วันที่ 3 เม.ย.ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ชี้แจงกรณีการออกหมายเรียก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในข้อหา ม.116 ฐานยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2558 เวลาประมาณ 22.00 น. มีการชุมนุมกันที่หน้า สน.ปทุมวัน เป็นเรื่องเก่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ยังไม่ออก ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งเพราะรัฐธรรมนูญยังไม่มี เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง ส่วนที่เวลาที่ช้านาน เพราะคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเมื่อปี 2558 โดยตนเป็นคนตั้งคำสั่งสมัยที่เป็นผบช.น.แต่หัวหน้าพนักงานสอบสวนในขณะนั้นได้ย้ายไป ต่อมาปี 2559 มีการออกคำสั่งใหม่หัวหน้าแต่พนักงานสอบสวนได้เกษียนอายุราชการ กระทั่งปี 2561ได้สั่งตั้งกรรมการชุดใหม่ปรากฏว่าหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้ตัดโอนไปเป็นรองเลขาธิการ ปปง.สำนวนจึงค้างคาอยู่ กระทั่งมีการตั้งตั้งโยกย้ายระดับ รอง ผบก.-สว. เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.ปทุมวัน จึงมีการรับส่งมอบสำนวน เมื่อตรวจดูพบว่ามีสำนวนความมั่นคงตกค้าง ผกก.ปทุมวัน จึงเข้ามาปรึกษา ตนจึงได้สั่งการให้ทำตามระเบียบ คดีนี้ศาลทหารให้ออกหมายเรียกข้อหา 116 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.58 พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อศาลสั่งให้ดำเนินก็ต้องดำเนินการ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเลือกตั้ง เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 ยังไม่ออก และคำสั่งย้าย ผกก.ก็มีก่อนเลือกตั้ง จึงต้องมีการเคลียร์สำนวนคดีที่ตกค้าง ส่วนคนที่ออกมาวิจารณ์เป็นการขัดขาการจัดตั้งรัฐบาลไม่เกี่ยวกัน เลือกตั้งก็ผ่านไปแล้ว ลงคะแนนก็ลงไปแล้ว คนวิจารณ์รู้กฎหมายหรือเปล่า จะไปบอกว่าดิสเครดิตแล้วจะไปดิสเครดิตใคร เมื่อเรื่องเกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่า กกต.จะไม่ประกาศรับรองเพราะศาลยังไม่ตัดสิน เป็นไปไม่ได้ที่ศาลจะตัดสินก่อนวันที่ 9 พ.ค.นี้ ไม่ได้ดิสเครดิตใครในมุมมองตนเป็นการสอบสวนตามวิอาญา การออกหมายเรียกครั้งนี้พนักงานสอบสวนมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ถ้าไม่มีมูลไม่สามารถออกหมายเรียกได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงจังหวะเวลาในการออกหมายเรียกนายธนาธร ในช่วงเวลานี้จะเป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ไม่ทราบ รู้แต่ว่าทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย รู้แต่ว่าศาลสั่งตั้งแต่ปี 2558 แล้วไม่ดำเนินการอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ตนก็เพิ่งทราบ ถ้าทราบก่อนหน้านี้ก็ทำไปแล้ว ส่วนนายธนาธร นอกจากคดี 116 ถ้าพบความผิดอย่างอื่นก็ต้องสอบสวนก่อน ถ้าเข้าข้อกฎหมายต้องแจ้งเพิ่ม ทุกอย่างมีหลักฐาน นายธนาธร เองโพสต์เฟชบุ๊คว่าเขาไปปิดหน้าโรงพัก ถ้าเข้าหลักข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีต่อไป เช่นเดียวกับกรณี แม่ของนายธนาธร ตั้งแต่ปี 2558 พนักงาสอบสวนได้ออกหมายเรียกแม่นายธนาธร มาให้ปากคำแล้ว แต่ได้ส่งทนายมาให้การเพียงครึ่งเดียวอีกครึ่งหายไป เมื่อหัวหน้าพนักงานสอบสวนย้ายการสอบสวนก็หยุดชะงักไป หลังจากนี้จะออกหมายเรียกแม่นายธนาธร มาสอบปากคำเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่าวันที่ 6 เม.ย.ที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายธนาธร มารับทราบข้อหานั้น ถ้ามารับทราบก็มา แต่ถ้ามาทำอย่างอื่นที่ผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย ส่วนที่บก.ปอท.มีการออกหมายเรียก นายปิยบุตร มันคนละเรื่องกัน หมายเรียกนายธนาธร ตั้งแต่ปี 2558 ส่วนของนายปิยุบตร ปี 2562 จะมาโยงกันได้อย่างไร แต่จะวิจารณ์อะไรก็แล้วแต่ อย่าทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหายแล้วกัน เราทำงานตรงไปตรงมาตามอำนาจหน้าที่ จะมาบอกว่าเราเป็นลูกกระเป๋งใคร บังคับให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ ถ้าไม่รู้ข้อเท็จจริงมันเสียหาย บุคคลอื่นทำได้ไหม มันเหมาะมันควรหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่มีการดิสเครดิตใคร ขอให้ใช้ดุลพินิจในการรับข้อมูล