น้ำมันอพอลโล ปรับกลยุทธ์อิเดมิตสึ-ดาฟเน่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในเมืองไทย ชูนวัตกรรมและเทคโนโลยี สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้บริโภค พร้อมยึดมั่นธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกส่วนการผลิต ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการฑูตมหาสมุทร อนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลและแนวปะการัง นายยูอิจิ มัตซึยามะ ประธาน บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 50 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจของน้ำมันอพอลโลในประเทศไทย บริษัทในฐานะตัวแทนบริษัท อิเดมิตสึ โคซัน ที่มีกำลังการผลิตได้กว่า 70 ล้านลิตรต่อปี ด้วยโรงงานมาตรฐานระดับโลกบนพื้นที่กว่า 48,000 ตารางเมตรที่ จ.ชลบุรี โดยน้ำมันอพอลโลได้เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทย ทั้งนี้กลยุทธ์หลักที่สร้างจุดแข็งและเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมมาโดยตลอดคือ นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของน้ำมันอพอลโล ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญกับส่วนงานวิจัยและพัฒนา เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างสูงสุด “วันนี้เรามองไปข้างหน้าและวางแผนอนาคตสำหรับอีก 50 ปีข้างหน้า ท่ามกลางโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งกระทบและเป็นความท้าทายของทุกๆที่ๆเกี่ยวข้อง และเราพร้อมสานต่อการให้บริการที่ดีที่สุดสู่ตลาดน้ำมันหล่อลื่นอย่างต่อเนื่อง มีแผนอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งมากสำหรับการเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายในเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในทุกส่วนของการผลิต” นายจักรกริช วหาวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทน้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ยึดมั่นและพัฒนาเรื่องความรับผิดต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลายๆเรื่อง มีเป้าหมายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคุณภาพอากาศ ด้วยการหยุดใช้สารคอลลีน และสารคลอโรฟลูโอคาร์บอน(CFC)ที่ส่งผลให้เกิดภาวะเรือนกระจกในผลิตภัณฑ์ของเรา และยังทำการผลิตน้ำมันหล่อลื่นที่ปราศจากสารสังกะสี รวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้นานขึ้น ขณะที่ในกระบวนการผลิต บริษัทยังก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการใช้พลังงานสะอาด ทั้งการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และการนำความร้อนกลับมาใช้โดยผ่านระบบไอน้ำ เพื่อผลิตเป็นพลังงานใช้ในกระบวนการผลิตของบริษัท และในปีนี้ได้เดินหน้านโยบาย Zero Waste ในรูปแบบของการขอซื้อคืนน้ำมันที่ใช้แล้วนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นได้ ทั้งนี้บริษัทน้ำมันอพอลโล (ไทย)จำกัดได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการฑูตมหาสมุทร(SOA: Sustainable Ocean Ambassador) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมการตลาดเกษตรและอาหารแห่งภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค(AFMA: Agricultural and Food Marketing Association for Asia and the Pacific)โดยโครงการฑูตมหาสมุทร ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อดำเนินการฟื้นฟูดูแลพันธุ์พืชใต้ทะเล โดยปีที่ผ่านมาได้มีการลงฟื้นฟูท้องทะเล บริเวณเกาะแสมสาร จ.ชลบุรี และวางปะการังเทียมใต้ทะเล ไปแล้วกว่า 120 ชิ้นให้เป็นที่อยู่อาศัยที่ป้องกันภัย และเป็นแหล่งอาหารและแพร่พันธุ์ของสัตว์น้ำ ซึ่งปะการังเทียมนั้นได้รับการออกแบบให้มีรูปร่าง ลักษณะและขนาดที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณเกาะ ในปัจจุบันการดำเนินงานของโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้จากการมีเต่าทะเล รวมถึงสัตว์น้ำต่างๆได้กลับเข้ามาพักอาศัยในบริเวณเกาะมากยิ่งขึ้น นายภาวัต กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวทางการตลาดของบริษัทนั้น ผลิตภัณฑ์แบรนด์อิเดมิตสึ และดาฟเน่ เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นมาตลอด 50 ปี โดยยึดมั่นในจุดแข็งด้านนวัตกรรม เพื่อนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่สร้างความแข็งแกร่งและทำให้บริษัทเติบโตมาตลอด โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่นในปีนี้นับว่าอยู่ในช่วงฟื้นตัวและพร้อมจะเติบโตมากขึ้นจากปัจจัยของแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐหลายโครงการ ซึ่งส่งผลดีมาถึงการลงทุนของภาคเอกชนต่อมา โดยกลยุทธ์หลัก 5 ปี(2562-2567)คือการเติบโตอย่างมั่นคงในกลุ่มธุรกิจ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับยานยนต์ ภายใต้แบรนด์อิเดมิตสึ ซึ่งมีการเติบโตในด้านบวกมาตลอด 5 ปี ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างมาก และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรม ภายใต้แบรนด์ดาฟเน่ บริษัทตั้งเป้าจะเป็นผู้จัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมอันดับ 1 ในปี 2567 นอกจากนี้บริษัทได้วางแนวทางในการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเพิ่มเติม โดยการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มธุรกิจเดินเรือเพิ่มขึ้น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ รวมไปถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าโออีเอ็มในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทได้เดินหน้าด้านกลยุทธ์ Sport Marketingอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นส่วนร่วมในการพัฒนาวงการกีฬาและมอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย อีกทั้งเป็นหลักในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทั้งการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ IDEMITSU SUPER TURBO,การแข่งขันรถยนต์แบบยิมคาน่า,การสนับสนุนทีมแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ LCR HONDA IDEMITSU และ IDEMITSU HONDA TEAM ASIA ในรายการ MotoGP 2019, การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลชลบุรี สโมสรฟุตบอลไทยฮอนด้า และสโมสรฟุตบอลราชนาวี,การแข่งขันรายการ อิเดมิตสึไทยแลนด์ พาวเวอร์โบ๊ท มหกรรมกีฬาความเร็วทางน้ำ ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี “เรามุ่งมั่นสร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรม โดยตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ตอบทุกความต้องการของลูกค้าได้ พร้อมกับดำเนินนโยบายการพัฒนาบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนให้กับสังคมตลอดไป”