วันนี้ฝุ่นในกทม.ลดจากเมื่อวาน “เชียงใหม่” กระโดดจากอันดับ 7 ขึ้นเป็นที่ 3 โลก จิสด้าเผยภาพดาวเทียม ภาคเหนือยังแชมป์จุดความร้อนสูงสุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ด้านชาวเชียงราย เผยภาพเปรียบเทียบให้เห็นความรุนแรงของฝุ่น จนสุดจะทนไหว จี้รัฐบาลแก้ไข ขณะเยาวชนเอเชีย-ทั่วโลกรวมตัวเรียกร้องผู้นำทั้งหลายเร่งปกป้องสภาพอากาศก่อนจะสายเกินไป กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ประจำวันที่ 28 มี.ค.62 ระบุปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ลดลงจากเมื่อวาน ปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ทุกพื้นที่ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงดีมาก จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ของ คพ. คาดว่าในวันพรุ่งนี้ปริมาณ PM2.5 มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ขณะที่การจัดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ของโลก Air quality and pollution city ranking ประจำวันที่ 28 มี.ค.62 เมื่อเวลา 09.50 น. พบว่า วันนี้ เมืองเชียงใหม่ ประเทศไทย อยู่ในลำดับที่ 3 ของโลก ค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 177 AQI เพิ่มจากเมื่อวานที่อยู่ในลำดับที่ 7 ของโลก ขณะที่กทม. วันนี้อยู่ในลำดับที่ 40 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 67 AQI ข้อมูลจากดาวเทียม Terra และ Aqua ของระบบ MODIS ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.62 พบจุดความร้อน หรือ hotspot ทั้งประเทศ 105 จุด แบ่งเป็นภาคเหนือ 55 จุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 30 จุด ภาคกลาง 12 จุด ภาคตะวันออก 2 จุด และภาคตะวันตก 4 และภาคใต้ 2 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทั้งนี้ ปัญหาฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือได้สร้างผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ดังที่ได้สะท้อนจาก ทวิตเตอร์ naaaniiiiii‏ @lim_chenyang ได้ทวิตข้อความระบุ “สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจว่าปัญหาฝุ่นภาคเหนือมันรุนแรงขนาดไหน จากภาพ 3 ภาพ คือถ่ายที่ จ.เชียงราย หลังห้องเราเอง ถ่ายแบบปกติ ไม่แต่งไรเลย รูปแรก ถ่ายตอนเดือนพฤษภาคมปีก่อน รูปที่สองถ่ายตอนเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูหมอกควัน จะเห็นว่ารูปที่ 2 ภูเขาต่างๆ เริ่มหายไปแล้ว พอมารูปที่ 3 คือวันนี้ (24มี.ค.62) ที่เชียงรายค่า AQI (ดัชนีคุณภาพอากาศ) ประมาณ 300 กว่าๆ คือท้องฟ้าต่างๆ สีเหลืองๆ อมส้มแบบนี้เลย ส่วนที่เชียงใหม่ ที่เขาบอกกันว่า AQI 500 ไม่รู้จะขนาดไหน ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ ประชาชนตาดำๆ อย่างเราๆ คงต้องป้องกันตัวเองต่อไป ตัวใครตัวมัน ละต้องยอมรับผลกระทบทางสุขภาพในระยะยาวกันเอง นี่ยังไม่นับผู้ป่วยต่างๆ อีกนะ ดูแล้วอนาคตมืดมน สุดท้ายนี้ ถ้าประเทศนี้ยังพอมีความหวัง ถ้าได้รัฐบาลใหม่ ขอให้คุณช่วยมาดูแลสถานการณ์ทุกข์สุขของประชาชนด้วย อยากให้คุณเข้ามาดูแลปัญหานี้อย่างจริงจัง เชื่อว่าประชาชนพร้อมจะช่วยกันเสมอ...” ด้าน กรีนพีซ ทวิตเตอร์ ได้ทวิตข้อความระบุ มีคลิปที่ ขณะนี้นักเรียนในทวีปเอเชียร่วมกิจกรรมพร้อมกับเยาวชนทั่วโลกในการเป็นผู้นำการขับเคลื่อนด้านสภาพภูมิอากาศเพื่อเรียกร้องให้ผู้นำและผู้มีอำนาจในการตัดสินใจลงมือปกป้องสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะสายเกินไป