ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และปปส.ภาค 4 ปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดตามยุทธการฟ้าแดดสงยางระดมกวาดล้างยาเสพติดวันเดียวรวบผู้ต้องหากว่า 50 คน ของกลางยาบ้ากว่า 2 หมื่นเม็ด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 มีนาคม 2562 ที่หอประชุมศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผวจ.กาฬสินธุ์ พ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นพ.ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 4 และอส.ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างยาเสพติดปิดล้อมตรวจค้นจับกุมเป้าหมายผู้ค้าผู้เสพในพื้นที่ 18 อำเภอ จำนวน 46 เป้าหมายพร้อมกันตามยุทธการฟ้าแดดสงยางระดมกวาดล้างยาเสพ
โดยสามารถจับกุมได้ผู้ต้องหาจำนวน 50 ราย แบ่งเป็น ผู้ค้า 8 ราย ผู้ครอบครอง 2 ราย และผู้เสพ 40 ราย ของกลางยาบ้าจำนวน 18,339 เม็ด ยาไอซ์ 0.63 กรัม กัญชา 2.5 กรัม อาวุธปืน 15 กระบอก ยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้เกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 3 รายการ รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน รวมมูลค่า 330,000 บาท
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดยังคงระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดเบาบางลง โดยปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้เสพและจำนวนยาเสพติดเริ่มลดลง ซึ่งเกิดจากแต่ละชุมชนมีความเข้มแข็งในการต่อต้านยาเสพติด โดยจะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เรื่องของการการบำบัด และมีทางเลือกสำหรับการสร้างอาชีพหลังจากได้รับการบำบัดแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังคัดให้อำเภอเสนออำเภอละหนึ่งแห่ง เป็นครอบครัวสีขาว สร้างจุดแข็งเพื่อให้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้ลดลง และอยากให้ประชาชนที่รู้เบาะแสสามารถแจ้งเข้ามาให้กับทางจังหวัดโดยตรงเพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำการออกตรวจสอบและดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดต่อไป
นายไกรสร กล่าวอีกว่า ในห้วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการกวดล้างยาเสพติดอย่างเข้มข้นนอกจากจะสามารถจับกุมผู้ค้า ผู้เสพ และยึดของกลางได้จำนวนมากแล้ว จากการสำรวจและประเมินยังพบว่าผู้ที่เสพนั้นมีการเสพยาเสพติดความถี่ 5 เม็ด ต่อคน ต่อวัน ซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่าย 475 บาท ต่อคน ต่อวัน เฉลี่ยระยะเวลาที่เสพ 5 ปี รวมมีค่าใช้จ่าย 866,875 บาท โดยผู้เสพจากการดำเนินการตามยุทธการฟ้าแดดสงยางจำนวน 3,048 คน จะเกิดค่าใช้จ่ายประมาณ 2,642 ล้านบาท ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวนอกจากโทษพิษภัยของยาเสพติดที่ส่งผลต่อร่างกายแล้ว จะทำให้เห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างมากอีกด้วย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ไม่ได้มีการแพร่ระบาดหรือมากกว่าจังหวัดอื่นๆ เพียงแต่เจ้าหน้าที่เอาจริง เอาจังกับปัญหานี้ จึงทำให้มีสถิติการจับกุมมาก ซึ่งเปรียบเสมือนการหาทอดแหหาปลา คนที่ทอดแหปล่อยๆก็จะได้ปลาเยอะ ดังนั้นในปฏิบัติการฟ้าแดดสงยางในปีที่ 2 เจ้าหน้าที่จะยังคงทำต่อเนื่อง และเชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะหากจะสำเร็จได้ประชาชนต้องช่วยกัน เพื่อเสพติดหมดสิ้นไป
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดยังคงระดมกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดเบาบางลง โดยปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้เสพและจำนวนยาเสพติดเริ่มลดลง ซึ่งเกิดจากแต่ละชุมชนมีความเข้มแข็งในการต่อต้านยาเสพติด โดยจะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เรื่องของการการบำบัด และมีทางเลือกสำหรับการสร้างอาชีพหลังจากได้รับการบำบัดแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังคัดให้อำเภอเสนออำเภอละหนึ่งแห่ง เป็นครอบครัวสีขาว สร้างจุดแข็งเพื่อให้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้ลดลง และอยากให้ประชาชนที่รู้เบาะแสสามารถแจ้งเข้ามาให้กับทางจังหวัดโดยตรงเพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำการออกตรวจสอบและดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดต่อไป
นายไกรสร กล่าวอีกว่า ในห้วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการกวดล้างยาเสพติดอย่างเข้มข้นนอกจากจะสามารถจับกุมผู้ค้า ผู้เสพ และยึดของกลางได้จำนวนมากแล้ว จากการสำรวจและประเมินยังพบว่าผู้ที่เสพนั้นมีการเสพยาเสพติดความถี่ 5 เม็ด ต่อคน ต่อวัน ซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่าย 475 บาท ต่อคน ต่อวัน เฉลี่ยระยะเวลาที่เสพ 5 ปี รวมมีค่าใช้จ่าย 866,875 บาท โดยผู้เสพจากการดำเนินการตามยุทธการฟ้าแดดสงยางจำนวน 3,048 คน จะเกิดค่าใช้จ่ายประมาณ 2,642 ล้านบาท ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวนอกจากโทษพิษภัยของยาเสพติดที่ส่งผลต่อร่างกายแล้ว จะทำให้เห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอย่างมากอีกด้วย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ไม่ได้มีการแพร่ระบาดหรือมากกว่าจังหวัดอื่นๆ เพียงแต่เจ้าหน้าที่เอาจริง เอาจังกับปัญหานี้ จึงทำให้มีสถิติการจับกุมมาก ซึ่งเปรียบเสมือนการหาทอดแหหาปลา คนที่ทอดแหปล่อยๆก็จะได้ปลาเยอะ ดังนั้นในปฏิบัติการฟ้าแดดสงยางในปีที่ 2 เจ้าหน้าที่จะยังคงทำต่อเนื่อง และเชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะหากจะสำเร็จได้ประชาชนต้องช่วยกัน เพื่อเสพติดหมดสิ้นไป