อดีตผู้สมัครพรรคเพื่อชาติ เขต 1 จ.ตรัง ร้อง เดือดร้อนเงินใช้จ่ายในการหาเสียง ทวงถามเงินค่าหาเสียงกับหัวหน้าพรรค หลังเป็นหนี้บานตะไท ที่จังหวัดตรัง วันที่ 3 เมษายน 2562 นายนงค์ ดำหมาน (หนังนงค์ บางรัก) อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 318/10 ถนนกันตัง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ตนได้รับคัดเลือกจากพรรคให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรคเพื่อชาติ และต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ใช้ในการหาเสียงประมาณ 7 – 8 แสนบาท ขณะที่มีเพื่อนฝูงช่วยเหลือมาบ้างแล้ว ขณะนี้ตนเองยังเป็นหนี้สินอีกประมาณ 4 – 5 แสนบาท ยังไม่มีเงินไปชดใช้ ทั้งค่าไวนิล ค่าป้ายหาเสียง ค่ารถแห่ หาเสียง ค่าคนช่วยหาเสียง ค่าติดตั้งป้าย – ถอนป้ายหาเสียง ค่าสปอตหาเสียง ทั้งหมดตนยังหนี้ยังไม่มีเงินไปจ่าย นายนงค์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากพรรคไม่ได้ให้เงินช่วยเหลือมาส่วนของพรรคที่ทยอยช่วยเหลือมาในเบื้องต้นในระยะ 1 เดือนแรกที่ลงสมัคร รวมจำนวน 4 ครั้ง เป็นเงินรวม 130,000 บาท ซึ่งตนเองนำไปช่วยในการจัดตั้งศูนย์ประสานงานที่ อ.ห้วยยอด ค่ารับสมัครสมาชิกพรรค ทำป้ายไวนิล ป้ายหาเสียงต่างๆ และใช้จ่ายอื่นๆ ก็หมด หลังจากนั้นพรรคก็ทอดทิ้งไม่ส่งเงินมาให้อีกเลย โดยบอกว่า ให้ผู้สมัครช่วยตัวเองไปก่อน ซึ่งตามกฎหมายค่าใช้จ่ายผู้สมัครแต่ละคนกกต.กำหนดไว้ไม่เกินคนละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งผู้สมัครรวมทั้งตนก็คิดว่าทางพรรคคงจะช่วยแน่นอน แม้ว่าจะไม่มาก อยากเรียกร้องให้พรรคช่วยเหลือมาบ้าง แม้ว่าจะไม่ทั้งหมดแต่ก็พอได้บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจะได้ไม่ต้องควักกระเป๋าเองทั้งหมด “หากไม่ช่วยไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะชดใช้หนี้สินได้ทั้งหมด ส่วนตัวที่เลือกลงสมัครพรรคเพื่อชาติ เพราะชื่นชอบในแนวทางประชาธิปไตยและชอบที่สุดคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายอารีย์ ไกรนรา รองผู้หน้าพรรค เพราะคิดว่าทั้ง 2 คน เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่เรามาพบกับความผิดหวังเรื่องการเงิน และถูกพรรคทอดทิ้งตั้งแต่เดือนแรกที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทำให้การหาเสียงค่อนข้างยากลำบาก ไม่มีเงินเดินหน้า ส่วนตัวอยากเดินทางไปทวงถามด้วยตนเอง แต่ติดงานแสดงหนังตะลุง เพราะช่วงหาเสียงได้งดรับงานแสดงหนังตะลุงไปเลย เพราะกลัวจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และเห็นด้วยที่อดีตผู้สมัครจะทวงถาม เพราะผลการเลือกตั้งที่ออกมาคะแนนเสียงจากผู้สมัครระบบเขตทั่วประเทศทำให้พรรคได้ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยถึง 5 คน ซึ่งหากไม่ได้ ส.ส.เลยก็ไม่ควรไปทวงถาม แต่ได้แล้วพรรคก็ควรจะต้องช่วยเหลืออดีตผู้สมัครด้วย ทั้งนี้ หนี้สินทั้งหมดหากทางพรรคไม่ช่วยมาคงจะต้องเป็นหนี้ไปอีกนาน และยังอยู่ระหว่างการคิดตัดสินใจว่าจะลาออกจากการเป็นสมาชิกหรือไม่” นายนงค์ กล่าว