นิคมอุตสาหกรรมพิจิตรสร้างพร้อมใช้งานมาตั้งแต่ปี 2540 เนื้อที่ 2,089 ไร่ เจอวิกฤตฟองสบู่แตกทำเอาเหงามาหลายปี ล่าสุดวันนี้เนื้อหอมนักลงทุนผุดสร้างโรงไฟฟ้าขยะRDFยืนยันปี 63 พร้อมเดินเครื่อง 3โรง ล่าสุดวันนี้เปิดรับสมัครพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำโรงงานแล้วคาดเร็ววันนี้อำเภอวชิรบารมี พิจิตรจะกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่น่าจับตามอง
วันที่ 11 มี.ค. 2562 นายวิโรจน์ เรืองเลิศศิลป์ ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่าง (พิจิตร) พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูความคืบหน้าจากกรณีที่มีนักลงทุนที่ขานรับนโยบายให้การกำจัดขยะและใช้ประโยชน์จากขยะเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการ 3 รายใหญ่ ทุ่มทุน 2,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่จะใช้วัสดุเหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรม 6 ประเภท ซึ่งประกอบด้วย วัสดุเหลือใช้ เหลือทิ้ง เช่น เศษกระดาษ, เศษไม้ , เศษผ้า , เศษพลาสติก ,เศษหนัง , เศษยาง ( ยกเว้นเศษยางรถยนต์ ) มาทำเป็น RDF ก็คือ นำเศษวัสดุเหลือใช้ข้างต้นนำมาอบแห้งอัดเป็นก้อน ซึ่งไม่มีกลิ่นให้น่ารังเกียจแต่อย่างใด โดยโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า 3 โรง ประกอบด้วย
1.บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอ็น เนอร์ยี 6 จำกัด เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมพิจิตรในราคาค่าเช่าไร่ละ 50,200 บาท จำนวน 47 ไร่ 3 งาน ลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงที่มาจากขยะชุมชนที่แปรรูปเป็นเชื้อเพลิงสำเร็จรูป หรือ RDF ขนาด 9 เมกะวัตต์ ถือว่าเป็นโรงไฟฟ้ารายใหญ่สุดในนิคมพิจิตรฯ คาดว่าแล้วเสร็จและดำเนินการได้ปี 63 โดยใช้พลังงานเชื้อเพลิงจาก RDF หรือขยะอบแห้งที่ไม่มีกลิ่นมาจากจังหวัดทางภาคกลาง
2. บริษัท เอวาแกรนด์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด เช่าพื้นที่นิคมฯพิจิตร ในราคาค่าเช่าไร่ละ 50,200 บาท จำนวน 30 ไร่ ตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ขนาดกำลังผลิต 4 เมกะวัตต์ ซึ่งมีบริษัทแม่ประกอบกิจการขยะอุตสาหกรรม จะนำขยะ RDF หรือขยะอบแห้งที่ไม่มีกลิ่น มาจาก จ.สระบุรีมาผลิตกระแสไฟฟ้า
3. บริษัท ศแบง ยั่งยืน พิจิตร จำกัด เช่าที่ในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตรในราคาค่าเช่าไร่ละ 50,200 บาท จำนวน 2 ไร่ ตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะอุสาหกรรม ขนาด 2 เมกะวัตต์ โดยรับขยะอุตสาหกรรมจากโรงงานสระบุรีเช่นกัน
ในส่วนของประโยชน์ที่จะได้รับที่เห็นได้ชัดคือโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง จะมีการจ้างคนงาน แรงงาน เจ้าหน้าที่ที่เน้นเป็นคนในพื้นที่ก่อนเพื่อให้ชาวบ้านได้มีงานทำ โดยโรงไฟฟ้า RDF ในแต่ละโรงจะมีการจ้างคนงาน 60- 100 คน ล่าสุดเมื่อวันวานที่ผ่านมา นายวิโรจน์ เรืองเลิศศิลป์ ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่าง (พิจิตร) ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ดู บริษัท เอวาแกรนด์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด ที่เปิดรับสมัครคนงานจำนวน 20 อัตรา ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นงานในสายช่างประเภทต่างๆ ซึ่งมีผู้สนใจเกือบ 100 คน แห่กันมาสมัครอย่างคึกคัก ทั้งนี้เพื่อจะได้คัดเลือกผู้มีคุณสมบัติและความสามารถไปฝึกงานในโรงไฟฟ้า RDF ที่จังหวัดสระบุรี เมื่อมีความสามารถผ่านการทดลองงาน จากนั้นต้นปี 2563 โรงงานแห่งนี้ก็จะเริ่มเดินเครื่อง แรงงานเหล่านี้ก็จะได้กลับมาเป็นพนักงานในโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร ดังกล่าวต่อไป
วันที่ 11 มี.ค. 2562 นายวิโรจน์ เรืองเลิศศิลป์ ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่าง (พิจิตร) พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูความคืบหน้าจากกรณีที่มีนักลงทุนที่ขานรับนโยบายให้การกำจัดขยะและใช้ประโยชน์จากขยะเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการ 3 รายใหญ่ ทุ่มทุน 2,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่จะใช้วัสดุเหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรม 6 ประเภท ซึ่งประกอบด้วย วัสดุเหลือใช้ เหลือทิ้ง เช่น เศษกระดาษ, เศษไม้ , เศษผ้า , เศษพลาสติก ,เศษหนัง , เศษยาง ( ยกเว้นเศษยางรถยนต์ ) มาทำเป็น RDF ก็คือ นำเศษวัสดุเหลือใช้ข้างต้นนำมาอบแห้งอัดเป็นก้อน ซึ่งไม่มีกลิ่นให้น่ารังเกียจแต่อย่างใด โดยโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า 3 โรง ประกอบด้วย
1.บริษัท ซุปเปอร์ เอิร์ธ เอ็น เนอร์ยี 6 จำกัด เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมพิจิตรในราคาค่าเช่าไร่ละ 50,200 บาท จำนวน 47 ไร่ 3 งาน ลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงที่มาจากขยะชุมชนที่แปรรูปเป็นเชื้อเพลิงสำเร็จรูป หรือ RDF ขนาด 9 เมกะวัตต์ ถือว่าเป็นโรงไฟฟ้ารายใหญ่สุดในนิคมพิจิตรฯ คาดว่าแล้วเสร็จและดำเนินการได้ปี 63 โดยใช้พลังงานเชื้อเพลิงจาก RDF หรือขยะอบแห้งที่ไม่มีกลิ่นมาจากจังหวัดทางภาคกลาง
2. บริษัท เอวาแกรนด์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด เช่าพื้นที่นิคมฯพิจิตร ในราคาค่าเช่าไร่ละ 50,200 บาท จำนวน 30 ไร่ ตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ขนาดกำลังผลิต 4 เมกะวัตต์ ซึ่งมีบริษัทแม่ประกอบกิจการขยะอุตสาหกรรม จะนำขยะ RDF หรือขยะอบแห้งที่ไม่มีกลิ่น มาจาก จ.สระบุรีมาผลิตกระแสไฟฟ้า
3. บริษัท ศแบง ยั่งยืน พิจิตร จำกัด เช่าที่ในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตรในราคาค่าเช่าไร่ละ 50,200 บาท จำนวน 2 ไร่ ตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะอุสาหกรรม ขนาด 2 เมกะวัตต์ โดยรับขยะอุตสาหกรรมจากโรงงานสระบุรีเช่นกัน
ในส่วนของประโยชน์ที่จะได้รับที่เห็นได้ชัดคือโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง จะมีการจ้างคนงาน แรงงาน เจ้าหน้าที่ที่เน้นเป็นคนในพื้นที่ก่อนเพื่อให้ชาวบ้านได้มีงานทำ โดยโรงไฟฟ้า RDF ในแต่ละโรงจะมีการจ้างคนงาน 60- 100 คน ล่าสุดเมื่อวันวานที่ผ่านมา นายวิโรจน์ เรืองเลิศศิลป์ ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่าง (พิจิตร) ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ดู บริษัท เอวาแกรนด์ เอ็นเนอร์ยี จำกัด ที่เปิดรับสมัครคนงานจำนวน 20 อัตรา ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นงานในสายช่างประเภทต่างๆ ซึ่งมีผู้สนใจเกือบ 100 คน แห่กันมาสมัครอย่างคึกคัก ทั้งนี้เพื่อจะได้คัดเลือกผู้มีคุณสมบัติและความสามารถไปฝึกงานในโรงไฟฟ้า RDF ที่จังหวัดสระบุรี เมื่อมีความสามารถผ่านการทดลองงาน จากนั้นต้นปี 2563 โรงงานแห่งนี้ก็จะเริ่มเดินเครื่อง แรงงานเหล่านี้ก็จะได้กลับมาเป็นพนักงานในโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร ดังกล่าวต่อไป