สัปดาห์พระเครื่อง/ราม วัชรประดิษฐ์
หลวงพ่อทาสร้างรูปหล่อไว้ 2 รุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากในด้านคงกระพันชาตรีและมหาอุด เป็นที่นิยมอย่างสูง
พระครูอุตรการบดี หรือหลวงพ่อทา เกิดที่ ต.บ่อผักกูด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ในราวต้นรัชกาลที่ 3 เมื่อบวชเป็นพระภิกษุ ท่านเคร่งครัดในสังฆกิจ ปฏิบัติตามพระพุทธบัญญัติครบถ้วน มีความแตกฉานทั้งทางพระธรรมวินัย วิปัสสนา และไสยเวทย์ ท่านชอบออกธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ เมื่อมาถึง จ.นครปฐม ท่านมาพบวัดพะเนียงแตกซึ่งเป็นวัดร้าง เห็นว่าเป็นสถานที่ที่เงียบสงบเหมาะจะเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จึงปักกลด ณ ที่นั้น ด้วยความที่ท่านเป็นพระมีความเฉียบขาด สามารถกำราบนักเลงในละแวกนั้นให้มีความเกรงกลัวและเคารพนับถือ ชาวบ้านมีความเลื่อมใสศรัทธาจึงร่วมกันบูรณะซ่อมแซมจนวัดพะเนียงแตกมีความเจริญรุ่งเรือง
แต่เดิมไม่ใช่ชื่อ “วัดพะเนียงแตก” เหตุมาจากที่หลวงพ่อทาชอบเล่นพลุไฟพะเนียง วันหนึ่งในงานเทศกาลประจำปีของวัด ท่านเอามือไปปิดปากพลุไม่ให้พลุออกมาทางปาก จึงระเบิดออกทางด้านข้าง แต่ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย ที่ทำเช่นนี้ ท่านต้องการให้พวกนักเลงหัวไม้เกรงขาม จะได้ปกครองและอบรมให้เป็นคนดีได้ ซึ่งก็เป็นดังนั้น ในงานเทศกาลประจำปีของวัด ไม่เคยต้องอาศัยตำรวจเลย เพราะไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นสักครั้งเดียว จนชาวบ้านให้ฉายาว่า “หลวงพ่อพะเนียงแตก” และเรียกชื่อวัดว่า “วัดพะเนียงแตก”
หลวงพ่อทา ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพะเนียงแตก และมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะแขวงเมืองนครปฐม มีสมณศักดิ์เป็นพระครูอุตรการบดี ผู้รักษาพระปฐมเจดีย์ด้านทิศเหนือ ดังปรากฏใน “สาส์นสมเด็จ” ลายพระหัตถ์ที่ทรงโต้ตอบกันของสมเด็จพระเจ้าบรมเธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2483 ท่านเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในราวปี พ.ศ.2400–2450 ความเฉียบขาดและความดุของท่านทำให้นักเลงและเสือร้ายเกรงกลัวมาก จนได้รับฉายาว่า “หลวงพ่อเสือ” อีกฉายาหนึ่ง ท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2463
หลวงพ่อทาสร้างรูปหล่อไว้ 2 รุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากในด้านคงกระพันชาตรีและมหาอุด เป็นที่นิยมอย่างสูง โดยเฉพาะ “เหรียญหล่อรุ่นแรก” สร้างเป็นเนื้อโลหะผสม ลักษณะเป็นเหรียญหล่อแบบโบราณ รูปสี่เหลี่ยมด้านบนมน ด้านหน้าเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยา สวยงามมาก ส่วนด้านหลัง มีอักขระขอม ด้านบนเป็น “ตัวอุ” ด้านล่างเป็น “ตัวมะ”
เหรียญหล่อหลวงพ่อทา รุ่นแรก นี้ แลดูเรียบง่าย แต่คงไว้ซึ่งความเข้มขลังและสง่างาม ยิ่งพุทธคุณที่เป็นเลิศปรากฏ ทำให้เป็นที่นิยมสะสมและแสวงหาอย่างสูง สนนราคาจึงค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเหรียญประเภทเดียวกัน ปัจจุบันเป็นเหรียญหาดูหาเช่ายากครับผม