วิเคราะห์เกมการแข่งขัน "ฟุตบอลลีกทั่วโลก" วันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค.2562 - พรีเมียร์ลีกอังกฤษ (Premier League) ฟูแล่ม(19) - ลิเวอร์พูล(2) "ฟูแล่ม" เป็นอีกทีมที่ดิ้นรนหนีตกชั้น ผลงานโดยรวมยังไม่ดีขึ้นเลย โดยเกมส์ล่าสุดเพิ่งจะบุกแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 สำหรับความพร้อมเกมส์นี้ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก แอลฟี่ มอว์สัน กับ มาร์คัส เบ็ตติเนลลี่ ที่เจ็บมาก่อนหน้านี้แล้ว คาดว่าเกมส์นี้ สกอตต์ ปาร์คเกอร์ กุนซือรักษาการณ์ จะใช้งานตัวหลักอย่าง ไรอัน บาเบล, อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช และ ไรอัน เซสเซญง เป็น 3 ตัวรุกในแดนหน้า โดยจะใช้ระบบ 4-2-3-1 : เซร์กิโอ ริโก้ - เดนิส โอดอย, ฮาเวิร์ด นอร์ดเวียต, ทิม รีม, โจ ไบรอัน - คาลั่ม แชมเบอร์ส, เควิน แม็กโดนัลด์ - ไรอัน บาเบล, ทอม แคร์นี่ย์, ไรอัน เซสเซญง - อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช "ลิเวอร์พูล" เพิ่งจะหักปากกาเซียนโดยการบุกไปปราบ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค 1-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทีมมีกำลังมากขึ้น สำหรับความพร้อมของทีมเกมส์วันนี้จะไม่มีกองกลางกัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เจ็บมาจากเกมส์ที่แล้ว รวมกับที่เจ็บไปก่อนหน้านี้อย่าง โจ โกเมซ ส่วนทางด้านของ เดยัน ลอฟเรน ก็ไม่น่าจะผ่านความฟิตทันเวลา คาดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือของหงส์แดง จะใช้บริการ 3 กองกลางอย่าง นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่ และจอร์จินิโอ ไวย์นัลดุม ส่วน 3 ประสานแดนหน้าคงใช้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ลงล่าตาข่ายเหมือนเดิม โดยเกมส์นี้จะใช้ระบบ 4-3-3 : อลิสซง เบ็คเกอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินิโอ ไวย์นัลดุม, ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - เกมส์นี้ หงส์แดง ออกไปเยือนทีมท้ายตารางดูแล้วไม่น่าจะยากนัก แต่เกมส์นี้มีแรงต้านที่หนาเกือบ 2 ชั้น แถมเจ้าถิ่นกำลังหนีตายคงวิ่งสู้ฟัดแน่ ให้เชียร์ฟูแล่มไม่น่าแพ้เยอะครับ เอฟเวอร์ตัน(11) - เชลซี(6) "เอฟเวอร์ตัน" เป็นอีกทีมที่ฟอร์มลุ่มๆดอนๆ เกมส์เพิ่งจะบุกแพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-2 ส่วนการเล่นกับเชลซีมักจะทำผลงานได้ไม่ดีนัก โดยเสมอไป 2 เกมส์ และแพ้ถึง 3 เกมส์ จาก 5 เกมส์หลังสุด โดยทั้ง 5 เกมส์ทำประตู เชลซีได้แค่ 1 ลูกเท่านั้น แถมสถาณการณ์ล่าสุดในตอนนี้ เอฟเวอร์ตัน ไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้วอยู่ในโซนกลางตาราง เพียงแค่เล่นให้จบฤดูกาลเท่านั้น สำหรับความพร้อมของทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เคิร์ต ซูม่า ปราการหลังตัวเก่งที่ติดเงื่อนไขสัญญายืมตัวห้ามลงพบต้นสังกัด ส่วนทางด้านของ เลห์ตัน เบนส์ เป็นเพียงรายเดียวที่ยังไม่หายดี คาดว่าเกมส์นี้จเล่นในระบบ 4-2-3-1 : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ซีมัส โคลแมน, ไมเคิ่ล คีน, เยร์รี่ มิน่า, ลูก้าส์ ดีญ - ไอดริสซ่า กูเอเย่, อันเดร โกเมส - ริชาร์ลิซอน, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, แบร์นาร์ด - โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน "เชลซี" ตอนนี้อันดัลหลุดไปอยู่อันดับ 6 โดยเป้าหมายตอนนี้ของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือสิงห์โตน้ำเงินคราม ต้องพยายามคว้าอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนมาให้ได้ โดยตามหลังทีมอันดับ 4 อย่างอาร์เซน่อล อยู่แค่ 3 คะแนนเท่านั้น และยังแข่งน้อยกว่า 1 นัดถ้าเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ก็จะขึ้นมาเท่ากันทันที สำหรับความพร้อมของทีมไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบน นอกเสียจาก ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า กับ กอนซาโล่ อิกัวอิน ที่มีปัญหาเรื่องความฟิต คาดว่า ซาร์รี่ เตรียมโรเตชั่นขุมกำลังเพื่อรักษาความสดของทีม โดยจะกลับมามีชื่อ เปโดร โรดริเกวซ, เอแด็น อาซาร์, รอสส์ บาร์คลี่ย์, จอร์จินโญ่ และ ดาวิด ลุยซ์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เกมส์นี้คาดว่าจะใช้ระบบ 4-3-3 : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า - เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์, เอแมร์สัน - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, รอสส์ บาร์คลี่ย์ - เปโดร โรดริเกวซ, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, เอแด็น อาซาร์ "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - ดูจากฟอร์มของเจ้าถิ่นแล้วไม่ค่อยไว้ใเท่าไหร่นัก ฤดูกาลนี้ฟอร์มในบ้านก็ไม่ค่อยแน่นอน เกมส์นี้มาเจอกับเชลซีที่กำลังโหยหาคะแนนแล้วด้วย ให้เชียร์ทีมเยือน สิงห์บูลส์ ดีกว่า - เอฟเอ คัพ อังกฤษ มิลล์วอลล์(ENG LCH-19) - ไบรท์ตัน(ENG PR-15) "มิลล์วอลล์" เพิ่งบุกไปชนะ วิมเบิลดัน 1-0 จากเกมส์เอฟเอคัพรอบที่แล้ว สำหรับความพร้อมของทีมจะไม่สามารถใช้งาน เมอร์เรย์ วอลเลซ กองหลังตัวหลักซึ่งติดโทษแบน เช่นเดียวกับ คอเนอร์ แม็กลาฟลิน อีกหนึ่งกองหลังที่ยังไม่หายดี คาดว่าเกมส์นี้จะเล่นในระบบ 4-4-2 : จอร์แดน อาร์เชอร์ - มาห์ลอน โรเมโอ, อเล็กซ์ เพียร์ซ, เจค คูเปอร์, เจมส์ เมเรดิธ - เจด วอลเลซ, ฌอน วิลเลี่ยมส์, ไรอัน เลโอนาร์ด, เชน เฟอร์กูสัน - ไอเด้น โอไบรเอ้น, ลี เกรกอรี่ "ไบรท์ตัน" เปิดรังเอาชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 2-1 ในรอบที่แล้ว สำหรับความพร้อมของทีมจะไม่สามารถใช้บริการ อีฟส์ บิสซูม่า กองกลางผิวสีที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ ปาสกาล กรอสส์ กองกลางรุกซึ่งมีอาการบาดเจ็บรบกวน คาดว่าเกมส์นี้จะเล่นในระบบ 4-4-1-1 : เดวิด บัตตัน - บรูโน่ ซัลตอร์, เชน ดัฟฟี่, เลออน บาโลกัน, แบร์นาร์โด้ - อ็องโตนี่ น็อคการ์ต, ดาวี่ พร็อพเพอร์, เดล สตีเฟ่นส์, โซโลม่อน มาร์ช - อลิเรซ่า ยาฮานบัคช์ - เกล็นน์ เมอร์เรย์ "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - "มิลล์วอลล์"ทีมท้ายตารางแห่งศึกแชมป์เปี้ยนชิป ที่ผลงาน 5 นัดหลังสุดแพ้ 4 ชนะ 1 และโดยคู่แข่งยิงรวมกันไป 10 ลูก ส่วนทีมเยือน "ไบรท์ตัน" มผลงานค่อนข้างดี ชนะ 3 แพ้ 1 จาก 4 เกมส์หลังสุดทุกรายการ แถมยิงประตูรวมแล้ว 6 ประตูเลยทีเดียว แต่เกมส์นี้เป็นบอลถ้วยเอฟเอคัพ ที่ขึ้นชื่อเรื่องพลิกล๊อกอยู่แล้ว แถมเจ้าถิ่นผลงานในถ้วยเอฟเอคัพยังดูดีอีกด้วย เชียร์เจ้าถิ่นไปเถอะน่าลุ้นกว่า - บุนเดสลีกา เยอรมัน (Germany BundesLiga) เลเวอร์คูเซ่น(6) - แวร์เดอร์ เบรเมน(9) "ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น" ฟอร์มโดนรวมแล้วถือว่าดีทีเดียว แถมช่วงนี้ต้องเร่งทำคะแนนเพราะยังมีลุ้นพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปอยู่ ล่าสุดเก็บชัยรวดมา 2 เกมส์ติด และยิงไป 5 ประตู สำหรับความพร้อมของทีม คาริม เบลลาราบี ปีกขวาจะได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งหลังจากหายเจ็บแล้ว สำหรับแผนการเล่นจะใช้ระบบ 4-3-3 : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - มิตเชล ไวเซอร์, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, ติน เชดวาย - ไค ฮาแวร์ซ, ชาร์ลส์ อรานกุซ, จูเลี่ยน บรันด์ - คาริม เบลลาราบี, เควิน โฟลลันด์, เลออน ไบญี่ "แวร์เดอร์ เบรเมน" ตอนนี้อันดับอยู่ที่ 9 จากที่ก่อนหน้านี้ไปนอนจมอยู่ท้ายตาราง ผลงานเริ่มดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเกมส์ล่าสุดชนะ ชาลเก้ 4-2 และนับจาก 9 นัดหลังที่ผ่านมาก็ยังไม่แพ้ใครอีกด้วย แต่สถิติการมาเยือนเจ้าถิ่นช่วงหลังไม่สามารถชนะได้เลย มีทั้งแพ้และเสมอออกไป โดยเกมส์นี้จะเล่นในระบบ 4-3-3 : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, มิลอส เวลโกวิช, มาร์โก ฟรีเดิ้ล, ลุดวิก ออกุสตินสัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, ดาวี่ คลาสเซ่น - มาร์ติน ฮาร์นิค, มักซ์ ครูเซ่, มิลอต ราชิก้า "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - ห้างขายยา ศักยภาพทีมยังดูดีกว่าและผลงานสม่ำเสมอมามากกว่า แต่ตอนนี้ แวร์เดอร์ เบรเมน ผลงานก็กลับมาดีวันดีคืนเช่นกัน เชื่อว่าคู่นี้กินกันไม่ลง เชียร์ทีมเยือนบายใจกว่า แฟร้งค์เฟิร์ต(5) - เนิร์นแบร์ก(18) "ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต" ผลงานยอดเยี่ยมมาในทุกรายการที่ผ่านมา ทั้งเกมยูโรป้าที่เขี่ยอินเตอร์ มิลาน ตกรอบไป และฟอร์มในเกมบุนเดสลีก้าก็ยอดเยี่ยม นัดล่าสุดบุกไปถล่มทีมท้ายตาราอย่างฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟฟ 0-3 และสถิติตอนนี้ยังไม่แพ้ในลีกมาแล้ว 8 นัดติดและเก็บชัยไปมากกว่าครึ่ง สภาพความพร้อมของทีมไม่มีรายงานนักแตะบาดเจ็บ นัดนี้จะมาเล่นในระบบ 3-4-1-2 : เควิน แทร็ป - อัลมามี่ ตูเร่, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, โอบิเต้ เอ็นดิคก้า - แดนนี่ ดา คอสต้า, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, เกลสัน แฟร์น็องเดส, ฟิลิป คอสติช - มิยัต กาซิโนวิช - ลูก้า โยวิช, เซบาสเตียน ฮัลแลร์ "เนิร์นแบร์ก" ทีมบ๊วยท้ายตาราง ผลงานในลีกทั้งหมด 25 นัด แพ้ไปถึง 19 นัด และชนะมาได้แค่ 2 นัดเท่านั้น แถมสถิติที่เจอกับทีมเจ้าบ้านดูแล้วก็สู้ไม่ได้เลย ส่วนมากแพ้กกลับไปเกือบจะทุกนัด แถมนัดนี้ยังเจอข่าวร้ายเพราะจะไม่มีชื่อของ เอ็นริโก้ วาเลนตินี่ กองหลังตัวเก๋าที่โชคร้ายบาดเจ็บต้องพักทั้งฤดูกาล นอกจากนั้นทีมหมดสิทธิ์ใช้งาน ทิม ไลโบลด์ กองหลัง และตัวรุก มาเธอุส เปเรร่า ที่โดนโทษแบน แต่ดีว่าแนวรับได้ ยอร์ก มาร์เกร็ตเตอร์ พ้นโทษกลับมาสมทบ สำหรับแผนการเล่นจะใช้ระบบ 4-5-1 : คริสเตียน มาเธเนีย - ลูกัส มูห์ล, เอแวร์ตอน, ยอร์ก มาร์เกรตเตอร์, โรเบิร์ต บอยเออร์ - ยูยะ คุโบะ, เอดูอาร์ด โลเว่น, พาทริค แอร์รัส, ฮันโน่ เบห์เรนส์, เซบาสเตียน แคร์ก - มิคาเอล อิชัค "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - เจ้าบ้านเหนือกว่าทุกด้าน บวกกับทั้งขุมกำลังนักเตะคมกริบ โดยเฉพาะแนรุกที่ดุดัน เฉียบคม แถมเล่นในบ้านต้องสามแต้มเท่านั้นเพื่อชิงพื้นที่ยุโรปด้วย เชียร์ อินทรีแดงดำ ยิงไส้แตก บาเยิร์น มิวนิค(1) - ไมนซ์ 05 (13) "บาเยิร์น มิวนิค" เพิ่งอกหักเสียใจหลังถูกยอดทีมจากเกาะอังกฤษ "ลิเวอร์พูล" เขี่ยตกรอบยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกมามาดๆ ด้วยการแพ้คาบ้าน 1-3 แต่ผลงานในลีกยังคงนำเป็นจ่าฝูงอยู่ สภาพความพร้อมเกมส์นี้น่าจะส่ง เลออน โกเร็ตส์ก้าและ คิงส์ลี่ย์ โกม็องออกสตาร์ทตัวจริง แทนที่ของ ฆาบี มาร์ติเนซ และ ฟร้องค์ ริเบรี่ ทางด้านแผงหลังน่าจะเป็น ราฟินญ่ายืนแบ็กซ้ายต่อ สำหรับเกมส์นี้น่าจะใช้ระบบ 4-2-3-1 : มานูเอล นอยเออร์ - โจฌัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ราฟินญ่า - เลออน โกเร็ตส์ก้า, ธิอาโก้ อัลกานตาร่า - แซร์ก จีนาบรี้, ฮาเมส โรดริเกวซ, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ "ไมนซ์ 05" ช่วงนี้ฟอร์มก็ไม่ไม่ค่อยจะคงเส้นคงวามากเท่าไหร่ มีทั้งแพ้และชนะสลับกันมาอย่างต่อเนื่อง ผลงานในเกมลีกนับจาก 5 นัดหลังที่ผ่านมาก็แพ้ไปถึง 4 นัด ล่าสุดแพ้คาบ้านให้กับทีม กลัดบัค 0-1 ล่าสุดความพร้อมของทีมไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ โดยเกมส์นี้จะใระบบ 4-3-1-2 : ฟลอเรี่ยน มุลเลอร์ - ดาเนี่ยล โบรซินสกี้, สเตฟาน เบล, มุสซ่า นิยาคาเต้, อารอน มาร์ติน - ฌอง กีบาแมง, ปิแอร์ มาลง, แดนนี่ ลัตซ่า - ฌอน โบตุส - โรบิน ไคสัน, เคริม โอนิซิโว่ "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - เกมส์นี้เจ้าถิ่นกลับมาเน้นลีกเต็มตัวแล้ว และนัดนี้ยิ่งสำคัญมาก เพราะหากไม่ชนะมีโอกาสที่จะโดนดอร์ทมุนด์แซงได้ แต่แรงต้านสูงถึง 2 ชั้นครึ่ง ให้เชียร์ทีมเยือนดีกว่าแพ้น้อยแน่นอน - กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี (ITALY SERIE A) เจนัว(13) - ยูเวนตุส(1) "เจนัว" อันดับอยู่ที่ 13 รอดจากการตกชั้นแล้ว มีอยู่ 30 คะแนน แต่ฟอร์มโดยรวมก็ยังไม่ดีขึ้นเลยแถมยังมีนักเตะบาดเจ็บอยู่ก่อนหน้านี้อีก 4 คน คือ โยนุต ราดู,ออสการ์ ฮิลเยมาร์ค,ลูก้า มาซซิเตลลี่,อันเดรีย ฟาวิลลี่ สำหรับความพร้อมของทีมไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม คาดว่าเกมส์นี้จะเล่นในระบบ 4-3-3 : โยนุต ราดู - ดาวิเด้ บิรัสคี่, เออร์วิน ซูคาโนวิช, คริสเตียน โรเมโร่, โดเมนิโก้ คริสซิโต้ - อิวาน ราโดวาโนวิช, ลูคัส เลราเกอร์, ดาเนี่ยล เบสซ่า - ดาร์โก ลาโซวิช, อันโตนิโอ ซานาเบรีย, คริสเตียน คูอาเม่ "ยูเวนตุส" จ่าฝูงแห่งลีกมักโรนีกับผลงานที่ยอดเยี่ยม 27 เกมส์ล่าสุดยังไม่พ่ายแพ้ให้กับทีมใหนเลย แถมมีคะแนนนำรองจ่าฝูงอยู่ถึง 18 คะแนน การันตีแชมป์ลีกไปแล้ว สำหรับสภาพทีมล่าสุดไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก 5 แข้งหน้าเดิมที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว คาดว่าเกมส์นี้จะเล่นในระบบ 4-3-3 : ว็อจเซี๊ยค เซสนี่ - เจา กานเซโล่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อเล็กซ์ ซานโดร - เอ็มเร่ ชาน, มิราเลม ปานิช, แบลส มาตุยดี้ - เปาโล ดีบาล่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ฟิลิปโป้ แบร์นาเดสคี่ "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - "เจนัว"เจ้าถิ่นเล่นแบบไร้แรงกดดันแถมได้เล่นในบ้านตัวเองด้วย คงไม่ยอมให้จ่าฝูงชนะไปแบบง่ายๆแน่นอน เชียร์ "เจนัว" ไม่น่าแพ้ - ลาลีกา สเปน (Spanish La Liga : Liga BBVA) เรอัล เบติส(8) - บาร์เซโลน่า(1) "เรอัล เบติส"เป็นอีกทีมที่ยังลุ้นพื้นที่ไปเล่น ฟุตบอลยูโรปถ้วยเล็ก สภาพความพร้อมไม่มีปัญหาตัวเจ็บเพิ่มเติม ยกเว้น จูเนียร์ เฟียร์โป และ ฟรานซิส ซึ่งเจ็บอยู่ก่อนหน้า ส่วนกำลังสำคัญอย่าง 3 แนวรุก เซร์คิโอ กานาเลส, เฆเซ่ โรดริเกซ และ ฆัวกิน ยังพร้อมล่าตาข่าย เช่นเดียวกับ วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ จะคุมตรงกลางร่วมกับ อันเดรส กัวร์ดาโด้ เกมส์นี้จะเล่นในระบบ 3-4-3 : เปา โลเปซ ; อิสซ่า แมนดี้, มาร์ค บาร์ตร้า, ซิดนี่ ; โจวานี่ โล เซลโซ่, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, อันเดรส กัวร์ดาโด้, คริสเตียน เตโญ่ ; เซร์คิโอ กานาเลส, เฆเซ่ โรดริเกซ, ฆัวกิน "บาร์เซโลน่า" จ่าฝูงของลีกแดนกระทิงดุ มีคะแนนห่างจากอันดับที่ 2 ถึง 7 คะแนน และใกล้จะจบฤดูกาลเต็มทีแล้ว ผลงาน 5 เกมหลังนั้นก็ต้องเรียกว่ายอดเยี่ยมเมื่อไม่แพ้ใครเลยและเป็นการชนะ ถึง 4 เกมติดต่อกันแล้วด้วย แถมมีข่าวดีคือจะได้ เกลมงต์ ล็องเล่ต์ ปราการหลังเฟร้นช์แมนพ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม ทว่าอีกหนึ่งแนวรุกเพื่อนร่วมชาติอย่าง อุสมาน เดมเบเล่ โชคร้ายเจ็บระหว่างเกมยุโรป ต้องพักถึงเดือนเมษายนเป็นอย่างน้อย พร้อมกับ ราฟินญ่า (3 นัด) ที่เจ็บมาก่อนนานแล้ว โดยเกมสฺนี้จะเล่นในระบบ 4-3-3 : มาร์ค อังเดร แทร์ สเตเก้น ; เนลสัน เซเมโด้, ซามูเอล อุมติตี้, เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา ; อีวาน ราคิติช, อาร์ตูร์, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ; ลีโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - บาร์เซโลน่า ออกไปเยือน แต่มีแรงต้านหนาเกือบชั้นครึ่ง ส่วนเจ้าถิ่นก็ยังลุ้นพื้นที่ถ้วยยุโรป ให้เชียร์ "เรอัล เบติส" ดีกว่า - ลีกเอิง ฝรั่งเศส ปารีสฯ(1) - มาร์กเซย(4) "ปารีส แชงต์ แชร์กแมงต์" คะแนนนำโด่งยึดอันดับหนึ่งมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต้มห่างทีมอันดับสองอย่างลีลล์อยู่ถึง 17 คะแนน ผลงานนัดล่าสุดบุกไปชนะ ดิฌง 4-0 สภาพความพร้อมจะไม่มี เนย์มาร์ และ จูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์ ที่บาดเจ็บเพิ่มเข้ามา นอกเหนือจากนี้ฟิตพร้อมลงสนามทุกคนคาดว่า โธมัส ทูเคิ่ล จะวางหมากในระบบ 3-5-2 : อัลฟงเซ่ อเรโอล่า - มาควินญอส, ธิอาโก้ ซิลวา, เปรสแนล คิมเพมเบ้ - ดานี่ อัลเวส, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เลอันโดร ปาเรเดส, มาร์โก้ แวร์รัตติ, ฆวน เบร์นาต - คีเลียน เอ็มบัปเป้, อังเคล ดิ มาเรีย "โอลิมปิก มาร์กเซย" อยู่อันดับ 4 ของตาราง ช่วงนี้จึงต้องเบียดพื้นที่ยุโรปจากทั้งโอลิมปิก ลียงและลีลล์ ผลงานที่ผ่านมาก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียว 6 นัดหลังในลีกยังไม่แพ้ใครและสามารถคว้าชัยไปได้ถึง 5 นัดเลยทีเดียว แต่สถิตที่เจอกับเปแอสเชเป็นรองสุด 10 นัดหลังเจ้าถิ่นเก็บเรียบ สภาพความพร้อมเกมส์นี้จะไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบน คาดว่าจะเล่นในระบบ 4-4-2 : สตีฟ ม็องดองด้า - ฮิโรกิ ซากาอิ, ดูเย่ ชาเลต้า-คาร์, บูบาการ์ กามาร่า, ฌอร์ดอง อมาวี่ -ฟลอริย็อง โตแว็ง, มอร์กกาน ซ็องซง, มักซิม โลเปซ, ลูคัส โอคัมโปส - มาริโอ บาโลเตลลี่, วาแลร์ แชร์กแมง "เต้ยเป๋าตุง"ฟันธง - เจ้าถิ่นคะแนนนำห่างเยอะเล่นแบบชิวๆเน้นผลการแข่งขันอย่างเดียว อีกทั้งแรงต้านหน้าถึงเกือบ 2 ชั้น บวกกับทีมเยือนมาแบบลุ้นพื้นที่ยุโรปด้วยก็เป็นงานยากของเจ้าถิ่นซะแล้ว เชียร์ มาร์กเซย มีลุ้นกว่าครับ