สถิติกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดเมื่อ 16 ก.ย.61 ระบุ ไทยมีผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด 432,943 คน เสียชีวิต 20,855 คน หรือชั่วโมงละ 2 คนที่ต้องจากไป และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะ อ.นพ.ธีรภัทร ยิ่งชนม์เจริญ อายุรแพทย์โรคหัวใจภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า โรคหัวใจ (Heart Disease) สามารถพบได้ในทุกเพศและช่วงอายุ แต่คนทั่วไปมักจะคิดว่าโรคหัวใจจะเกิดในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น ซึ่งแต่ละช่วงอายุจะพบโรคหัวใจชนิดที่แตกต่างกัน ในเด็กที่เป็นโรคหัวใจส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด ส่วนในผู้ใหญ่จะพบเป็นโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งมีสาเหตุการเกิดโรคหัวใจแต่ละชนิดแตกต่างกัน โรคหัวใจแต่กำเนิดแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ โรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดไม่เขียว ความผิดปกติในโครงสร้างของระบบหลอดเลือด และ/หรือหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด โดยไม่มีการผสมกันของเลือดดำและเลือดแดงจึงไม่มีอาการเขียว ส่วนโรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียว คือ ภาวะที่มีความผิดปกติของหัวใจ และ/หรือหลอดเลือดที่เกิดขึ้น โดยที่ความผิดปกตินั้นๆ ทำให้มีเลือดดำปนอยู่ในฝั่งของเลือดแดง ทำให้เด็กขาดออกซิเจน ริมฝีปาก เล็บมือเล็บเท้าจึงมีสีออกเขียวๆ ม่วงๆ ซึ่งจะเห็นชัดที่เด็กร้องหรือดูดนม การเจริญเติบโตของเด็กกลุ่มนี้จะน้อยกว่าปกติเพราะเลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายมีระดับออกซิเจนต่ำกว่าปกติ ยกตัวอย่างเคสผู้ป่วยโรคหัวใจ ด.ญ.ธีริศรา อาชาฤทธิ์ (น้องการ์ตูน) ปัจจุบันอายุ 13 ปี ป่วยเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิดชนิดเขียว ผ่านการผ่าตัดทั้งเล็กและใหญ่มานับ10ครั้ง โดยน้องการ์ตูนต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาหลังลืมตาดูโลกได้เพียง 10 วัน เนื่องจากแพทย์ได้ใช้เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ECHO) ตรวจหาความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจและพบว่าน้องไม่มีหลอดเลือดจากหัวใจไปยังปอด รศ.นพ.ปิยะ สมานคติวัฒน์ ศัลยแพทยท์ทรวงอก ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี พร้อมทีมแพทย์ จึงได้ผ่าตัดเพื่อใส่หลอดเลือดเทียมเข้าไปเพื่อเพิ่มปริมาณเลือดไปที่ปอด แต่หลังผ่าตัดได้เพียง 2 วัน พบมีลิ่มเลือดอุดตันอยู่ในหลอดเลือดเทียม จึงต้องผ่าตัดใส่หลอดเลือดเทียมอีกข้าง รวมเป็น 2 เส้น เนื่องจากพบว่าหลอดเลือดเทียมแค่เส้นเดียว ไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยงปอดได้เพียงพอ ทำให้น้องต้องอยู่ รพ.ตั้งแต่แรกคลอดนานถึง 4 เดือน ครบ 3 ขวบน้องการ์ตูนต้องผ่าตัดอีกครั้ง เพื่อเชื่อมหลอดเลือดหัวใจกับปอดใหม่ ภายหลังการรักษาไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนมารักษาโดยใส่ขดลวดในหลอดเลือดแทน ซึ่งน้องการ์ตูนก็ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีนี้อย่างดี จนเมื่อ ก.ค.61 ที่ผ่านมา น้องการ์ตูนต้องผ่าตัดใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากหัวใจทำงานได้เพียง 3 ห้องและมีภาวะหัวใจรั่ว รวมทั้งภาวะเลือดดำและเลือดแดงไหลมารวมกัน ส่งผลให้น้องตัวเขียว และหัวใจเต้นเร็วตลอด ครั้งนี้ใช้เวลาผ่าตัดนานถึง 12 ชั่วโมง โดยผ่าตัดหัวใจให้มีห้องล่างขวา พร้อมอุดรูรั่ว ปัจจุบันหัวใจของน้องใช้งานได้ทั้ง 4 ห้อง เหมือนคนทั่วไปใช้ชีวิตได้ปกติ เรียน แต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ใกล้ชิด โดยมีนัดติดตามอาการตลอด ส่วน โรคหัวใจขาดเลือด เกิดจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจอุดตัน หรือมีไขมันเกาะที่ผนังของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบจึงเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตาย ส่วนใหญ่จะพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจจะช้าหรือเร็วกว่านี้ ขึ้นกับปัจจัยเสี่ยงแต่ละคน เช่น เป็นเบาหวาน หรือความดันโลหิตและไขมันในเลือดสูง อ้วน เครียด สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ไม่ออกกำลังกายสะสมเป็นเวลานาน โดยเหตุที่ทำให้เสียชีวิตกะทันหัน เกิดจากไม่ทันระวังตัวว่ามีโรคนี้อยู่ เมื่อออกแรงหนักๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่หนักกว่าที่ทำปกติ หรือเล่นกีฬาหนักๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน อาจจะกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น จึงทำให้ตะกรันไขมันสะสมในหลอดเลือดหัวใจปริแตกออกได้ ทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันอย่างเฉียบพลันและเสียชีวิตกะทันหัน อ.นพ. ธีรภัทร กล่าวว่า เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ECHO) สำคัญมากในการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น เพื่อให้ทราบแน่ชัดถึงโครงสร้างหัวใจที่ซับซ้อน และนำไปสู่การตรวจวินิจฉัยหรือใช้เครื่องมือแพทย์อื่นๆ ที่เฉพาะเจาะจงกับโรคต่อไป ซึ่งปัจจุบันยังคงขาดแคลนงบฯจัดซื้อ ปีนี้มูลนิธิรามาธิบดีฯ มีโครงการเครื่องมือแพทย์เพื่อผู้ป่วยโรคหัวใจ ร่วมกับบริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต-จำหน่ายผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ ซึ่งจัดทำโครงการ “อิ่มบุญ อิ่มใจ กับผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้” ปีที่ 6 โดยปีนี้จัดกิจกรรมสมทบทุนซื้อเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง(ECHO) มอบให้สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล น.ส.ชัชณี อนันต์วัฒนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเอสจีฯ กล่าวว่า ปีนี้มีผู้ร่วมสมทบทุนซื้อเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง(ECHO) ผ่านสองช่องทางคือ บริจาคผ่านกิจกรรมในโซเชียลมีเดีย 1 Share 1 Baht โดยแชร์คลิปวีดีโอบทสัมภาษณ์ผู้ที่รับการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว โดย1แชร์เท่ากับร่วมบริจาค 1 บาท และรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมยอดบริจาคสองช่องทาง 1,000,000 บาท เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ เพราะ "การให้" คือความสุขที่ยิ่งใหญ่ทั้งผู้ให้และผู้รับ