณ 2 - 4 สัปดาห์ ทพ.องอาจ พุฒิพิสิฐเชฐ   ทันตแพทย์ด้านทันตกรรมประดิษฐ์ สาขาบูรณะช่องปากและใบหน้า รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า ขั้นตอนการเปลี่ยนอวัยวะเทียมบนใบหน้าและช่องปาก เบื้องต้นแพทย์ต้องทำความเข้าใจคนไข้ก่อนถึงขั้นตอนในการทำ จากนั้นจึงเริ่ม 1) ทำพิมพ์อวัยวะที่หายไปบนใบหน้า หรือพิมพ์ภายในและภายนอกช่องปาก 2) ใส่ถาดพิมพ์ลงไปในบริเวณที่อวัยวะหายไป เมื่อวัสดุพิมพ์แข็งให้ดึงออกมา อาจมีการวัดขนาดเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับอวัยวะส่วนนั้นๆ เพื่อนำไปดูรายละเอียดให้ตรงกัน 3) ทันตแพทย์สร้างสรรค์ปรับแต่งอวัยวะเทียมบนใบหน้าให้สวยงามเสมือนจริงและขนาดตรงกับอวัยวะของผู้ป่วย 4)ทันตแพทย์นัดผู้ป่วยมาใส่อวัยวะเทียม ให้คนไข้ได้ลองและเทียบดูว่าเมื่ออวัยวะเทียมไปอยู่บนตัวคนไข้จริงๆ แล้วจะมีลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อให้โดยรวมทุกอย่างออกมาดีและเหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด ทั้งนี้ คนไข้ควรให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาอวัยวะเทียมบนใบหน้าและช่องปากด้วยการทำความสะอาดให้ถูกวิธี ตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเกี่ยวข้องอายุการใช้งาน และควรพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเพื่อติดตามตรวจเช็กอวัยวะเทียมบนใบหน้าและช่องปากอยู่เสมอ สำหรับประโยชน์ของอวัยวะเทียมคือช่วยฟื้นฟูบูรณะ ช่วยเรื่องของความสวยงาม สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตของคนไข้ให้กลับมา และคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไข้ ขณะเดียวกันความยากของการรักษา (Maxillofacial Surgery) คือ รายละเอียดทุกส่วนบนใบหน้าล้วนมีความสำคัญ ฟังก์ชันต่างๆ ที่ต้องทำให้ผู้ป่วยใช้งานได้ใกล้เคียงเดิมและมีความสวยงามมากที่สุด หรือในกรณีของคนไข้ที่ต้องทำลูกตาเทียม ก็จะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขนาดของตาดำ สีตาขาว แม้กระทั่งรายละเอียดของเส้นเลือดในลูกตาของคนไข้แพทย์ก็ไม่ได้มองข้าม ตรงส่วนนี้ต้องทำให้คนไข้เห็นถึงความตั้งใจจนกระทั่งออกมาเป็นชิ้นงาน ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้ทำให้แพทย์ได้สื่อสารกับคนไข้โดยตรง เพราะงานสร้างอวัยวะเทียมเป็นทั้งงานศิลปะและเป็นงานที่นอกจากจะรักษาอวัยวะของร่างกายที่หายไปแล้ว ยังช่วยรักษาใจให้คนไข้อีกด้วย ในผู้ป่วยบางรายที่สูญเสียอวัยวะเทียมหลายส่วนที่เชื่อมโยงกัน อาทิ จมูกเทียม เบ้าตาเทียม แพทย์จะพิจารณาและประดิษฐ์อวัยวะเทียมทดแทนตามลำดับ ซึ่งรพ.กรุงเทพมีทีมทันตแพทย์สาขาทันตกรรมประดิษฐ์ขากรรไกรและใบหน้าที่มีทักษะความชำนาญด้วยประสบการณ์