ใครจะเชื่อว่า ปัญหาเรื่อง "เล็บ" เรื่องเล็กๆที่ดูจะไม่น่าจะร้ายแรง แต่กลับเป็นสัญญาณบอกถึงโรคต่างๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น มะเร็งบางชนิด เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ. นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องแรกที่อยากจะกล่าวถึงคือ "เล็บที่เป็นหลุม" ซึ่งพบได้ในหลายโรค เช่น สะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ รวมทั้ง ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ศ. นพ.ประวิตร  อัศวานนท์  เฉพาะในเรื่องโรคสะเก็ดเงินนั้น เล็บจะแสดงอาการได้หลายรูปแบบ เช่น เล็บแยกตรงปลาย ปกติเล็บคนเรามักจะติดกับเนื้อใต้เล็บถึงตรงปลายเห็นเป็นสีชมพู พอจนถึงตรงปลายเล็บถึงจะแยกจากเนื้อ เห็นเป็นแถบแคบๆสีเหลืองๆ ในคนไข้ที่เป็นสะเก็ดเงินนั้น ตรงปลายเล็บก็จะแยกเป็นสีเหลืองๆ กว้างกว่าปกติ หรือบางคนก็จะเหมือนมีหยดน้ำมันอยู่ตรงกลางเล็บหรือเล็บหนาผิดปกติ เหล่านี้เป็นการเปลี่ยนแปลงของเล็บในโรคสะเก็ดเงินได้ นอกจากนี้เล็บเป็นสิ่งที่บ่งบอกของลักษณะนิสัยบางอย่างอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะในคนที่ขยันมากๆ ทำงานบ้านตลอดเวลา ล้างจาน ล้างแก้วหรือในบางอาชีพ เช่น เป็นช่างทำผม บางที "จมูกเล็บอาจจะอักเสบ" วิธีสังเกตง่ายๆ ให้ดูผิวหนังตรงโคนเล็บ ถ้าดูบวมๆ แดงๆ ร่วมกับเห็นแผ่นเล็บเป็นร่องๆ ลักษณะนี้ไม่ใช่เชื้อรา ต้นเหตุจริงๆ คือการอักเสบของโคนเล็บ ทำให้เกิดเล็บที่เป็นร่องๆ ตามมาได้ จมูกเล็บอักเสบ อีกเรื่องหนึ่ง คือ "ภาวะเลือดออกใต้เล็บ" ที่เกิดจากการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย เมื่อมีเลือดออกใต้เล็บวิธีการสังเกต ก็คือว่า ถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นสีของเลือด จะมีลักษณะสีแดงเข้มๆ หรือสีม่วงๆ และหากเกิดขึ้นกะทันหัน เช่น วิ่งกลับมาแล้วพบ ก็จะเป็นเรื่องของเลือดออกใต้เล็บ ซึ่งอาการเหล่านี้ถ้าเจอก็จะต้องรักษาไปตามอาการที่เป็นและสามารถเจาะเอาเลือดออกได้ เล็บของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามอายุของเล็บก็คือการที่เล็บจะเป็นสันๆ ลักษณะเหล่านี้คือริ้วรอย หรือ ความเหี่ยวย่นของเล็บนั่นเอง ก็ทำให้เป็นเส้นยาวๆ ตามเล็บได้ วิธีสังเกตง่ายๆ จะเป็นเส้นที่ขนานๆ กันดูเป็นระเบียบและก็เป็นเหมือนๆ กัน แทบจะทุกเล็บ เล็บเป็นหลุม อย่างไรก็ตามยังสิ่งที่เราพบมากในผู้สูงอายุ นอกจากจะมีร่องมีสันแล้ว บางทีเล็บก็จะโค้งไปตามอายุด้วย ซึ่งเมื่อเป็นมากๆ สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือเล็บจะจิกไปในเนื้อได้ง่ายขึ้น รวมทั้งอาจเกิดช่องใต้เล็บขึ้นมา ซึ่งทำให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าไปอาศัยได้ง่าย ยังมีอาการอีกหลายแบบที่ทุกคนควรทราบ โดยผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย"