จากกรณีที่มีข่าวผู้เสียหายแจ้งความหลังจากถูกหลอกให้ลงทุนกับการเล่นแชร์ลูกโซ่บิทคอยน์ สูญเงินรวมกว่า 500 ล้านบาท Satang Pro จึงได้ออกมาเตือนนักลงทุนและแจงข้อสังเกตของ ธุรกิจที่เข้าข่ายหลอกลวง โดยมี 3 ข้อต้องสังเกตเพื่อรู้เท้าทันกลโกง   ปรมินทร์ อินโสม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดและผู้ก่อตั้ง Satang Pro เปิดเผยว่า จากข่าวที่เกิดขึ้น เห็นได้ว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่ขาดความรู้ ในการลงทุน กับสกุลเงินดิจิตัลหรือคริปโตเคอเรนซี่ และทำให้เกิดความเข้าใจผิดๆ เหมารวมไปว่าธุรกิจบิทคอยน์ หลอกลวงเป็นแชร์ลูกโซ่เหมือนกันหมด ทั้งที่ธุรกิจหลอกลวงเหล่านั้นใช้วิธีที่เรียกว่า “Ponzi Schemes” เป็นแชร์ลูกโซ่ที่โหนกระแสของคริปโตเคอเรนซี   นักลงทุนควรต้องตรวจสอบข้อมูล ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนกับธุรกิจ ที่เป็นแชร์ลูกโซ่  โดยมีหลักสังเกตุกลโกงของธุรกิจที่เข้าข่ายหลอกลวงให้ลงทุนได้แก่ มีการระดม ทุน ไม่อั้นใครๆก็สามารถเข้ามาลงทุนได้ ยิ่งลงทุนมากจะได้ตำแหน่งสูง ยิ่งได้ค่าตอบแทน มาก! ประหนึ่งการทำตลาดแบบMLM โดยการันตีผลตอบแทน และในบางครั้งอาจจะเห็นการให้คอมมิชชั่น สำหรับผู้ที่แนะนำคนเข้ามาร่วมลงทุนเพิ่ม ถัดมา ฐานข้อมูลของบริษัทเหล่านั้นไม่ชัดเจน ไม่ สามารถตรวจสอบงบการเงินได้ ว่าเอาเงินไปทำอะไร และที่ระดมทุนไปมากๆ นั้นสร้างผลตอบแทน ในกิจการได้จริงหรือเปล่า ให้ถามกลับไปเลยว่ามีข้อมูล งบการเงินที่ได้รับการ รับรองจากหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่นกระทรวงพาณิชย์ให้ดูหรือไม่ ถ้าไม่มีเป็นความลับ ก็ไม่ควร อย่างยิ่งที่จะไปลงทุน กับธุรกิจประเภทนี้   “สุดท้ายเมื่อเราเข้าไปฟังบรรยายเขาจะ สร้างบรรยากาศและแรงจูงใจให้มีการลงทุน เต็มไปหมด คล้ายๆ เวลาเขาจะปั่นหุ้น จะมีการเก็บของ ออกข่าวเพื่อสร้างราคาให้สูงเกินจริง แต่ตอนที่เจ้ามือ กำลังเก็บ เขาก็จะเก็บกันแบบเงียบๆ พวกธุรกิจที่เป็นแชร์ลูกโซ่ก็เช่นกัน ถ้าเชียร์ๆ ซื้อกันเยอะๆ ควรต้องระวังไว้ก่อน เพราะถ้าธุรกิจมีข้อมูลหลายอย่าง ยืนยันว่าดีจริง ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องมาโหมเชียร์ให้คนอื่นมาร่วมลงทุนด้วยเลย” ปรมินทร์ กล่าว ก่อนจะลงทุนนักลงทุนควรตรวจสอบรายชื่อบริษัทนั้นๆว่าได้รับอนุญาตให้ประกอบการถูกต้อง ตามกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการลงทุน ระดมทุนหรือซื้อหุ้น หากนำเงินไปผ่านการซื้อ หน่วยลงทุน อาทิ กองทุนเทรดค่าเงิน หรือซื้อหุ้นนอกตลาด ตรวจสอบรายชื่อบริษัทกองทุนรวม ที่ได้รับอนุญาต ได้ที่http://market.sec.or.th/public/orap/COMPANYPROFILE03.aspx?lang=th&licno=... และหากนำเงินเราไปเพื่อการระดมทุน หรือ ซื้อหุ้นอย่างการนำเงินไปซื้อหุ้นนอกตลาดหุ้น หรือ หุ้นบริษัทที่เทรดหุ้นด้วยโรบอทหรือ AI นักลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ที่ https://www.set.or.th/set/memberlist.do   อย่างไรก็ตามถ้าสนใจลงทุนเกี่ยวกับบิทคอยน์ก็ควรที่จะศึกษาหาความรู้ ด้วยตัวเอง ก่อน จากเว็ปไซต์ก.ล.ต.โดยตรง ที่ https://xn--72ca3f5ac7d5a2c3d.com/ และควรเลือกลงทุน กับบริษัทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตัลจากก.ล.ต.เท่านั้น  Satang Pro ซึ่งเป็นหนึ่ง ในกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิตัลที่ได้รับอนุญาตจากก.ล.ต ได้เปิดให้มี “เดโม่เทรดดิ้ง” เพื่อให้ผู้สนใจ เข้ามาศึกษา หัดทดลองซื้อ-ขายได้ก่อนด้วยเงินจำลองก่อนจะไปลงทุนด้วยเงินจริง   “อยากให้นักลงทุนพึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงไปจนถึงเสี่ยงสูงมาก และต้องเข้าใจความเสี่ยงของตลาดcrypto ดังนั้นจึงควรใช้สติและวิจารณญาณในการลงทุน” ผู้ก่อตั้ง Satang Proสรุป   ปัจจุบัน มี 4 บริษัทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตัล แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (กระดานเทรด) จำนวน 3 ราย คือ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Satang Pro) เว็บไซต์ satang.pro บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) เว็บไซต์ bx.in.th บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (BITKUB) เว็บไซต์ bitkub.com และผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าและผู้ค้า คริปโตเคอร์เรนซี (Broker/Dealer) จำนวน 1 ราย ได้แก่ บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH) เว็บไซต์ coins.co.th