เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.62) เวลา 10.00 น.วนายพิสิษฐ์ รื่นเกษม อายุ 55 ปี เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนและสื่อมวลชน ส่วนกลาง ได้เดินทางไปพบ ร้อยตำรวจ เอกอิทธิพล คำหอม รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากได้รับหมายเรียกกรณี เมื่อวันที่ 13 ก.พ.62 เจ้าของสวน ทุเรียนป่าละอู รายหนึ่ง ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาดูหมิ่นโดยการโฆษณา โดยมีสื่อมวลชนหลายสำนักข่าวเดินทางไปให้กำลังใจ
สำหรับเรื่องดังกล่าว ได้เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.60 ที่ นายพิสิษฐ์ ได้เดินทางไปกับคณะสื่อมวลชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอหัวหิน และได้ซื้อทุเรียนที่ป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ มา 1 ลูก ในราคา 900 บาท โดยผู้ขาย รับว่าจะอีก 2 วันจะสุกทานได้ แต่เมื่อถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ได้ผ่าออกมาพบว่า ผลทุเรียนดิบ ไม่พร้อมที่จะทานได้ จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.60 พนักงานสอบสวน ได้ให้เจ้าของสวนทุเรียนเดินทางมาเจรจา ที่ สภ.บ้านหนองพลับ โดยได้แสดงตนเป็นเจ้าของทุเรียน และได้เจรจาพูดคุยตกลงกันได้ ในบันทึกประจำวันร่วมกันว่า เกิดจากการเข้าใจผิดทำให้เกิดข้อพิพาทขึ้นมา ทางฝ่ายเจ้าของทุเรียนยินยอมรับชดใช้ค่าเสียหายในผลทุเรียนดิบ ไม่พร้อมที่จะทานได้ เจ้าของสวน ยินยอมรับชดใช้ค่าเสียหายในผลทุเรียน โดยได้มีการคืนเงินให้กับผู้ซื้อ แล้วลงบันทึกประจำวันไว้ว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ไม่ติดใจฟ้องร้องกันอีกต่อไป และมีการลง ชื่อทั้งสองฝ่ายไว้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ดีหลังจากเกิดเหตุได้มีการนำเสนอข่าวทางเวปไซค์หนังสือพิมพ์ส่วนกลางฉบับหนึ่ง และปัจจุบันยังมีข่าวดังกล่าวอยู฿ในเว็บไซต์ จึงได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อ ขอให้ลบข่าวดังกล่าวออกจากระบบ
นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ซื้อทุเรียนป่าละอู ได้ทุเรียนดิบกินไม่ได้ตามที่คนขายบอกตามกำหนดไป จึงเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองพลับ และพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ได้เรียกผู้ขายมาไกล่เกลี่ย และรับชดใช้ค่าทุเรียน มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งที่ทำไปก็เพื่อให้เจ้าของสวนมีจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อลูกค้าเท่านั้น ขนาดเป็นสื่อมวลชนยังโดนทุเรียนดิบ ส่วนกรณีที่เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ส่วนกลางได้นำเสนอไปนั้น เป็นเรื่องของข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองคงไม่มีอำนาจไปบังคับให้ลบข้อความข่าวดังกล่าวได้
