ที่ผ่านมาฝุ่นละออง PM2.5 ถือเป็นมหันตภัยร้ายแรงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ต้องเจ็บป่วยกันเป็นจำนวนมาก PM2.5 เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาทิ โรงผลิตไฟฟ้า ควันท่อไอเสียจากการเผาไหม้ของรถยนต์ การเผาทำลายป่า การเผาขยะ ควันบุหรี่ เป็นต้น กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นหน่วยงานหนึ่งในหลายๆหน่วยงาน ที่ร่วมบูรณาการช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ โดยยึดตำราฝนหลวงพระราชทาน ซึ่งเป็นหนึ่งในศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาเป็นหลักในการปฏิบัติฝนหลวง จนสามารถสลายฝุ่นละอองให้เบาบางลงในหลายพื้นที่ แม้ว่าสภาพอากาศในช่วงเวลาที่ฝุ่นละอองอยู่ในภาวะวิกฤติ จะมีความกดอากาศค่อนข้างสูงซึ่งไม่เอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากสภาวะของชั้นบรรยากาศจะมีลักษณะเหมือนห้องที่มีฝ้าฝุ่นละอองลอยอยู่จึงไม่สามารถกระจายตัวออกไปได้ ซึ่งปัจจัยสำคัญในการสลายฝุ่นละอองในอากาศคือการมีละอองน้ำหรือเม็ดน้ำ เพื่อจับละอองฝุ่นให้ตกลงมาสู่พื้นดิน และกระแสลมหมุนเวียนจะช่วยพัดพาฝุ่นละอองให้เบาบางลง นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ระบุว่า ปัญหาฝุ่นละอองที่ทวีความรุนแรงในครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรอย่างมาก ในการที่จะต้องวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงด้วยการคิดหาวิธิีการและเทคนิคต่างๆ ที่สำคัญยังต้องสื่อสารกับพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับแผนและผลการปฏิบัติการฝนหลวงสลายฝุ่นละอองของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วแตาละภูมิภาคผ่านการ Live สดทางเพจเฟสบุ้คกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยยอดผู้ติดตามรับชมกว่า 10,000 วิว เพราะนอกจากจะได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองประจำวันแล้ว ยังได้เรียนรู้ศาสตร์พระราชาด้านฝนหลวง รวมถึงได้น้อมรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในด้านการช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพสกนิกรของพระองค ถือเป็นมรดกที่ประเมินค่าไม่ได้ “ชาวฝนหลวงทุกคน ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคในการปฏิบัติการฝนหลวง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมีความพร้อมปฏิบัติงานในทุกสภาวะ เราทำงานแบบไม่มีวันหยุด พร้อมปฏิบัติงานในทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย เราพร้อมที่จะคิดค้นหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เช่น การวิจัยสารทางเลือก เพื่อเกิดกระบวนการเกิดเมฆที่ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ หากงานวิจัยประสบผลสำเร็จจะถือว่าไทยจะเป็ นประเทศต้นแบบให้กับประเทศในทั่วโลกที่กำลังประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันได้" กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติงาน โดยพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศ ตามแนวทางศาสตร์พระราชา ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร องค์พระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ให้แก่พี่น้องประชาชน เกษตรกร และพื้นที่การเกษตร อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ให้มีความอยู่ดีกินดีต่อไป