วันที่ 26 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 08.00 น. ร.ต.อ.ภูวดล กุลตังวัฒนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพนพิสัย ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 68 หมู่ 10 บ้านถิ่นดุง ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ภูวิช ศิริพานิช ผกก.สภ.โพนพิสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพนพิสัย เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.โพนพิสัย นายแพทย์ณัฐกฤษฏ์ อนันต์สิทธิสาร แพทย์เวรโรงพยาบาลโพนพิสัย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย หน่วยกู้ภัยโพนพิสัย กู้ภัยตำรวจทางหลวงอุดรธานีจุดโพนพิสัย
เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น ทั้งชั้นบนและชั้นล่างเป็นไม้ มีความกว้างประมาณ 10 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร ด้านหน้าของตัวบ้านเป็นห้องโถง 1 ห้อง บริเวณหน้าบ้านเป็นโรงจอดรถ ส่วนที่บริเวณพบผู้เสียชีวิตอยู่ด้านหลังบ้าน พบทรัพย์สินของผู้ตายกระจัดกระจายอยู่รอบบริเวณดังกล่าว และมีร่องรอยการต่อสู้ บริเวณทางเข้าพบศพผู้เสียชีวิตรายที่ 1 ทราบชื่อนายองอาจหรือโอ๋ ศิลาคม อายุ 42 ปี สภาพศพนอนหงายมีร่องรอยบาดแผลลึกบริเวณหน้าผาก คล้ายถูกตีด้วยของแข็ง สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นเสื้อยืด และพบศพผู้เสียชีวิตอีกรายทราบชื่อนายอำนาจหรืออุ๋ย ศิลาคม อายุ 41 ปี นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าในห้อง มีบาดแผลคล้ายถูกของแข็งทุบบริเวณหน้าผาก แพทย์ชันสูตรพลิกศพพบเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-7 ชั่วโมง โดยทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน
สอบสวนนายจรูญศักดิ์ ศิลาคม พ่อของผู้ตายทั้งสอง ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562 เวลา 17.00 น.มีนายอ่าง เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย ได้เข้ามาหาตนที่บ้านและบอกกับตนว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองได้นำมือถือของตนมา ก่อนที่จะเดินทางกลับ
ต่อมาเวลา 19.00 น.นายอ่างได้เดินทางมาที่บ้านตนอีกรอบและได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ตายทั้งสองคนก่อนที่จะด่าทอกันไปมา และนายอ่างได้เดินทางกลับ
ต่อมาเวลา 20.00 น.ขณะที่ตนนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ชั้นสองของบ้านกับ นางหมั้น นิตตะโย ภรรยา ได้เห็นว่ามีกลุ่มคนประมาณ 10 คนโดยภายในกลุ่มนั้นมีนายอ่างรวมอยู่ด้วย ได้เดินเข้ามาหาผู้ตายทั้งสองคนที่บริเวณที่เกิดเหตุและได้ยินเสียงคนร้องเหมือนกำลังถูกทำร้าย และกลุ่มคนดังกล่าวยังได้ทำลายทรัพย์สินบางส่วนภายในบ้านอีกด้วย โดยตนไม่กล้าออกมาดูเนื่องจากหวาดกลัว และไม่กล้าแจ้งตำรวจในทันที จนรุ่งเช้าถึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อจะได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านศพของทั้งสองคนญาติๆได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดผดุงสุข ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย.
เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น ทั้งชั้นบนและชั้นล่างเป็นไม้ มีความกว้างประมาณ 10 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร ด้านหน้าของตัวบ้านเป็นห้องโถง 1 ห้อง บริเวณหน้าบ้านเป็นโรงจอดรถ ส่วนที่บริเวณพบผู้เสียชีวิตอยู่ด้านหลังบ้าน พบทรัพย์สินของผู้ตายกระจัดกระจายอยู่รอบบริเวณดังกล่าว และมีร่องรอยการต่อสู้ บริเวณทางเข้าพบศพผู้เสียชีวิตรายที่ 1 ทราบชื่อนายองอาจหรือโอ๋ ศิลาคม อายุ 42 ปี สภาพศพนอนหงายมีร่องรอยบาดแผลลึกบริเวณหน้าผาก คล้ายถูกตีด้วยของแข็ง สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นเสื้อยืด และพบศพผู้เสียชีวิตอีกรายทราบชื่อนายอำนาจหรืออุ๋ย ศิลาคม อายุ 41 ปี นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าในห้อง มีบาดแผลคล้ายถูกของแข็งทุบบริเวณหน้าผาก แพทย์ชันสูตรพลิกศพพบเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-7 ชั่วโมง โดยทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน
สอบสวนนายจรูญศักดิ์ ศิลาคม พ่อของผู้ตายทั้งสอง ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562 เวลา 17.00 น.มีนายอ่าง เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย ได้เข้ามาหาตนที่บ้านและบอกกับตนว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองได้นำมือถือของตนมา ก่อนที่จะเดินทางกลับ
ต่อมาเวลา 19.00 น.นายอ่างได้เดินทางมาที่บ้านตนอีกรอบและได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ตายทั้งสองคนก่อนที่จะด่าทอกันไปมา และนายอ่างได้เดินทางกลับ
ต่อมาเวลา 20.00 น.ขณะที่ตนนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ชั้นสองของบ้านกับ นางหมั้น นิตตะโย ภรรยา ได้เห็นว่ามีกลุ่มคนประมาณ 10 คนโดยภายในกลุ่มนั้นมีนายอ่างรวมอยู่ด้วย ได้เดินเข้ามาหาผู้ตายทั้งสองคนที่บริเวณที่เกิดเหตุและได้ยินเสียงคนร้องเหมือนกำลังถูกทำร้าย และกลุ่มคนดังกล่าวยังได้ทำลายทรัพย์สินบางส่วนภายในบ้านอีกด้วย โดยตนไม่กล้าออกมาดูเนื่องจากหวาดกลัว และไม่กล้าแจ้งตำรวจในทันที จนรุ่งเช้าถึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อจะได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านศพของทั้งสองคนญาติๆได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดผดุงสุข ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย.