วันนี้ (7 เมษายน 2562 ) เวลา 09.30 น. พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ประกอบด้วย พลเรือเอก โสภณ วัฒนมงคล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ ผู้อำนวยการการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562 พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน เสนาธิการทหารเรือ พลเรือเอก นภดล สุภากร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พลเรือโท ไกรศรี เกสร รองเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธการ พลเรือโท สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562 บริเวณหาดท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยมี พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พลเรือตรี วราห์ แทนขำ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และ พลเรือตรี เทวินทร์ ศิลปชัย ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ การฝึกในวันนี้เริ่มด้วยการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง(สอ.รฝ.)โดยหน่วยยิง กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 ได้ทำการฝึกยิงเป้าอากาศยาน หน่วยยิง กองพันรักษาฝั่งที่ 11 ฝึกยิงเป้าพื้นน้ำและหน่วยยิงจาก กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 และ กองพันปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพลนาวิกโยธิน ได้ทำการยิงอาวุธปล่อยประทับบ่าแบบ QW – 18 ตามลำดับ จากนั้น กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ฝึกการจุดระเบิดทุ่นระเบิดทอดประจำที่ปราบเรือดำน้ำแบบล่องหน(Mi9) จำนวน2ลูกจากนั้นจึงเข้าสู่การฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกกองทัพเรือเป็นประจำทุกปี เพื่อบูรณาการการฝึกภายในกองทัพเรือด้วยการนำขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือตามสาขาต่าง ๆ การปฏิบัติและการสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษา ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์การฝึกเดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยการฝึกในปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร ทดสอบการอำนวยการยุทธ์ของศูนย์ปฏิบัติการต่าง ๆ ของกองทัพเรือ และทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการของหน่วยต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ 1) เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร 2) เพื่อทดสอบแนวทางการใช้กำลัง และการอำนวยการยุทธ์ ตามคำสั่งยุทธการที่ใช้ในการฝึก ในสถานการณ์ภาวะความขัดแย้งระดับปานกลางถึงระดับสูง 3) เพื่อทดสอบขีดความสามารถการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ กองทัพเรือได้อนุมัติให้จัดการฝึกกองทัพเรือตามวงรอบการฝึก 2 ปี โดยใช้สถานการณ์ฝึกต่อเนื่องซึ่งในปีแรก (2561) ได้ทำการฝึกสถานการณ์ในภาวะปกติจนถึงภาวะความขัดแย้งระดับต่ำหรือขั้นการเตรียมการก่อนเข้าสู่ภาวะสงครามเรียบร้อยไปแล้ว และการฝึกในปีนี้จะทำการฝึกสถานการณ์ภาวะความขัดแย้งระดับปานกลางถึงความขัดแย้งระดับสูง ทำการฝึกภาคปฏิบัติในลักษณะบูรณาการ ด้วยการสนธิกำลังระหว่างหน่วยทำการฝึกโดยใช้สถานการณ์ฝึกเดียวกัน เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ขั้นการฝึกที่สำคัญในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562 ประกอบด้วย 1. การฝึกปัญหาที่บังคับการ ซึ่งเป็นการฝึกทดสอบกระบวนการวางแผนเผชิญสถานการณ์วิกฤติ การฝึกทดสอบการตัดสินใจ ตามกระบวนการวางแผนทางทหาร และทดสอบการอำนวยการยุทธ์ตามคำสั่งยุทธการการฝึกโดยจะทำการฝึก ระหว่างวันที่ 11 - 28 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นการฝึกสถานการณ์ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 18 - 28 มีนาคม 2562 2. การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล จะเป็นการฝึกภาคปฏิบัติในลักษณะบูรณาการ ด้วยการสนธิกำลังระหว่างหน่วยทำการฝึก โดยใช้สถานการณ์ฝึกเดียวกัน เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ และที่สำคัญจะได้มีการบูรณาการการฝึกร่วมกับกำลังของกองทัพบกและกองทัพอากาศด้วย ทำการฝึกระหว่างวันที่29 มีนาคม - 17 เมษายน และระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤษภาคม 2562 ในพื้นที่ทั้งด้านอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน โดยมีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ ดังนี้ 2.1 การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือและอากาศยานของกองทัพอากาศ ในพื้นที่บริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ด้านตะวันตกของจังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 4 - 7 เมษายน 2562 2.2 การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี C-802A ในวันที่ 5 เมษายน 2562 2.3 การฝึกจุดทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำแบบล่องหน และการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณหาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ในวันที่ 7 เมษายน 2562 2.4 การฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ซึ่งจะมีการฝึกปฏิบัติการร่วมของกองกำลังนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กำลังของกองทัพบก และกำลังของกองทัพอากาศบริเวณสนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤษภาคม 2562 ทั้งนี้ กองทัพเรือได้จัดกำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ อาวุธ และยุทโธปกรณ์ที่สำคัญเข้าร่วมการฝึกในสถานการณ์ต่าง ๆ ประกอบด้วย กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงบางปะกงเรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงสงขลา เรือหลวงราชฤทธิ์ เรือหลวงล่องลม เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงถลาง เรือหลวงลาดหญ้า เรือหลวงท่าดินแดง เรือหลวงแหลมสิงห์ เรือหลวงมันใน อากาศนาวี ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก กำลังรบจากกองทัพบกและอากาศยานจากกองทัพอากาศ ทั้งนี้ การฝึกกองทัพเรือ ถือเป็นนโยบาย ที่ผู้บัญชาการทหารเรือให้ความสำคัญ เพื่อให้กำลังพลทุกระดับ และทุกหน่วยรบ มีความพร้อมสูงสุด ส่งผลให้กองทัพเรือสามารถรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้ ตั้งแต่สถานการณ์ปกติจนถึงสถานการณ์วิกฤตขั้นสูงสุด ไม่ยิ่งหย่อนกว่าชาติใดในภูมิภาค บรรลุตามวิสัยทัศน์ กองทัพเรือที่ว่า "เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ" สามารถส่งมอบคุณค่าให้กับประชาชนและสังคม "เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ"