“หมอระวี”เผย มีหลายพรรคทาบทามร่วมจัดตั้ง รบ.ย้ำ พร้อมเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ แต่หากต้องทำให้ประเทศเดินหน้าได้ ก็พร้อมหนุน “บิ๊กตู่” วันที่ 29 มี.ค.62 นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวภายหลังจากการประกาศคะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งในการคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่า พรรคพลังธรรมใหม่อาจจะได้ 1 ที่นั่งในรัฐสภาว่า ขณะนี้ตนก็ยังไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าพรรคพลังธรรมใหม่จะได้ที่นั่งในรัฐสภา 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ และถึงจะได้เราก็เป็นเพียงแค่ 1 เสียงเท่านั้น เราคงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เมื่อถามว่าหากได้คะแนนเสียง พรรคพลังธรรมใหม่จะเลือกอยู่กับฝ่ายใดนั้น นพ.ระวี กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ การเมืองมีเพียง 2 ขั้ว และก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายไหนสามารถรวบรวมคะแนนเสียงข้างมากได้ ซึ่งพรรคพลังธรรมใหม่ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่านค้านที่มีคุณภาพหากเราสามารถทำให้ประเทศชาติได้รับผลประโยชน์สูงสุด แต่ถ้าสุดท้ายแล้วการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีและประเทศสามามรถเดินหน้าได้ เราก็ต้องเลือกทางนั้น “การที่พรรคพลังธรรมใหม่จะเข้าร่วมกับฝ่ายใดนั้น เราได้ยื่นข้อเสนอแล้วว่า พรรคจะต้องสามารถยื่นญัตติและอภิปรายได้ตามนโยบายของพรรค และหากรัฐบาลใหม่มีการคอร์รัปชั่น หรือทุจริตเชิงนโยบายที่ชัดเจน ถึงแม้เราจะร่วมรัฐบาลเพียงแค่ 1 เสียง เราก็จะต่อต้านรัฐบาลมีการกระทำเช่นนี้ทันที” นพ.ระวี กล่าว เมื่อถามว่าวันนี้ตัดสินใจหรือยังว่าจะร่วมงานกับพรรคใด นพ.ระวี กล่าวว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจในวันนี้ เพราะการรับรองจาก กกต.ที่จะประกาศรับรองในวันที่ 9 พ.ค.ก็ยังมาไม่ถึง และที่สำคัญพรรคจะต้องสอบถามสมาชิกทั่วประเทศว่าต้องการให้พรรคพลังธรรมใหม่เดินไปในทิศทางใด ซึ่งผลตรงนี้คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าเราถึงจะได้ความชัดเจนภายในพรรคก่อน ถามต่อว่า ในตอนนี้ได้รับการติดต่อทาบทามมาจากพรรคใดบ้างนั้น นพ.ระวี กล่าวว่า ตามมารยาทแล้วตนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ก็ยอมรับว่า มีหลาย ๆ พรรคติดต่อมา แต่ตนยังต้องรอความชัดเจนในหลาย ๆ ด้าน “สถานการณ์การเมืองในขณะนี้เป็นไปได้ไม่กี่ทาง ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ซึ่งทางนี้น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เพราะในขณะนี้เมื่อคะแนนนิ่งแล้ว พบว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมก็ไม่ถึง 255 คน เพราะฉะนั้นหากเพื่อไทยยังไม่สามารถหากพรรคร่วมได้ พรรคเพื่อไทยก็อาจจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะเป็นทางพรรคพลังประชารัฐที่มีโอกาสมากกว่า แต่ท้ายสุดแล้วประเทศไทยจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากพอที่จะเข้ามาบริหารประเทศให้เดินหน้าต่อได้”นพ.ระวี กล่าว