จีน แจ้งลดระบายน้ำจากเขื่อนจิ่นหง 11-17 เม.ย.สนับสนุนเทศกาลสาดน้ำซึ่งเป็นประเพณีของชาวไทลื้อ เลขาฯ สทนช.คาดส่งผลระดับน้ำโขงฝั่งไทยลดลง 1-1.5 เมตร ก่อนเข้าสู่ภาวะปกติ 19 เม.ย. เร่งแจ้งผู้ว่าฯ 8 จังหวัดริมโขงผ่านกระทรวงมหาดไทย ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เมื่อวันที่ 11 เม.ย.62 นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่ง (สทนช.) เปิดเผยว่า จากการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำโขงกับประเทศจีน สทนช.ได้รับแจ้งจากทางการประเทศจีนว่าเขื่อนจิ่งหงมีแผนจะลดการระบายน้ำ ตั้งแต่วันนี้ (11 เม.ย.62) ถึงวันที่ 17 เม.ย.62 จากปริมาณ 2,000-3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เหลือเพียง 1,500-1,600 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อให้ประชาชนใช้น้ำจากแม่น้ำโขง (แม่น้ำล้านช้าง) สำหรับเทศกาลสาดน้ำซึ่งเป็นประเพณีประจำปีของชาวไทลื้อ อย่างไรก็ตาม สำหรับในพื้นที่ของประเทศไทย สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยได้ติดตาม วิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มจากการลดการระบายน้ำในช่วง 7 วันดังกล่าว โดยแม่น้ำโขงจะไหลผ่านประเทศไทยที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนจิ่งหง 340 กิโลเมตร ระดับน้ำจะลดลงประมาณ 1.3–1.5 เมตร ในช่วงวันที่ 12-13 เม.ย 62 และระดับน้ำแม่น้ำโขงบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ระดับน้ำลดลง 1-1.2 เมตร ในช่วงวันที่ 16-18 เม.ย.62 และในวันที่ 18 เม.ย. 62 นี้ จีนจะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนจิ่งหงอีกครั้ง ในปริมาณเท่าเดิม ประมาณ 2,000–3,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงตั้งแต่จังหวัดเชียงรายถึงจังหวัดอุบลราชธานีเพิ่มขึ้นสู่ระดับเดิมตามลำดับตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.62 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สทนช.ได้มีหนังสือแจ้งกระทรวงมหาดไทยไปยังผู้ว่าราชการ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเลย จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงผลกระทบ เนื่องจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็วอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ลงไปใช้ประโยชน์ที่ดินหรือกิจกรรมการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์บริเวณลาดตลิ่งริมฝั่งของแม่น้ำโขง จึงขอให้ระมัดระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนความคืบหน้าแผนการจัดสรรน้ำทั้งประเทศในช่วงฤดูแล้ง ปี 2561/62 ทั่วประเทศจากแผนจำนวน 23,100 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดพบว่า การจัดสรรน้ำตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.61 ถึงปัจจุบันจำนวน 20,157 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 88% ของแผนการจัดสรรน้ำ คงเหลือ 2,943 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 12% โดยลุ่มน้ำสำคัญๆ ที่มีการจัดสรรน้ำมากกว่าแผน ได้แก่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา จัดสรรน้ำแล้ว 7,771 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 106% จากแผนการจัดสรรน้ำ 7,300 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ลุ่มน้ำชี-มูล และลุ่มน้ำแม่กลองยังเป็นไปตามแผน โดยลุ่มน้ำชี–มูล จัดสรรแล้ว 1,055 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 97% ของแผนการจัดสรรน้ำ 1,083 ล้าน ลบ.ม. และลุ่มน้ำแม่กลอง จัดสรรแล้ว 4,452 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 78% ของแผนการจัดสรรน้ำ 5,700 ล้าน ลบ.ม. ขณะเดียวกัน สทนช.ยังกำกับ ติดตาม การบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง เพื่อสืบสานประเพณีเทศกาลสงกรานต์ ตามที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีแผนระบายน้ำสนับสนุนน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-18 เม.ย.62 รวมทั้งประเทศ 13.76 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็น ภาคเหนือ 9.6 ล้าน ลบ.ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3.7 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก 0.4 ล้าน ลบ.ม.และภาคใต้ 0.06 ล้าน ลบ.ม.