มาให้จับถึงที่ สาวแสบแสร้งเป็นเหยื่อร้องกองปราบถูกตุ๋นเงินแชร์ สุดท้ายเจอรวบคาห้องแจ้งความ หลังพบที่แท้เป็นท้าวแชร์สิบแปดมงกุฏตุ๋นเงินเหยื่อกว่า 200 ล้าน บางรายสิ้นเนื้อประดาตัวเครียดหนักจนฆ่าตัวตาย เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุม น.ส.วันเพ็ญ สุภาจิต อายุ39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.13 ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.41/2562 ลงวันที่ 28 ก.พ.2562 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก้ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.วันเพ็ญ ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับพวกอีก 1 คน ตั้งตนเป็นท้าวแชร์ก่อนใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความเชิญชวนให้ทำการลงทุนซื้อแชร์หลุดมือจากท้าวแชร์รายใหญ่ โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นร้อยเท่าของเงินลงทุน จึงทำให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนเป็นจำนวนหลายร้อยราย รวมมูลค่าที่ร่วมลงทุนกว่า 200 ล้านบาท แต่เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินค่าตอบแทนท้าวแชร์ทั้ง2 รายนี้กลับไม่ยอมจ่ายเงินปันผลให้กับทางกลุ่มผู้เสียหายได้ โดยอ้างถูกเจ้าหน้าที่ ปปง.เข้าตรวจสอบธุรกรรมด้านการเงิน ก่อนที่จะปิดเฟซบุ๊กลง พร้อมขาดหายการติดต่อไปในที่สุด ทำให้บรรดาลูกแชร์หรือผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก บางรายเครียดหนักจนถึงขั้นจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเนื่องจากได้ไปกู้เงินจากธนาคารมาลงทุนแชร์ ดังกล่าวทำให้เป็นหนี้ถึง 10 ล้านบาท ก่อนจะรวมตัวกันไปเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุรินทร์ กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา น.ส.วันเพ็ญ ผู้ต้องหารายนี้พอทราบว่าตัวเองถูกแจ้งความดำเนินคดีจึงทำทีมาเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อแสร้งว่าเป็นเหยื่อจากการถูกโกงกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่ระหว่างที่กำลังสอบปากคำอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้พบพิรุธจึงได้ประสานสอบถามข้อมูลไปยัง สภ.เมืองสุรินทร์ จึงทราบว่า น.ส.วันเพ็ญ เป็นหนึ่งในเท้าแชร์ที่ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงได้แสดงตัวจับกุมในทันที จากการสอบสวน น.ส.วันเพ็ญ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น เบื่องต้นจึงได้แจ้งจ้อกล่สวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป