เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 15 มี.ค.62 พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. ,พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รองผบก.สปพ. ,พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. ,พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ , พ.ต.ท.จามร ทองพรรณ รองผกก.และ พ.ต.ต.จักรกริช เวียงสมุทร สว.งานสายตรวจ 2 พร้อมกำลังร่วมกันจับกุมตัวนายวงศกร โกษาจันทร์ อายุ 34 ปี นายสิริโรจน์ นันตีภา อายุ 42 ปีและ น.ส.ฐิติมา วินิจสมุทร อายุ 37 ปี พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนัก 70 กรัม ตลับเครื่องสำอาง ครีมทาผิว โดยจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 401 เอ็มอพาร์ทเม้นท์ ซอยพหลโยธิน52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.
พ.ต.อ.สมบูรณ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีการซื้อขายยาเสพติดประเภทไอซ์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์โดยเป็นกลุ่มปิด และทางผู้ต้องหาจะทำการบรรจุภัณฑ์ตบตาเจ้าหน้าที่ โดยทำทีเป็นขายเครื่องสำอาง ก่อนจะแพ็กไอซ์ใส่ลงไปในตลับเครื่องสำอาง โดยซุกซ่อนไว้ใต้ครีมทาผิว ส่งจำหน่ายให้ลูกค้าในราคาแพ็กละ 1,650 บาท
นอกจากนั้นถ้าลูกค้าที่ต้องการอุปกรณ์การเสพด้วย ก็จะขายในราคาชุดละ 1,950 บาท ซึ่งลูกค้าจะต้องทำการโอนเงินผ่านบัญชีก่อน แล้วจะทำการส่งยาเสพติดผ่านทางขนส่งเอกชน(เคอรี่) เจ้าหน้าที่จึงทำเฝ้าดูพฤติกรรม จนสามารถจับกุมได้ ก่อนเข้ามาตรวจค้นที่ห้องพักพบไอซ์และของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนนายวงศกร ให้การรับสารภาพว่า ตนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ต้องหารายได้มารักษาตัวเองที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้และอีกหลายโรค ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วังทอง จ.พิษณุโลก ส่วนการการนำไอซ์บรรจุในตลับครีมนั้น ตนคิดขึ้นมาเองทำมาแล้วประมาณ 1 เดือน ส่งให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 20 ราย มีรายได้หลักพันบาทต่อวัน ซึ่งวันนี้ก็เตรียมส่งอีกจำนวนหนึ่ง หากวันนี้ส่งของที่แพ็คแล้วก็จะมีรายได้หลักหมื่นบาท
ซึ่งตนจะมีหน้าที่รับลูกค้าจากกลุ่มไลน์ จากนั้นจะแพ็คของแล้วโทรให้นายสิริโรจน์ นำไปส่งเคอรี่โดยจะให้ไปส่งหมุนเวียนหลายๆ สาขา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม ส่วน น.ส.ฐิติมา เป็นเพียงเพื่อนที่ตนชวนมาเที่ยวห้องเท่านั้น สำหรับเงินที่ได้มาก็จะนำมาใช้จ่ายส่วนตัวและหมุนเวียนซื้อไอซ์มาจำหน่าย โดยจะสั่งซื้อผ่านกลุ่มไลน์อีกทีหนึ่ง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.สมบูรณ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีการซื้อขายยาเสพติดประเภทไอซ์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์โดยเป็นกลุ่มปิด และทางผู้ต้องหาจะทำการบรรจุภัณฑ์ตบตาเจ้าหน้าที่ โดยทำทีเป็นขายเครื่องสำอาง ก่อนจะแพ็กไอซ์ใส่ลงไปในตลับเครื่องสำอาง โดยซุกซ่อนไว้ใต้ครีมทาผิว ส่งจำหน่ายให้ลูกค้าในราคาแพ็กละ 1,650 บาท
นอกจากนั้นถ้าลูกค้าที่ต้องการอุปกรณ์การเสพด้วย ก็จะขายในราคาชุดละ 1,950 บาท ซึ่งลูกค้าจะต้องทำการโอนเงินผ่านบัญชีก่อน แล้วจะทำการส่งยาเสพติดผ่านทางขนส่งเอกชน(เคอรี่) เจ้าหน้าที่จึงทำเฝ้าดูพฤติกรรม จนสามารถจับกุมได้ ก่อนเข้ามาตรวจค้นที่ห้องพักพบไอซ์และของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนนายวงศกร ให้การรับสารภาพว่า ตนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ต้องหารายได้มารักษาตัวเองที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้และอีกหลายโรค ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วังทอง จ.พิษณุโลก ส่วนการการนำไอซ์บรรจุในตลับครีมนั้น ตนคิดขึ้นมาเองทำมาแล้วประมาณ 1 เดือน ส่งให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 20 ราย มีรายได้หลักพันบาทต่อวัน ซึ่งวันนี้ก็เตรียมส่งอีกจำนวนหนึ่ง หากวันนี้ส่งของที่แพ็คแล้วก็จะมีรายได้หลักหมื่นบาท
ซึ่งตนจะมีหน้าที่รับลูกค้าจากกลุ่มไลน์ จากนั้นจะแพ็คของแล้วโทรให้นายสิริโรจน์ นำไปส่งเคอรี่โดยจะให้ไปส่งหมุนเวียนหลายๆ สาขา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม ส่วน น.ส.ฐิติมา เป็นเพียงเพื่อนที่ตนชวนมาเที่ยวห้องเท่านั้น สำหรับเงินที่ได้มาก็จะนำมาใช้จ่ายส่วนตัวและหมุนเวียนซื้อไอซ์มาจำหน่าย โดยจะสั่งซื้อผ่านกลุ่มไลน์อีกทีหนึ่ง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป