ดนตรี/วรรณากร ทองเสริม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นิค คาร์เตอร์, เอเจ แมคลีน, เควิน ริชาร์ดสัน,ฮาววี่ โดโรห์ และ ไบรอัน ลิทเทรล ห้าหนุ่มที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อวง แบ็คสตรีท บอยส์ – ผลผลิตอันโดดเด่นจากยุคทองของวงดนตรีในรูปแบบของ “บอย แบนด์” ที่เคยคว้าหัวใจสาวๆ มาแล้วทั่วโลก – ยังคงรวมตัวกันทำงานและออกอัลบั้มได้ (อีกครั้ง) หลังจากเวลาผ่านไป 26 ปี นับจากปีแรกที่พวกเขาเดบิวท์สู่ววงการเพลงอเมริกัน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกล่าวถึงยุคไนน์ตี้ส์อันเป็นยุคที่บอยแบนด์รุ่งเรืองอย่างมาก โดยไม่พูดถึงชื่อของ แบ็คสตรีท บอยส์ ควบคู่ไปกับวงที่เปรียบเหมือนคู่แข่งอย่าง เอ็นซิงค์ และอีกหลายวง เช่น บอยโซน, เวสท์ไลฟ์, 98 ดีกรีส์, เทคแดท, บอยซ์ ทู เม็น นอกจากนี้ยังมีเพลงฮิตของพวกเขาอีกมากมาย เช่น “I Want It That Way”, “Larger Than Life”, “Everybody (Backstreet's Back)”, “Shape Of My Heart”, “As Long As You Love Me” และอีกมาก แบ็คสตรีท บอยส์ เคยมีการหยุดพักวงไประยะหนึ่งในช่วงปี 2545-2547 แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็มีงานออกมาเรื่อยๆ ทั้งหนังและเพลง แม้กระทั่งในช่วงที่สมาชิกวงอย่าง ริชาร์ดสัน ขอลาออกในปี 2549 (และกลับมาร่วมวงอีกครั้งในอีก 6 ปีให้หลัง) สี่หนุ่มที่เหลือก็ยังออกทัวร์และทำเพลงต่อไป พวกเขาฉลองครบรอบ 20 ปีของวงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และปี 2561 คือจังหวะดีที่พวกเขาตัดสินใจออกผลงานใหม่ล่าสุดที่ให้ชื่อว่า DNA ซึ่งเป็นผลงานชุดที่ 10 ในภาพรวมแล้ว DNA ไม่ได้ทำอะไรที่แปลกใหม่หรือมีความประหลาดใจแอบแฝง แต่พวกเขาฉลาดมากที่หยิบจับดนตรีในสไตล์ต่างๆ ทั้ง คันทรี่ย์ ป็อป อาร์แอนด์บี ร็อค ฟังก์ ไปจนถึงอีดีเอ็ม เข้ามาผสมผสานกับบทเพลงของพวกเขาและทำให้เพลงเหล่านั้นเป็นเพลงในแบบของ แบ็คสตรีท บอยส์ “Don't Go Breaking My Heart” คือเพลงโปรโมทเพลงแรก และมีทุกอย่างที่ควรจะมีสำหรับเพลงที่ถูกวางให้เป็นเพลงฮิต แม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นถึงอันดับ 1 ในบิลล์บอร์ดชาร์ต แต่อยู่ในระดับท็อปเท็น นี่คือเพลงที่มีโครงสร้างแข็งแรง ติดหูง่าย เหมาะจะเป็นซิงเกิลโปรโมทอย่างแท้จริง ในอัลบั้มยังมีเพลงอื่นๆ ที่น่าฟังและโดดเด่น อาทิ “Breathe” ที่มาพร้อมภาคดนตรีเบาบาง โชว์การประสานเสียงที่เป็นจุดแข็งของพวกเขามาตลอด แม้ว่า แบ็คสตรีท บอยส์ จะไม่ใช่ บอยซ์ ทู เม็น ที่เลิศเลอโดดเด่นในการร้องประสานเสียง แต่พวกเขาก็ยังทำได้น่าทึ่ง ส่วนที่เพลงที่ตามมาอย่าง “New Love” ก็ทำได้เก๋ ด้วยเสียงเดินเบสกับกลองที่หนักแน่นทำหน้าที่เป็นแกนหลักของเพลง ขณะที่เสียงร้องนำและเสียงประสานไล่ล้อกันไปอย่างน่าฟัง ขณะที่ “The Way It Was” เป็นป็อป-โซลแบบย้อนยุค และ “OK” เป็นเพลงใสๆ แนวน่ารักน่าเอ็นดูเท่าที่หนุ่มใหญ่จะน่าเอ็นดูได้ ทั้งยังเป็นอีกเพลงที่โชว์ความโดดเด่นในการร้องประสานเสียงของพวกเขาได้อย่างดี แม้จะขาดเพลงที่ให้ความยิ่งใหญ่ ทรงพลัง และ DNA ก็ไม่ใช่อัลบั้มที่ดีเลิศ แต่ก็ไม่ใช่อัลบั้มที่แย่อะไรเลย DNA มีทุกอย่างที่แฟนๆ ของ แบ็คสตรีท บอยส์ ต้องการและคิดถึง และที่สำคัญ พวกเขาทำออกมาได้กลมกลืนกับยุคสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายเก่าๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ โดยไม่ทำให้คนฟังรู้สึกว่านี่เป็นดนตรีตกยุค