“นายกฯ”ย้ำรัฐบาลเร่งลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ขอทุกฝ่ายปลูกฝังต้านโกงตั้งแต่ยังเด็ก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “รายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2562 ได้ทำการบันทึกเทป ที่หอประชุมธงชัย ชิวปรีชา โรงเรียนกำเนิดวิทย์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ในวันที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือภาคีทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและการศึกษาทุกช่วงวัย เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีโอกาสตอบคำถามและพูดคุยกับอาจารย์และเด็กนักเรียน โดยมีนายทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และนางสินจัย เปล่งพานิช สองดารานักแสดงทำหน้าที่เป็นพิธีในรายการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบข้อถามถึงปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการแก้ไข ว่า อันแรกก็คือการลดความเหลื่อมล้ำ ถือว่าสำคัญที่สุด ทั้งกรณีโรงเรียนใหญ่ โรงเรียนเล็ก โรงเรียนที่มีชื่อเสียง เด่นดังต่าง ๆ โรงเรียนที่ยังพัฒนาได้น้อย สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะฉะนั้นเด็กนักเรียนที่เข้าเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ ถ้าโรงเรียนดี โรงเรียนดังก็จะไปได้ไกล โรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้ไปได้ช้า เพราะฉะนั้นต้องพัฒนาทั้งสถานศึกษา พัฒนาทั้งครู ระบบการศึกษา การคัดกรอง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราคัดกรองด้วยคะแนนสอบ ซึ่งคิดว่าไม่เพียงพอ การคัดกรองคะแนนสอบต้องมาตรฐานเท่ากันก่อน ถึงจะคัดกรองด้วยข้อสอบเดียวกันได้ วันนี้เราใช้ข้อสอบทั่วประเทศ บางทีก็คัดกรองเด็กที่มีพื้นฐานต่างกันแต่จะเป็นการตัดโอกาสเขาหรือไม่ เพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นหัวข้อปัจจัยในการพิจารณา สิ่งสำคัญที่สุดในระบบการศึกษาคือครู ครูต้องเรียนรู้ไปกับเด็ก วันนี้ครูก็ไปเรียนต่างประเทศมา ไปเรียน ไปร่วมมือ ไปสัมมนา แต่ทุกคนต้องอัพเกรดตัวเองขึ้นมาให้ได้ ต้องเป็นครูให้เหมาะกับศตวรรษที่ 21 เหมือนกับนักเรียนศตวรรษที่ 21 เข้าใจไหม เรากำลังเตรียมคนเพื่ออนาคต 20 ปีข้างหน้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นได้มีเด็กนักเรียน ถามว่าหาก นายกฯ พบว่าผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา นั้นมีการทุจริต ท่านนายกฯ จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การที่กำจัดการทุจริตสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีการร้องเรียน ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ถ้าพูดกันอยู่ในโซเชียล มีเดีย อย่างเดียว ทำอะไรลำบาก เพราะหลักฐานไม่มี เพราะฉะนั้นกระบวนการยุติธรรมเราก็ว่ากันด้วยพยานบุคคลหรือวัตถุพยาน ทั้งนี้ในส่วนของรัฐบาลเอง มีนโยบายที่จะปกปิดชื่อของผู้ที่มาแจ้ง ในเรื่องของที่ร้องเรียนมา บางครั้งมีการร้องกับหน่วยงานแล้วก็ไม่ได้คำตอบ ส่วนการร้องเรียนถึงนายกฯ ด้วยการเขียนจดหมาย ก็ขอให้ลงชื่อมาด้วย โดยเราจะทำการปกปิดชื่อให้ จากนั้นจะสั่งให้มีการตรวจสอบ “วันนี้เราก็มีการเรียนการสอนในเรื่องของการโตไปไม่โกง สิ่งเหล่านี้ต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก จะช่วยเราได้มาก สังคมต้องช่วยกัน ถ้าเราปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ได้ การบังคับใช้กฎหมายก็จะลดลง วันนี้เราต้องการให้มีกฎหมายที่มีบทลงโทษหนัก แล้วเราก็บังคับใช้ไม่ได้ เพราะแรงเกินไป ต้องหากฎหมายที่ทำให้ทุกคนปรองดอง แต่จะต้องรักษากฎเกณฑ์ของสังคมให้ได้”