สุรินทร์-เลือกตั้งวุ่นผู้สมัคร ส.ส.โนเนมพรรคเพื่อนไทยได้คะแนนนำสุงสุดเขต 3 เมืองช้างกว่า 2 แสน..พบสื่อส่วนกลางสำนักแห่งหนึ่ง..รายงานข่าวคลาดเคลื่อนเกินจริง.. ทั้งที่คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งแค่ 1.5 แสน..ด้านผู้สมัครเตรียมร้องเรียน กกต.สุรินทร์ขอทราบข้อเท็จจริง..ด้าน กกต.สุรินทร์..ยันรายงานถูกต้องชักเจนถึงส่วนกลางแล้ว..ปัดไม่เกี่ยวกับสื่อสำนักดังกล่าว
วันนี้(25 มีนาคม 2562) หลังจากผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่ง จ.สุรินทร์ แบ่งเป็น 7 เขตเลือกตั้ง มีจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น จำนวน 2,127 หน่วย ผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น 1,072,868 คน โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 มี 290 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 152,468 คน เขตเลือกตั้งที่ 2 มี 278 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 154,903คน เขตเลือกตั้งที่ 3 มี 330 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 156,396 คน เขตเลือกตั้งที่ 4 มี 320 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 156,399คน เขตเลือกตั้งที่ 5 มี 326 หน่วยเลือกตั้ง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 156,392 คน เขตเลือกตั้งที่ 6 มี 295 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 149,096 คน และเขตเลือกตั้งที่ 7 มี 288 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 147,214 คน
ซึ่งผลการนับคะแนนล่าสุดอย่างไม่เป็นทางการ จากสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ ได้รวบรวมทั้งหมดทุกหน่วย จาก 7 เขตเลือกตั้งแล้วอย่างไม่เป็นทางการ ผลปรากฏว่าพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ทั้ง 7 เขต แต่เดิมพรรคเพื่อไทยกวาดไปถึง 6 เขตเลือกตั้ง ให้กับพรรคภูมิใจไทย 1 เขต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่จะมีการสรุปผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการดังกล่าว ตลอดทั้งวันนี้ (25 มี.ค.62) กลับพบว่าในกระแสโลกโซเชี่ยลชาวสุรินทร์ ต่างมีการแชร์ผลคะแนนที่สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับประชาชนชาวสุรินทร์และตัวผู้สมัครเองเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบว่าข้อมูลในโลกโซเชี่ยล ซึ่งเป็นผลคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.ในเขต 3 ที่พบว่า นายรื่น เงางาม ผู้สมัครพรรคเพื่อนไทย เบอร์ 1 ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ได้คะแนนรวม 220,802 คะแนน โดยเป็นข้อมูลจากสำนักข่าวส่วนกลางสำนักหนึ่ง ทั้งที่จริงผลสรุปคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต.สุรินทร์ เฉพาะในเขต 3 ผู้ที่มีคะแนนนำสูงสุดคือ 1.นายคุณากร ปรีชาชนะชัย พรรคเพื่อไทย 29,254 คะแนน,2.น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ พลังประชารัฐ 28,492 คะแนน และ3.นายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา ภูมิใจไทย 18,408 คะแนน ไม่มีชื่อนายรื่น เงางาม ติดอันดับ 1-3 แต่อย่างใด
-ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามข้อมูลข้อเท็จจริงจากนายรื่น เงางาม งาม ผู้สมัครพรรคเพื่อนไทย เบอร์ 1 เปิดเผยว่า ตนเองก็พึ่งทราบข่าวจากโลกโวเชี่ยล ซึ่งมีคะแนนท่วมท้น กรณีดังกล่าวตนจะได้ร้องเรียนถึงข้อมูลข้อเท็จจริงถึงที่มาที่ไปต่อ กกต.สุรินทร์ ว่าคะแนนที่ชัดเจนเป็นอย่างไร สำหรับตนเองมีอาชีพเป็นเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.2 บ.ประวิทย์ ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ สาเหตุที่ลงสมัคร ส.ส.เนื่องจากตนเองชอบนโยบายของพรรคนี้ และหลังจากที่ตนเองลงสมัคร จากนั้น กกต.สุรินทร์ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติไม่ผ่าน เนื่องจาก กกต.กลางไม่รับรองหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ตนจึงร้องต่อศาล ศาลจึงคุ้มครองให้ตนเองสามารถเป็นผู้สมัคร ส.ส.และสามารถหาเสียงและประชาชนสามารถเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้ตนได้ ซึ่งกระบวนการอยู่ในชั้นศาล นายรื่น เงางาม กล่าว
-ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากนายรื่น เงางาม ได้คะแนนเลือกตั้ง จำนวน 220,802 ตามที่สื่อมวลชนส่วนกลางสำนักหนึ่งรายงานจริง และเป็นข้อมูลจาก กกต.จริงก็ตาม แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากข้อมูลของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 สุรินทร์ ทั้งหมด 330 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้นแค่เพียง 156,396 คน เท่านั้น ต่างกันกับผลคะแนนที่สื่อส่วนกลางสำนักหนึ่งรายงานเกินจำนวนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจริงเกือบ 5 แสนคน
-ขณะที่ กกต.สุรินทร์ เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ เป็นไปตามที่ กกต.สุรินทร์รายงานคือ ที่ 1.นายคุณากร ปรีชาชนะชัย พรรคเพื่อไทย 29,254 คะแนน,2.น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ พลังประชารัฐ 28,492 คะแนน และที่ 3.นายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา ภูมิใจไทย 18408 คะแนน ส่วนข้อมูลที่สื่อมวลชนส่วนกลางสำนักหนึ่งรายงาน ไม่ทราบว่าได้ข้อมูลมาจากไหน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อ กกต.สุรินทร์
ซึ่งผลการนับคะแนนล่าสุดอย่างไม่เป็นทางการ จากสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดสุรินทร์ ได้รวบรวมทั้งหมดทุกหน่วย จาก 7 เขตเลือกตั้งแล้วอย่างไม่เป็นทางการ ผลปรากฏว่าพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ทั้ง 7 เขต แต่เดิมพรรคเพื่อไทยกวาดไปถึง 6 เขตเลือกตั้ง ให้กับพรรคภูมิใจไทย 1 เขต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่จะมีการสรุปผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการดังกล่าว ตลอดทั้งวันนี้ (25 มี.ค.62) กลับพบว่าในกระแสโลกโซเชี่ยลชาวสุรินทร์ ต่างมีการแชร์ผลคะแนนที่สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับประชาชนชาวสุรินทร์และตัวผู้สมัครเองเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบว่าข้อมูลในโลกโซเชี่ยล ซึ่งเป็นผลคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.ในเขต 3 ที่พบว่า นายรื่น เงางาม ผู้สมัครพรรคเพื่อนไทย เบอร์ 1 ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ได้คะแนนรวม 220,802 คะแนน โดยเป็นข้อมูลจากสำนักข่าวส่วนกลางสำนักหนึ่ง ทั้งที่จริงผลสรุปคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจาก กกต.สุรินทร์ เฉพาะในเขต 3 ผู้ที่มีคะแนนนำสูงสุดคือ 1.นายคุณากร ปรีชาชนะชัย พรรคเพื่อไทย 29,254 คะแนน,2.น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ พลังประชารัฐ 28,492 คะแนน และ3.นายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา ภูมิใจไทย 18,408 คะแนน ไม่มีชื่อนายรื่น เงางาม ติดอันดับ 1-3 แต่อย่างใด
-ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามข้อมูลข้อเท็จจริงจากนายรื่น เงางาม งาม ผู้สมัครพรรคเพื่อนไทย เบอร์ 1 เปิดเผยว่า ตนเองก็พึ่งทราบข่าวจากโลกโวเชี่ยล ซึ่งมีคะแนนท่วมท้น กรณีดังกล่าวตนจะได้ร้องเรียนถึงข้อมูลข้อเท็จจริงถึงที่มาที่ไปต่อ กกต.สุรินทร์ ว่าคะแนนที่ชัดเจนเป็นอย่างไร สำหรับตนเองมีอาชีพเป็นเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.2 บ.ประวิทย์ ต.บุแกรง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ สาเหตุที่ลงสมัคร ส.ส.เนื่องจากตนเองชอบนโยบายของพรรคนี้ และหลังจากที่ตนเองลงสมัคร จากนั้น กกต.สุรินทร์ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติไม่ผ่าน เนื่องจาก กกต.กลางไม่รับรองหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ตนจึงร้องต่อศาล ศาลจึงคุ้มครองให้ตนเองสามารถเป็นผู้สมัคร ส.ส.และสามารถหาเสียงและประชาชนสามารถเลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้ตนได้ ซึ่งกระบวนการอยู่ในชั้นศาล นายรื่น เงางาม กล่าว
-ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากนายรื่น เงางาม ได้คะแนนเลือกตั้ง จำนวน 220,802 ตามที่สื่อมวลชนส่วนกลางสำนักหนึ่งรายงานจริง และเป็นข้อมูลจาก กกต.จริงก็ตาม แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากข้อมูลของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 สุรินทร์ ทั้งหมด 330 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้นแค่เพียง 156,396 คน เท่านั้น ต่างกันกับผลคะแนนที่สื่อส่วนกลางสำนักหนึ่งรายงานเกินจำนวนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจริงเกือบ 5 แสนคน
-ขณะที่ กกต.สุรินทร์ เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ เป็นไปตามที่ กกต.สุรินทร์รายงานคือ ที่ 1.นายคุณากร ปรีชาชนะชัย พรรคเพื่อไทย 29,254 คะแนน,2.น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ พลังประชารัฐ 28,492 คะแนน และที่ 3.นายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา ภูมิใจไทย 18408 คะแนน ส่วนข้อมูลที่สื่อมวลชนส่วนกลางสำนักหนึ่งรายงาน ไม่ทราบว่าได้ข้อมูลมาจากไหน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อ กกต.สุรินทร์