วานนี้ (6 มีนาคม 2562) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย จัดเวทีเสวนา “นโยบายสาธารณะเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนไทยจากการพนัน” เพื่อให้รัฐบาลและพรรคการเมืองว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงสังคม ตระหนักถึงความสำคัญของการหามาตรการเร่งแก้ไขปัญหาการพนันในเด็กและเยาวชนไทย โดนเฉพาะการพนันออนไลน์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กทม.
พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยตัวเลขสถานการณ์และผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนไทยจากการพนันออนไลน์ว่า จากข้อมูลในปี 2560 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่าเยาวชนไทยเล่นพนันมากถึง 3.64 ล้านคน ในจำนวนนี้ติดหนี้พนันมากถึง 9.53 หมื่นคน ในวงเงิน 335 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณคนละ 3,500 บาท ปัจจุบันปัญหาการพนันได้ขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจพนันออนไลน์ที่มีมูลค่ามหาศาลและไร้พรมแดน
พญ.มธุรดา กล่าวต่ออีกว่า จากเหตุในข้างต้นทำให้การพนันออนไลน์เป็นเรื่องน่ากลัว เพราะสามารถทำได้ง่ายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีกันเกือบทุกคน และเข้าถึงตัวเด็กได้โดยที่ผู้ปกครองอาจไม่ทราบ ขณะที่เด็กและเยาวชนที่ติดการพนัน เข้าถึงมือแพทย์เพื่อรับการบำบัดเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น นอกจากนี้การเปิดเล่นพนันออนไลน์ยังสามารถทำได้ง่ายด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เช่น บล็อกเชน (Block Chain) ที่ทำให้ธุรกิจการพนันรักษาความลับของผู้เล่น และเชื่อมต่อกับบัตรเครดิตในลักษณะ E-Banking ลงทุนต่ำ เล่นได้ 24 ชม. และมีโค้ชส่วนตัว ซึ่งการพนันออฟไลน์ที่กลายร่างเป็นพนันออนไลน์โดยไม่มีการควบคุม รวมถึงโฆษณาแฝงในเกมที่ล่อลวงให้เด็กสู่วงโคจรของการพนันออนไลน์ ส่งผลกระทบเชิงลึกมากกว่าที่คิดไว้ เนื่องจากการพนันเป็นเสมือนสารเสพติดชนิดหนึ่งที่สามารถทำลายสมองของเด็กได้ หากเด็กถลำตัว เปิดประตูเข้าสู่วงโคจรนี้แล้ว จะทำให้ออกมาได้ลำบาก
“การป้องกันแก้ไขสามารถทำได้ แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ ขอให้พรรคการเมืองอย่าแจกอุปกรณ์มือถือหรือแท็บเล็ตให้เด็กก่อน 2 ขวบและให้ผู้ปกครองรู้เท่าทันโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมที่กำลังใกล้เข้ามา เพราะมีผลกระทบต่อสมองของเด็กและเยาวชน”
จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น น.ส.สุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์ ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยและ นายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง ตัวแทนจากสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน พร้อมสมาชิก ได้ประกาศ ข้อเสนอนโยบายสาธารณะเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนไทยจากการพนัน ถึงพรรคการเมืองเพื่อนำไปผลักดันให้เป็นนโยบายอย่างเร่งด่วน คือ
1.ให้มี “คณะกรรมการลดผลกระทบจากการพนัน” โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วน เพื่อเร่งจัดทำแผนงานและมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน โดยเฉพาะการพนันผ่านช่องทางออนไลน์ที่กำลังแผ่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้าถึงเด็กและเยาวชนได้ง่าย
2.เร่งจัดให้มี กองทุนป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน โดยนำรายได้จากสำนักสลากกินแบ่งรัฐบาล มาจัดสรรงบประมาณสนับสนุนมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
3.ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการพนัน สาเหตุและผลกระทบจากการพนัน รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการพนัน
4.ส่งเสริมการเผยแพร่ความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพนัน สร้างการรู้เท่าทัน และการเสริมสร้างเครือข่ายเยาวชนเพื่อป้องกันการติดการพนันรวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน
5.สนับสนุนให้มีกลไกเพื่อช่วยเหลือให้คำปรึกษา เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการพนัน
6.บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ต่อเนื่องและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพนัน เช่น พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 เป็นต้น โดยเฉพาะ มาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันให้เท่าทันต่อสถานการณ์
น.ส.สุภาพิชญ์ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนเยาชนไทย อยากให้พรรคการเมืองและผู้กำหนดนโยบายประเทศ เอาใจใส่เรื่องอย่างจริงจังเพราะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเด็กและเยาวชนในระยะยาว ซึ่งหากเป็นได้อยากให้รัฐบาลชุดใหม่นำข้อเสนอในข้อที่ 1 และ 2 ไปปฏิบัติให้เกิดผลโดยเร็ว เพราะเป็นเสมือนสารตั้งต้นที่จะทำให้แนวทางแก้ปัญหาทุกอย่างตามมา
ด้าน นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะการลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) กล่าวว่า ช่องทางออนไลน์ทำให้การเล่นการพนันเป็นเรื่องง่าย จากความรุนแรงของปัญหาจึงทำให้เกิดการจัดทำข้อเสนอต่อพรรคการเมืองเพื่อให้เป็นนโยบายสาธารณะ เพราะที่ผ่านมาปัญหานี้ถูกเพิกเฉย ด้วยผู้กำหนดนโยบายมองว่าไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วน จึงไม่มีมาตรการจัดการป้องกัน ทั้งที่ผลกระทบกำลังกระจายเป็นวงกว้างอย่างรุนแรง แต่หลังจากได้ฟังนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองในวันนี้ รู้สึกดีใจที่ทุกพรรคการเมืองทราบถึงปัญหาการพนันออนไลน์ และพร้อมสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันการพนันออนไลน์ มีนโยบายจัดตั้งกองทุนและคณะกรรมการดำเนินงานเชิงรุก รวมถึงการปรับปรุงกฎหมาย ที่สำคัญคือยอมรับข้อเสนอนโยบายสาธารณะของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เพื่อบริหารจัดการในเรื่องนี้
พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยตัวเลขสถานการณ์และผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนไทยจากการพนันออนไลน์ว่า จากข้อมูลในปี 2560 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่าเยาวชนไทยเล่นพนันมากถึง 3.64 ล้านคน ในจำนวนนี้ติดหนี้พนันมากถึง 9.53 หมื่นคน ในวงเงิน 335 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณคนละ 3,500 บาท ปัจจุบันปัญหาการพนันได้ขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจพนันออนไลน์ที่มีมูลค่ามหาศาลและไร้พรมแดน
พญ.มธุรดา กล่าวต่ออีกว่า จากเหตุในข้างต้นทำให้การพนันออนไลน์เป็นเรื่องน่ากลัว เพราะสามารถทำได้ง่ายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีกันเกือบทุกคน และเข้าถึงตัวเด็กได้โดยที่ผู้ปกครองอาจไม่ทราบ ขณะที่เด็กและเยาวชนที่ติดการพนัน เข้าถึงมือแพทย์เพื่อรับการบำบัดเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น นอกจากนี้การเปิดเล่นพนันออนไลน์ยังสามารถทำได้ง่ายด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เช่น บล็อกเชน (Block Chain) ที่ทำให้ธุรกิจการพนันรักษาความลับของผู้เล่น และเชื่อมต่อกับบัตรเครดิตในลักษณะ E-Banking ลงทุนต่ำ เล่นได้ 24 ชม. และมีโค้ชส่วนตัว ซึ่งการพนันออฟไลน์ที่กลายร่างเป็นพนันออนไลน์โดยไม่มีการควบคุม รวมถึงโฆษณาแฝงในเกมที่ล่อลวงให้เด็กสู่วงโคจรของการพนันออนไลน์ ส่งผลกระทบเชิงลึกมากกว่าที่คิดไว้ เนื่องจากการพนันเป็นเสมือนสารเสพติดชนิดหนึ่งที่สามารถทำลายสมองของเด็กได้ หากเด็กถลำตัว เปิดประตูเข้าสู่วงโคจรนี้แล้ว จะทำให้ออกมาได้ลำบาก
“การป้องกันแก้ไขสามารถทำได้ แต่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ ขอให้พรรคการเมืองอย่าแจกอุปกรณ์มือถือหรือแท็บเล็ตให้เด็กก่อน 2 ขวบและให้ผู้ปกครองรู้เท่าทันโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมที่กำลังใกล้เข้ามา เพราะมีผลกระทบต่อสมองของเด็กและเยาวชน”
จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น น.ส.สุภาพิชญ์ ไชยดิษฐ์ ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยและ นายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง ตัวแทนจากสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน พร้อมสมาชิก ได้ประกาศ ข้อเสนอนโยบายสาธารณะเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนไทยจากการพนัน ถึงพรรคการเมืองเพื่อนำไปผลักดันให้เป็นนโยบายอย่างเร่งด่วน คือ
1.ให้มี “คณะกรรมการลดผลกระทบจากการพนัน” โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วน เพื่อเร่งจัดทำแผนงานและมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน โดยเฉพาะการพนันผ่านช่องทางออนไลน์ที่กำลังแผ่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้าถึงเด็กและเยาวชนได้ง่าย
2.เร่งจัดให้มี กองทุนป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน โดยนำรายได้จากสำนักสลากกินแบ่งรัฐบาล มาจัดสรรงบประมาณสนับสนุนมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
3.ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการพนัน สาเหตุและผลกระทบจากการพนัน รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการพนัน
4.ส่งเสริมการเผยแพร่ความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพนัน สร้างการรู้เท่าทัน และการเสริมสร้างเครือข่ายเยาวชนเพื่อป้องกันการติดการพนันรวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน
5.สนับสนุนให้มีกลไกเพื่อช่วยเหลือให้คำปรึกษา เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการพนัน
6.บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ต่อเนื่องและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพนัน เช่น พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 เป็นต้น โดยเฉพาะ มาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันให้เท่าทันต่อสถานการณ์
น.ส.สุภาพิชญ์ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนเยาชนไทย อยากให้พรรคการเมืองและผู้กำหนดนโยบายประเทศ เอาใจใส่เรื่องอย่างจริงจังเพราะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเด็กและเยาวชนในระยะยาว ซึ่งหากเป็นได้อยากให้รัฐบาลชุดใหม่นำข้อเสนอในข้อที่ 1 และ 2 ไปปฏิบัติให้เกิดผลโดยเร็ว เพราะเป็นเสมือนสารตั้งต้นที่จะทำให้แนวทางแก้ปัญหาทุกอย่างตามมา
ด้าน นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะการลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) กล่าวว่า ช่องทางออนไลน์ทำให้การเล่นการพนันเป็นเรื่องง่าย จากความรุนแรงของปัญหาจึงทำให้เกิดการจัดทำข้อเสนอต่อพรรคการเมืองเพื่อให้เป็นนโยบายสาธารณะ เพราะที่ผ่านมาปัญหานี้ถูกเพิกเฉย ด้วยผู้กำหนดนโยบายมองว่าไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วน จึงไม่มีมาตรการจัดการป้องกัน ทั้งที่ผลกระทบกำลังกระจายเป็นวงกว้างอย่างรุนแรง แต่หลังจากได้ฟังนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองในวันนี้ รู้สึกดีใจที่ทุกพรรคการเมืองทราบถึงปัญหาการพนันออนไลน์ และพร้อมสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันการพนันออนไลน์ มีนโยบายจัดตั้งกองทุนและคณะกรรมการดำเนินงานเชิงรุก รวมถึงการปรับปรุงกฎหมาย ที่สำคัญคือยอมรับข้อเสนอนโยบายสาธารณะของสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เพื่อบริหารจัดการในเรื่องนี้