เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 ก.พ.2562 ที่กองร้อยทหารพรานที่ 2109 อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รอง ผวจ.บึงกาฬ พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ และ พ.อ.สุภัทร โชตินันท์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21 ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง 13 กระสอบ จำนวน 560 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ที่ริมน้ำโขงท้องที่ สภ.ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา พ.อ.สุภัทร โชตินันท์ ผบ.กรม.ทหารพรานที่.21 สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่ข้ามน้ำโขงมาจากประเทศเพื่อนบ้านลงเรือเข้ามาส่งมอบให้กับกลุ่มพ่อค้าชาวไทยบริเวณริมฝั่งน้ำโขงพื้นที่บ้านสะง้อ หมู่ที่ 2 ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ ร.ต.แดง พฤกษชาติ ผบ.ร้อย ทพ.2109 ส.อ.ทองอิน บุญชัย หัวหน้าชุด สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.โชคชัย อินทะนิน รอง ผบก.ภ.บึงกาฬ พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน ภ.บึงกาฬ พ.ต.ท.ราเชนทร์ สวนคำศรี สว.หน.ตำรวจน้ำบึงกาฬ พ.ต.ท.บดินทร์ ร้อยพรหมมา สว.ตม.บึงกาฬ พ.ต.ท.สมัคร์ กองเกิด สว.สส.สภ.หอคำ พ.ต.ท.อนุรักษ์ เสนามาตย์ ผบ.ร้อย ตชด.244 ร.ท.กิตติศักดิ์ อัยแก้ว ผบ.ร้อยรส.ที่ 1332 บึงกาฬ และฝ่ายปกครอง วางแผนซุ่มรออยู่บริเวณใกล้เคียง กระทั่งได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือวิ่งข้ามน้ำโขงมาจากบ้านเกิ่น เมืองท่าพระบาท แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว มุ่งหน้ามาทางชุดมชมวิวบ้านสง้อ ขณะถึงฝั่งได้ดับเครื่องยนต์เรือแล้วปล่อยเรือให้ไหลลงมากับกระแสน้ำมาหยุดที่บันไดเขื่อนกันตลิ่งพัง มีชาย 6 คนแบกกระสอบสีดำขึ้นจากเรือกองไว้ข้างบน เจ้าหน้าที่จึงขยับเข้ามาใกล้พร้อมได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ชายทั้ง 6 คนได้วิ่งหนีกระโดดลงไปในน้ำโขงพร้อมกับช่วยกันผลักดันเรือออกไปจากริมตลิ่งและติดเครื่องยนต์แล่นข้ามน้ำโขงกลับไปฝั่ง สปป.ลาว เมื่อเข้าเคลียร์พื้นที่พบว่าเป็นถุงดำข้างในเป็นกระสอบปุ๋ยจำนวน 13 กระสอบ ส่วนด้านในบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 650 แท่งน้ำหนัก 650 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทจึงยึดไว้เป็นของกลาง พ.อ.สุภัทร โชตินันท์ กล่าวว่า การตรวจยึดกัญชาล็อตใหญ่ครั้งนี้เป็นการข่าวฝ่ายทหารพรานและได้บูรณาการสามัคคีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายปฏิบัติงานร่วมกันทำให้การจับกุมได้ผลดี ส่วนกัญชาล็อตนี้น่าจะนำไปส่งทางภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนผู้ต้องหาอาศัยความชำนาญกระโดดลงน้ำโขงหลบหนีไปได้ การที่แก๊งค้ายาเสพติดมักจะมีการเปลี่ยนแปลงเวลาและสถานที่ส่งมอบของผิดกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม ทำให้กำลังพลต้องกระจายกันออกลาดตระเวนสกัดกั้น จึงทำให้การจับกุมผู้กระทำผิดขาดประสิทธิภาพไป แต่ต้องขอขอบคุณกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่บูรณาการครั้งนี้ที่ได้ช่วยกันสกัดกั้นยาเสพติดไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง