“บิ๊กป้อม-สมคิด” จัดรัฐบาลผสม 250 เสียง ทันใจ ชิงความได้เปรียบ ทั้ง “ภูมิใจไทย -ปชป.”แห่ซบลงตัวแล้ว เผยเร่งนัดคุยกลางดึกคืนเลือกตั้งเกือบ10พรรค ส่ง “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯตามสูตรสำเร็จ มีรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเคลื่อนไหวจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาภายหลังจากปิดหีบเลือกตั้งในช่วงเย็นไปเรียบร้อยแล้ว แกนนำรัฐบาล โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เพื่อหารือกับ พรรคต่างๆที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1รอ.) เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯต่อไป ทั้งนี้พรรคที่มาพูดคุย ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ,นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา มาพร้อมกับประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ,นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายดำรง พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่า ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย ได้ส่งตัวแทนไป พร้อมกับมีพรรคอื่นๆที่มีส.ส.เขต หรือบัญชีรายชื่อ อย่างละ1เสียง โดยรวมเสียงได้กว่า250เสียง เช่นพรรคพลังประชารัฐ 126เสียง พรรคภูมิใจไทย 52เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 52เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา11เสียง พรรคชาติพัฒนา 3เสียง พรรครักษ์ผืนป่าฯและพรรคอื่นๆที่มี1เสียง “การจับมือตั้งรัฐบาล ได้เร่งให้จบไปหมดแล้วเพราะบางพรรค เอาแค่ตำแหน่งประธานกรรมมาธิการ ในส่วนครม.ยังเกี่ยงเก้าอี้ กันอยู่ อย่างไรก็ตามการรับรองส.ส.ภายใน 60 วัน โดยกกต.ยืนยันว่าต้องดำเนินการก่อนวันที่ 9 พ.ค.เพื่อจะไม่ชนกับกฏหมายลูกที่กำหนด 150วันดังนั้นทุกอย่างเสร็จภายใน9พ.ค.ในการประชุมเปิดสภาในหลวง รัชกาลที่10จะเสด็จมาเปิดด้วยพระองค์เอง ดังนั้นรอหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสร็จสิ้นจะได้ครม.ใหม่ทูลเกล้าฯเดือนมิ.ย.”แหล่งข่าว กล่าว ทั้งนี้เมื่อได้สอบถามไปยังนายดำรง ถึงกระแสข่าวเรื่องการหารือเพื่อตั้งรัฐบาลผสมนั้น นายดำรง ระบุว่าตนเองยังไม่ได้พูดคุยกับใคร เนื่องจากพรรคมีเพียง 1ที่นั่งและต้องการที่จะรอความชัดเจนจากกกต.ก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ตนยินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่าย หากได้เข้าไปทำงานด้านทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายและนโยบายที่พรรคให้ความสำคัญเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่หากจะให้ตนเข้าไปเพียงแค่ยกมือ โดยไม่มีบทบาทด้านสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ ก็คงไม่ไปร่วมด้วยอย่างแน่นอน ตนต้องการเข้าไปทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับฝ่ายใดก็ตาม