ความคืบหน้าในการติดตามสอบสวนเครือข่ายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ที่สุดที่มีการจับกุมได้ที่ปากน้ำบ้านท่าสูงบน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถยึดน้ำมันได้ราว 3 สินลิตรมูลค่านับสิบล้านบาท เป็นไปอย่างน่าพอใจ โดยล่าสุดนั้นได้มีการจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องเพิ่มได้อีก 2 รายหลังจากหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปหลบอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ส่วนการสอบสวนขยายผลเจ้าของเรือนั้นพบว่าเป็นของนักธุรกิจรายหนึ่งจากฝั่งอันดามันที่จดทะเบียนเรือเป็นเรือบรรทุกทราย แต่ดัดแปลงมาขนน้ำมันเถื่อน และยังมีเครือข่ายเชื่อมโยงการจำหน่ายไปยังภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคใต้ตอนล่างหลายจังหวัด ผู้ค้ารับน้ำมันเถื่อนจากน่านน้ำสากลมาในราคาลิตรละ 16 บาท แต่นำมาขายส่งในราคาลิตรละ 26 บาทสร้างกำไรอย่างมหาศาล ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนเครือข่ายทางการเงิน เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ข้อมูลจากแหล่งข่าวยืนยันว่าการปฏิบัติการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุด มีปริมาณของกลางมากที่สุดเท่าที่เคยจับได้ในประเทศไทยน่าเชื่อว่าเป็นขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนเชื่อมโยงข้ามชาติ การปฏิบัติการเป็นการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากนอกพื้นที่ทั้งหมดเนื่องจากป้องกันข้อมูลการปฏิบัติการรั่วไหล เนื่องจากพบว่าขบวนการมีการเชื่อมโยงกับบุคคลที่มีตำแหน่งทางราชการที่เกี่ยวข้องหลายคน และเป็นที่น่าสังเกตว่าการขนส่งน้ำมันเถื่อนเกิดขึ้นยังจุดนี้ทุกสัปดาห์ห่างจากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบในท้องที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น กลับสามารถดำเนินการอย่างเปิดเผยริมท่าน้ำและถนนสายหลักในชุมชน
พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่าการปฏิบัติการกวาดล้างภัยแทรกซ้อนเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีนี้ถือเป็นรายใหญ่ เจ้าของจะใหญ่หรือเล้กไม่สนใจทั้งนั้นได้มีการสั่งการเรียกนี้มาอย่างเด็ดขาด
ต่อข้อถามข้อมูลที่อาจมีข้าราชการในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 บอกว่าจะดำเนินการไปตามกฎหมายทั้งหมด มีข้อมูลหลักฐานสาวไปถึงไหนดำเนินการทั้งหมด คณะกรรมสอบสวน คณะดำเนินงานทุกชุดจะส่งนายทหารพระธรรมนูญและนายทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเข้าไปร่วมด้วยจะไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดำเนินการ
ส่วนการดำเนินการขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดน้ำมันดีเซลทั้งหมดไปเก็บยังสถานที่ปลอดภัย รวมทั้งนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 15 รายส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ดำเนินดคี โดยมีนายทหารพระธรรมนูญเข้าติดตามทุกขั้นตอน
พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่าการปฏิบัติการกวาดล้างภัยแทรกซ้อนเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีนี้ถือเป็นรายใหญ่ เจ้าของจะใหญ่หรือเล้กไม่สนใจทั้งนั้นได้มีการสั่งการเรียกนี้มาอย่างเด็ดขาด
ต่อข้อถามข้อมูลที่อาจมีข้าราชการในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 บอกว่าจะดำเนินการไปตามกฎหมายทั้งหมด มีข้อมูลหลักฐานสาวไปถึงไหนดำเนินการทั้งหมด คณะกรรมสอบสวน คณะดำเนินงานทุกชุดจะส่งนายทหารพระธรรมนูญและนายทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเข้าไปร่วมด้วยจะไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดำเนินการ
ส่วนการดำเนินการขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดน้ำมันดีเซลทั้งหมดไปเก็บยังสถานที่ปลอดภัย รวมทั้งนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 15 รายส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา ดำเนินดคี โดยมีนายทหารพระธรรมนูญเข้าติดตามทุกขั้นตอน