PLANET ปักธงปี 62 รุกธุรกิจบริการเต็มสูบ ชี้มาร์จิ้นสูงดันผลงานปี 61 พลิกเป็นกำไร “ประพัฒน์”ให้จับตาธุรกิจบริการคลาวด์ออฟฟิศ อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ มาแรง มั่นใจหนุนผลงานทั้งปีนี้เทิร์นอะราวด์ต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20%จากปีก่อน นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการ ผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจ โดยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการ และกลุ่มธุรกิจให้บริการจาก 29% ของปี 2561 เป็น 34% ของปี 2562 เนื่องจาก ธุรกิจด้านบริการมีกำไรขั้นต้นสูง ทั้งนี้จากการที่บริษัทได้เริ่มมุ่งเน้นขยายธุรกิจด้านบริการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 ส่งผลให้ผลประกอบการในปีดังกล่าวพลิกกลับมามีกำไรได้สำเร็จ โดยมีรายได้รวม 749.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.02% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 675.24 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 5.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 118.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 31.62 ล้านบาท ส่วนทิศทางธุรกิจในปี 2562จะเริ่มเห็นการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจบริการ ประกอบด้วย การออกแบบติดตั้ง บริการหลังการขาย การซ่อมอุปกรณ์สื่อสาร การให้บริการอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์แท้สำหรับคอนโดมิเนียม(PlanetFiber) และธุรกิจใหม่ คลาวด์ออฟฟิศ(CloudOffice) ซึ่งเป็นบริการอุปกรณ์และระบบสำนักงานอัจฉริยะบนคลาวด์ แบบเหมาจ่ายรายเดือน โดยในส่วน PlanetFiber เป็นธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์แท้ที่มีความเร็ว 100 Mb. ถึง 1 Gb. สำหรับคอนโดมิเนียมชั้นนำ มีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป ปัจจุบันได้ให้บริการแล้วมากกว่า 60 อาคาร ในเขตกรุงเทพฯ และชลบุรี มีจำนวนห้องมากกว่า 50,000 ห้อง และจะขยายการให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 20 อาคารภายในปี 2562 ทั้งนี้ในส่วนของบริการคลาวด์ออฟฟิศ (CloudOffice) แบบเหมาจ่ายรายเดือน เป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัท เริ่มให้บริการเมื่อช่วงต้นปี 2561 ประกอบด้วยบริการระบบโทรศัพท์สำนักงาน (Cloud PBX),ระบบประชุมทางไกล (Cloud Video Conference),ระบบกล้องวงจรปิด(Cloud CCTV),ระบบไวไฟ (Cloud Wi-Fi),ระบบบริหารจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Cloud MDM) โดยปัจจุบันได้รับการยอมรับจากตลาดมากขึ้น เนื่องจากช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการได้มากถึง 30-40% จากการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดการลงทุนซื้ออุปกรณ์รวมถึงระบบ และค่าจ้างช่างเทคนิคเพื่อดูแลระบบส่วนกลาง นอกจากนี้สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับองค์กรและธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีหลายสาขา และต้องการเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 2562 บริษัทได้ขายบริการให้แก่ภาคเอกชนและส่วนราชการและใช้งานจริงแล้ว และในปีนี้บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ในส่วนของธุรกิจนี้ไว้ที่ 5% ของยอดรายได้รวม และคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีการเติบโตอย่างทวีคูณภายใน 3-5 ปีนี้ สำหรับกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก อาทิ กลุ่มจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ PlanetComm ต่างๆ คาดว่าในปี 2562 การแข่งขันด้านราคารุนแรงขึ้น ดังนั้นเพื่อรักษาการขยายตัวของธุรกิจ ในปี 2562 บริษัทใช้กลยุทธ์ปรับสัดส่วนการขายอุปกรณ์เกี่ยวกับโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมลงจาก 71% ในปี 2561 เป็น 66% และเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจด้านบริการจาก 29% ในปี 2561 เป็น 34% ในปี 2562 เนื่องจากมีกำไรขั้นต้นสูงกว่าการจำหน่าย ทั้งนี้มั่นใจว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2562 จะเติบโตได้ดี และสามารถกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้โต 20% จากปีก่อน พร้อมกันนี้ บริษัทจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมๆกับการรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมทั้งจะทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง