“EA “เตรียมพร้อมโรงงานผลิตแบตเตอรี่ รองรับ EV โต อานิสงฆ์จากรัฐบาลงดเก็บภาษีสรรพสามิต 3 ปี ต่อยอดด้วยธุรกิจเรือไฟฟ้า เพื่อจะนำไปสู่ระบบ Smart Transport ครบวงจร พร้อมเตรียมเปิดจองสิทธิ์รถ EV รุ่นอเนกประสงค์ "MINE MPV"ในงานมอเตอร์โชว์ในเดือนมี.ค.62 นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนเป็นหลัก หลังจากที่บริษัทได้ทำการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมานเสร็จเรียบร้อยแล้วและอยู่ในขั้นตอนการทะยอย COD ซึ่งได้เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)โครงการหนุมาน 1 และ 8 ไปแล้วเมื่อปลายเดือนม.ค.62 และเตรียมจะ COD ในส่วนที่เหลือจนครบ ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 664 เมกะวัตต์ในที่สุด โดยในช่วงต้นปีนี้ถือเป็นช่วงที่ดีของโรงไฟฟ้าพลังงานลมจากการเกิดมรสุมลมแรงรวมถึงพายุปาบึกที่ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับธุรกิจแบตเตอรี่นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมขึ้นโรงงานงานผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยม ไอออน พร้อมกับรุกเข้าไปต่อยอดในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรุกไปยังธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ MINE ที่เตรียมจะนำรุ่นที่จะผลิตจริงไปแสดงและเปิดให้จองสิทธิ์ในงาน Motor Show ก่อนที่เริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ EV รุ่นอเนกประสงค์ หรือ MINE MPV ก่อนเป็นลำดับแรก นับเป็นกลยุทธ์ในการสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลอย่างดียิ่ง ที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าด้วยการงดการเก็บภาษีสรรพสามิตเป็นเวลา 3 ปี คือ ตั้งแต่ 1 ม.ค.63-31 ธ.ค.65ในระหว่างนี้จะเร่งรัดแผน เดินหน้าติดตั้งสถานีชาร์จแบตเตอร์รี่เพื่อเตรียมรองรับรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง MINE และแบรนด์อื่นๆ เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนแผนการลงทุนเรือไฟฟ้านั้น บริษัทได้วางงบลงทุนรวม 1,000 ล้านบาทในการผลิตเรือโดยสารไฟฟ้าออกมาให้บริการเป็นเรือโดยสารสาธารณะ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการร่วมทำงานกับกรมเจ้าท่าในการเตรียมความพร้อม การสั่งผลิตเรือตามแบบที่กำหนด ตลอดจนการเปิดโอกาสทางธุรกิจและเจรจากับพันธมิตรที่สนใจ คาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ ทั้งนี้บริษัทมุ่งมั่นที่จะลงทุน พัฒนาธุรกิจต่อยอดใหม่ๆ โดยใช้จุดแข็งที่มี ทั้งด้านเทคโนโลยี และทีมงานที่เข้มแข็ง ในปีช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้มีการลงทุนด้านการวิจัย และพัฒนา,ทำการตลาด ตลอดจนการเตรียมบุคลากรของเราอย่างจริงจัง ซึ่งจะได้เริ่มเห็นผลงานและทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตามแผนงานของแต่ละสายธุรกิจ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้สายธุรกิจไบโอดีเซล ที่อยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ และขยายโรงงานแห่งใหม่ในพื้นที่ จ.ระยอง ขณะที่สายธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะนำเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานมาต่อพ่วงเข้ากับโรงไฟฟ้าโซลาร์หรือลมเพื่อเพิ่มเสถียรภาพและการสร้างรายได้ของโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ สายธุรกิจยานยนต์สมัยใหม่ที่เริ่มจากการเตรียมพร้อมลงทุนในสถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhereไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ผลิตภัณฑ์รถ EV ในชื่อแบรนด์ MINE Mobility และเรือไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้จากแผนธุรกิจที่บริษัทเตรียมการไว้นี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนสำหรับปี 2562-2563 ประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากเงินทุนจากการดำเนินงาน เงินกู้จากสถาบันการเงิน หรือการออกหุ้นกู้ซึ่งได้มีการเตรียมการที่จะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในปีนี้ไว้ โดยในปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,975.21 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30.33% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 3,817.45 ล้านบาท หากไม่นับรวมกำไรทางบัญชีที่เกิดจากการรวมธุรกิจ Amita Technologies Inc.,ไต้หวัน เข้ามาจะมีกำไรสุทธิในปี 2561 อยู่ที่ 4,080.63 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 12,490.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 11,673.50 ล้านบาท ปัจจัยบวกที่สำคัญมาจาก ผลประกอบการจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหาดกังหัน และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 4 แห่ง