ด้วยภารกิจที่ไม่เพียงจัดการเรียน-สอน-ทำวิจัย ยังมุ่งมั่นทำประโยชน์เพื่อสังคมในหลากหลายทาง โดยมีแนวทางและจุดยืนที่ชัดเจน โดยเฉพาะตอบแทนเพื่อท้องถิ่น อดีตอธิการฯมข.ชี้นี่คือ DNA ของชาวมข. รศ.นพ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า Times Higher Education (THE) สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก จากประเทศอังกฤษ ที่ทุกมหาวิทยาลัยในประเทศไทยและทั่วโลกให้การยอมรับในการจัดอันดับ ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัย โดยในการประกาศผลTHE Social Impact Ranking 2019 หรือมหาวิทยาลัยที่ดำเนินภารกิจเพื่อสังคมที่สร้างผลกระทบต่อสังคม ซึ่งเป็นการจัดอันดับด้านนี้เป็นปีแรก พบว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 101-200ของโลก และเป็นอันดับ 1ของประเทศไทย ซึ่งการจัดอันดับในครั้งนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างผลกระทบสูงเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยตามพันธะ Sustainable Development Goals (SDGs) ของสหประชาชาติ 11 ใน 17 ข้อตามรายงานล่าสุดของ THE World University Impact Rankings 2019 (March 3, 2019) สำหรับ มข. ผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติ 4 อันดับแรกที่ได้คะแนนสูงสุดคือ 1) ส่งเสริมการจัดการการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เท่าเทียมและตลอดชีพ 2) ส่งเสริมควาามมีสุขภาพดีแก่ประชาชนทุกช่วงวัย 3) ลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ทั้งในและต่างประเทศ 4) ผสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนทั่วโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รศ.นพ.ชาญชัยกล่าวว่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา  มข.ได้ขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ มากมายภายใต้ทิศทางมหาวิทยาลัยอุทิศเพื่อสังคม  หรือ social Devotion ซึ่งส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ Social impact ของมข.  ปรากฏชัดเจน ซึ่งมข.มีนักวิชาการที่นอกจากทำการเรียนการสอนและการวิจัยแล้ว ยังออกไปบริการวิชาการ  โดยแบ่งออกเป็น  3  กลุ่ม คือ 1.ด้านการศึกษา  มข.มีโครงการคณิตศาสตร์ศึกษา โครงการพัฒนาสมรรถนะนักเรียนด้วยนวัตกรรม KKU Smart Learning ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาระดับประถมและมัธยมศึกษา 2. ทางด้านสังคม  มีโครงการแก้ปัญหาความยากจน  ของชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนำองค์ความรู้ ด้านการเกษตร  และเทคโนโลยีเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำทางด้านอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนชาวอีสานให้ดียิ่งขึ้น  3. ด้านสุขภาพ เนื่องจาก มข.เป็นมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนและการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ  ทำให้ได้งานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาของสุขภาพของประชาชน เช่นโครงการ cascap  โครงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย  รวมทั้งการแก้ปัญหาโรคไตเรื้อรัง ซึ่งโครงการเหล่านี้ทำเพื่อช่วยเหลือสังคม ด้าน รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อดีตอธิการบดี มข.  ผู้ตั้งปรัชญาให้กับ มข.ว่า“มหาวิทยาลัยอุทิศเพื่อสังคม” กล่าวว่า สิ่งที่เราคิดและทำมาตลอดคือการทำประโยชน์เพื่อสังคมและแก้ปัญหาให้กับสังคม โดยมีกระบวนการ แนวทางที่ชัดเจนและมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ทำให้ได้รับการจัดอันดับที่สูงเป็นอันดับ1ในประเทศไทย และอันดับที่ 101-200ของโลก ดีใจว่าการทำงานต่าง ๆ เหล่านี้เมื่อเราทำงานได้รับการตอบสนองและยอมรับจากสังคม มหาวิทยาลัยทำงานวิจัยไปไม่ได้เป็นงานวิจัยที่อยู่บนหิ้งแต่สามารถแก้ปัญหาให้กับสังคมได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คือความภาคภูมิใจ และนี่คือความสำเร็จของมข.ที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง  และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะยังคงอยู่และถูกทำต่อไปอย่างยาวนานและกลายเป็น DNA ของคณาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรของมข.ทุกคน