เลเจนด์ สยาม พัทยา (Legend Siam Pattaya) เมืองแห่งตำนานอารยะสยาม ธีมพาร์คเชิงวัฒนธรรมไทย จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ, เบลล่า-ราณี แคมเปน, มาริโอ้ เมาเร่อ, มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์, ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล อีกทั้งยังมีศิลปินเกาหลีวง TARGET ร่วมโชว์ฉลองการเปิดตำนานแห่งสยาม และคนในวงการบันเทิง อาทิ อรุโณชา ภาณุพันธ์, ยุรนันท์ ภมรมนตรี, อาภา ภาวิไล, ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ, มารี เออเจนี เลอเลย์, ณัฏฐ์ธนิน คุณาธนาฒย์, ทิตชญา ภูดิทกุลกานต์ และ วรนันท์ จันทรัศมี พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้และคนดังอีกมากมาย อาทิ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล, เฌอปัฐน์ กิตติพรวริษฐ์, ณิชชา บุณยากร, ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ,ณัฏฐ์ธนิน คุณาธนาฒย์, ปุญญพัฒน์ ถนอมกุล และปุณณิศา ศิริสังข์ ที่ Legend Siam Pattaya วิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด กล่าวว่า “เลเจนด์ สยาม พัทยา เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์สำคัญในการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของประเทศไทย โดยมีแนวคิดคือการปลุกตำนานอันเลื่องลือของสยามประเทศให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เป็นการถ่ายทอดความคิด วัฒนธรรมและประเพณีของไทยที่สวยงาม รวมถึงวิถีชีวิตแห่งความรุ่งเรืองในยุคต่างๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เปรียบดั่งอาณาจักรที่เหนือกาลเวลาที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยมนตราและเสน่ห์แห่งสยามจากอดีตถึงปัจจุบัน เพื่อให้เลเจนด์ สยาม พัทยา นั้นเป็นเมืองแห่งตำนานอารยะสยามอย่างแท้จริง” ภายในงานให้แขกผู้มีเกียรติได้สัมผัสความตระการตาแห่งสยามประเทศเริ่มตั้งแต่บริเวณหน้ากำแพงประตูเมืองที่ขนาบข้างด้วยยักษ์เฝ้ากำแพงเมืองซึ่งสูงที่สุดในประเทศไทย คอยต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาเยือน ตามด้วยการแสดงอันเป็นตำนานที่สุดของความเป็นไทยทุกภาค อลังการไปกับโชว์ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมของทั้ง 4 ภาคที่แม้แตกต่างกัน แต่เมื่อรวมกันแล้วกลายเป็นเอกลักษณ์อันเป็นหนึ่งเดียว ประกอบไปด้วยการแสดงฟ้อนรำสุดอ่อนช้อยจากทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย โป๊ป -ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และ เบลล่า - ราณี แคมเปน เลเจนด์ สยาม พัทยา (Legend Siam Pattaya) แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองพัทยา กล่าวได้ว่าเป็นเสมือนโชว์รูมของประเทศที่นำเสนออัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทยให้เผยแพร่สู่เวทีโลก ผ่านศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ วิถีชีวิต การละเล่น การร้องรำ รวมถึงสินค้าและอาหารคาวหวาน อันเป็นรากเหง้าแห่งเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทย พร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 2 มีนาคม 2562 นี้ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลินเพลินกับความเป็นไทยตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน ในทุกพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ บนพื้นที่กว่า 164 ไร่ โดยมีสิ่งก่อสร้างตามแบบฉบับไทยในยุคต่างๆบนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยยักษ์เฝ้ากำแพงเมืองที่สูงที่สุดในประเทศ ได้แก่ ทศกัณฐ์และสหัสเดชะ แบ่งพื้นที่เป็น 3 โซนตามวิถีแห่งการดำเนินชีวิต ดังนี้  มาริโอ้ เมาเร่อ และ  มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง 28. พงศกร เมตตาริกานนท์ , กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล โซน 1 : Siam Vilize ความศิวิไลซ์แห่งอารยะธรรมสยาม ร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับสุดยอดความศิวิไลซ์ของกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สัมผัสตำนานแห่งเสน่ห์ของวิถีเมืองกรุงอันน่าหลงใหล อันประกอบไปด้วย Ø Town Square จัตุรัสพระนคร ศูนย์กลางความศิวิไลซ์แห่งพระนคร จุดศูนย์รวมของสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยอันทรงคุณค่า คับคั่งไปด้วยสินค้าและอาหารคาวหวานอันเป็นที่นิยมแห่งยุคมากมาย ไม่ว่าจะย่างกรายไปมุมใดก็ล้วนถ่ายรูปได้งดงามประหนึ่งข้ามเวลาไปในยุครัตนโกสินทร์ Ø Black Magic จอมโจรขมังเวทย์ ห้องกระจกวงกตแห่งมนตรา ซึ่งถูกลงอักขระอาคมมหายันต์โดยจอมโจรขมังเวทย์ ร่วมพิสูจน์ความลี้ลับแห่งมนตราอาคมในตำนานที่ยังคงสืบสานความขลังจนถึงปัจจุบัน ให้นักท่องเที่ยวผจญกับโลกแห่งเวทมนตร์ฉบับไทยๆและปราบเหล่าจอมโจรด้วยเทคนิคแสง สี เสียง สามมิติ ถ้าใจคุณกล้า ท้าให้ลอง! (เปิดให้บริการ 28 กุมภาพันธ์ 62) Ø พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ประติมากรรมปูนปั้นขนาดมหึมามีความสูงกว่า 11 เมตร ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คอันศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญแห่งสยามวิไลซ์ เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้สักการะ เพื่อได้รับพรและ ประสบพบเจอแต่ความสุขกลับบ้านไป Ø Siam Vilize Thai Machine สยามวิไลซ์ ไทย แมชชีน ร่วมเปิดจินตนาการไปกับเครื่องไทม์แมชชีนย้อนเวลาสู่ยุคทองอันเรืองรองของกรุงศรีอยุธยา ผ่านเรื่องราวของกัปตันจากเมืองกรุงเทพฯแห่งโลกอนาคต ด้วยเทคนิคการฉายภาพระบบดิจิตอล 3 มิติและกราฟฟิคสุดตระการตาพร้อมเปิดอายตนะทั้ง 6 เพื่อพบกับเรื่องราวที่ยังทรงคุณค่าจวบจนปัจจุบัน (พร้อมเปิดให้บริการ ปลายเดือนมีนาคม 62) ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ , ปุญญพัฒน์ ถนอมกุล , ณัฏฐ์ธนิน คุณาธนาฒย์ , เฌอปัฐน์ กิตติพรวริษฐ์ โซน 2 : Thai Araya ไทยอารยะ สัมผัสความงดงามของวัฒนธรรมแห่งวิถีพื้นบ้าน พบกับเสน่ห์สีสันความสนุกในวันวาน อาทิ งานวัด วิถีชีวิตแห่งความสนุกสนานของชาวสยาม, ตลาดบก ที่มีสินค้าอันเป็นเอกลักษณ์ของทุกจังหวัดในประเทศไทยรวบรวมมาไว้อยู่ที่นี่ที่เดียว โดยภายในไทยอารยะมีสิ่งที่น่าสนใจ ดังนี้ Ø Baan Mea Nak บ้านแม่นาค นำเสนอเรื่องราวตำนานรักอมตะสุดเฮี้ยนแห่งคลองพระโขนง จากความรักแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นสุดหลอน ที่น่าสะพรึงกลัวจนขนหัวลุก ให้เหล่าคนชอบลองของได้ท้าพิสูจน์กันตั้งแต่ก้าวแรกจนก้าวสุดท้าย Ø พระพรหมทรงหงส์ เทวรูปพระพรหมอันงดงาม ทรงอยู่บนหงส์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปางที่หาชมได้ยาก ประติมากรรมฝีมือช่างศิลป์อันวิจิตรงดงาม อีกหนึ่งสถานที่ซึ่งไม่ว่าใครมาก็สามารถมาสักการะและขอพรดลบันดาลให้สมหวัง Ø Himmapan Temple Fair งานวัดป่าหิมพานต์ รื่นเริงบันเทิงใจกับงานวัดสไตล์ไทยๆ มรดกแห่งความสุขของชาวสยามที่สืบทอดต่อกันมาทุกยุคสมัย สนุกไปกับเครื่องเล่นที่ปลุกสัตว์ป่าหิมพานต์สุดพิศวงให้กลับมาโลดแล่นโจนทะยานนอกวรรณคดีได้อีกครั้ง ทั้งชิงช้าสวรรค์กินรีกินนร, ม้าหมุนสัตว์หิมพานต์ และไวกิ้งปลาอานนท์สะท้านแผ่นดิน Ø Sanctuary of Dhamma วิหารธรรม เปิดทุกโสตสัมผัส เพื่อดื่มด่ำไปกับเรื่องราวของแก่นพระพุทธศาสนา ด้วยทรีดี แมปปิ้ง(3D Mapping)สุดตระการตาในสไตล์เข้าถึงง่ายแบบยายสอนหลาน สร้างความประทับใจอันล้ำค่าที่น่าจดจำ (พร้อมเปิดให้บริการ ปลายเดือนมีนาคม 62) Ø River center house and River front house เรือนกลางน้ำ และเรือนริมน้ำ หมู่เรือนอาหารที่รวบรวมความอร่อยหลากหลายจากร้านขึ้นชื่อทั่วทุกภาคของประเทศไทย ให้ได้อิ่มอร่อยกับอาหารไทยรสเลิศท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำที่งดงาม แถมยังมีตลาดน้ำที่จับจ่ายซื้อของกันบนเรือได้เหมือนสมัยก่อนอีกด้วย Ø Araya House เรือนอารยะ ภัตตาคารอาหารเรือนไทยริมน้ำขนาดใหญ่ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้กว่า 720 ที่นั่ง คัดสรรความพิเศษเพื่อให้ทุกรสสัมผัสคือความประทับใจที่ไม่รู้ลืม ทั้งสำรับตำรับชาววังสูตรโบราณ อาหารไทยเมนูเด็ดจากภาคเหนือจรดใต้ รวมถึงเมนูอาหารนานาชาติที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งถูกนำมารวมไว้ในที่นี่ที่เดียว Ø Thai Wisdom Market ตลาดบก ตำนานสยาม ตลาดวิถีไทย โชว์รูมอัตลักษณ์แห่งสยามประเทศ กับเรือนสถาปัตยกรรมไทยทั้ง 4 ภาค ที่นำเสนอสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์หรือของดีประจำจังหวัดจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด พร้อมการแสดงที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน อาทิ ละครเร่ ละครพื้นบ้าน และการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ รวมถึงได้เรียนรู้งานฝีมือไทยแขนงต่างๆจากผู้ชำนาญการ จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต , เชิดชนินทร์ ฤทธิ์ธาอภินันท์, แอนน่า กลึคส์ , พงศภัทร กันคำ , รพีวิชญ์ เสงี่ยมวงศ์ โซน 3 : Bhumi Pan Din ภูมิแผ่นดิน ผืนแผ่นดินแห่งสยามได้บันทึกเรื่องราวตำนานไว้มากมาย นำเสนอเรื่องราวความภาคภูมิใจอันทรงคุณค่าของผืนแผ่นดินไทย Ø Bang Rachan บางระจัน ปลุกตำนานวีรชนผู้กล้าแห่งบ้านบางระจัน บอกเล่าเรื่องราวความรัก ความเสียสละ ความกล้าหาญ และความสามัคคีในการปกป้องบ้านเมือง ผ่านการแสดงโชว์สดศึกบางระจันที่ทั้งตื่นเต้นระทึกใจและสุดมันส์ไปกับฉากแอคชั่นอย่างใกล้ชิด (พร้อมเปิดให้บริการ ปลายเดือนมีนาคม 62) Ø เกษตรวิถีไทย สานต่องานที่พ่อสร้างกับเกษตรวิถีไทย ศาสตร์แห่งพระราชา ผ่านทุ่งนาเขียวขจีป่าไม้ภูเขา และท้องน้ำเลข ๙ อันแสดงถึงใจที่รักและภักดี พร้อมสามารถทดลอง เรียนรู้ และลงมือเป็นชาวนาด้วยตัวเอง Ø เรือนปลายนา นิทรรศการพิพิธภัณฑ์เชิดชูข้าวไทย “ในหลวง รัชกาลที่ 9 กับข้าวไทย” ที่ได้รับการสนับสนุนข้อมูลโดนมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับเรื่องราวสาระความรู้ ตั้งแต่กระบวนการปลูกไปจนถึงเก็บเกี่ยว และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากข้าวไทย (พร้อมเปิดให้บริการ ปลายเดือนมีนาคม 62) Ø Elephant Village ปางช้างสยาม การแสดงโชว์ของเหล่าช้างแสนรู้ สัตว์คู่บ้านคู่เมืองไทย พร้อมบริการนั่งช้างชมเมืองภายในเลเจนด์สยาม (พร้อมเปิดให้บริการ ปลายเดือนมีนาคม 62) Ø นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวี หรือ เจ้าย่าศรีปทุมมานาคิณี เอกอัครมเหสีขององค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ หรือเจ้าปู่ศรีสุทโธ มหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น จะสัมฤทธิ์ผลสมหวังดั่งใจปรารถนาทั้งเรื่องโชคลาภ การงาน และความรัก ศิลปินเกาหลีวง TARGET เตรียมพบกับแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองพัทยา สัมผัสกับตำนานอันมีมนต์ขลังและเสน่ห์ที่น่าหลงใหล กล่าวได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น ไทยแลนด์ ซิกเนเจอร์ จะประกาศความภาคภูมิใจในอารยะแห่งสยามในมุมต่างๆไปสู่เวทีโลกในระดับสากล เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต้องมาเยี่ยมชม เตรียมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 2 มีนาคมนี้ สามารถจองบัตรออนไลน์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ www.legendsiam.com และ www.thaiticketmajor.com