ฝันใกล้เป็นจริงของน้องกิจโตเกียว-นายอำเภอเชียงแสนอนุมัติคำร้องขอสัญชาติ คาด 2 เดือนได้บัตรประชาชน วันที่ 18 มี.ค. 62 นายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้เชี่ยวชาญด้านสัญชาติและอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ได้เข้าพบนายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน และนายอภิชาติ ศรีสุวรรณ์ปลัดสำนักทะเบียนอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการพิจารณาขอการมีสัญชาติไทยของเด็กชายดนิษฐ์ แซ่อ้าย หรือน้องกิจ โตเกียว วัย 14 ปี ซึ่งเด็กที่มีพฤติกรรมดีโดยช่วยพ่อขายขนมโตเกียวตั้งแต่เด็กและฝันอยากมีสัญชาติไทย นายสุรพงษ์กล่าวว่าน้องกิจ และพี่ชาย เคยยื่นคำร้องขอการมีสัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 และ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 เมื่อปี 2559 ประเภทบุตรชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่ง คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติไว้เดิมรับรองสถานะให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักร และคนที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรและอาศัยอยู่นานที่ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลตามมติ ครม. วันที่ 18 มกราคม 2548 นายสุรพงษ์กล่าวว่า สาเหตุที่คณะทำงานกลั่นกรองระดับอำเภอไม่สามารถพิจารณาอนุมัติสัญชาติไทยได้ เพราะวันที่คณะกรรมการ ฯ พิจารณาอนุมัติคำร้อง ฯ น้องกิจและพี่ชาย ซึ่งทางอำเภอประชุมพิจารณามาแล้ว 3 ครั้ง แต่ทั้ง 3 ครั้ง ทั้ง 2 คนไม่ได้มาแสดงตัวตัวต่อคณะกรรมการ ฯ และไม่สามารถติดต่อได้ ตามวันเวลาที่สำนักทะเบียนอำเภอนัดหมายทำให้ต้องชะลอการพิจารณาอนุมัติจากนายอำเภอเชียงแสน ซึ่งการแจ้งให้มาแสดงตัวในวันที่พิจารณา ฯ ทางสำนักทะเบียนอำเภอจะแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งลูกบ้าน แต่ครอบครัวน้องกิจไม่ได้อาศัยอยู่ในภูมิลำเนาอำเภอเชียงแสน เลยทำให้ไม่ทราบข่าว นายสุรพงษ์กล่าวว่า วันนี้ฝันของน้องกิจใกล้เป็นจริงเพราะนายอำเภอเชียงแสนได้พิจารณาอนุมัติคำร้องของน้องกิจและพี่ชาย ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือทางอำเภอจะส่งเรื่องไปยังสำนักทะเบียนกลางเพื่อตรวจสอบข้อมูลและขออนุมัติเลข 13 หลักสำหรับทำบัตรประชาชนไทยซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน หากส่งเรื่องกลับมายังอำเภอเชียงแสนเมื่อไรก็จะมีการแจ้งให้น้องกิจทราบและเพิ่มชื่อก่อนทำบัตรประชาชนต่อไป ทั้งนี้เรื่องราวของน้องกิจได้รับความสนใจภายหลังจากในโลกโซเชียลได้นำเสนอความกตัญญูของหนุ่มน้อยที่ขายขนมโตเกียวในตลอดท่าน้ำปากเกร็ดเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ซึ่งได้รับความชื่นชมอย่างมากจนกระทั่งมีการร่วมกันบริจาคเงินเพื่อให้เป็นทุนการศึกษาแด่น้องกิจ