ด้วยมุมมองธุรกิจอันเฉียบคม และมองทะลุตลาดในทุกบทบาทที่รับผิดชอบ จึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจนักที่ โรงแรม เดอะ เฮอริเทจ เชียงราย ซึ่งมี นาย สุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) สวมบทบาทประธานโรงแรมแห่งนี้ร่วมกับ นางอารยา อรุณานนท์ชัย จะได้รับความสนใจ และตอบรับเป็นอย่างดี ชูเดอะเฮอริเทจ เชียงราย ในเรื่องนี้ นาย สุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) และประธานโรงแรม เดอะ เฮอริเทจ เชียงราย ได้สะท้อนแผนการตลาดได้อย่างน่าสนใจ ว่า ได้ใช้ทุนส่วนตัวเข้าซื้อกิจการโรงแรมลิตเติ้กดั๊ก ในพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ โดยใช้งบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรมเดอะเฮอริเทจ เชียงราย ปรับปรุงใหม่ทั้งหมดมานานกว่า 2 ปี เพราะเดิมมีสภาพทรุดโทรมตั้งแต่ช่องแอร์ ท่อน้ำ ห้องพัก เป็นต้น จนกระทั่งสามารถเปิดบริการได้เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา และคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี้ สำหรับ โรงแรมเดอะเฮอริเทจ เชียงราย เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว มีรูปแบบการตกแต่งทันสมัย ผสมผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างลงตัว โดยมีห้องพักรองรับ 321 ห้อง ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2,900 บาทขึ้นไป ปัจจุบันโรงแรมได้ปรับปรุงระบบอำนวยความสะดวก ห้องพัก สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร มีห้องประชุมที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย ด้วยเนื้อที่กว่า 1,200 ตารางเมตร ส่วนห้องพัก มีทั้งแบบห้องพักเอ็กเซกคิวทีฟสวีท ห้องพักแฟมิลี่สวีท ห้องพักจูเนียร์สวีท และห้องพักดีลักซ์ โดยมีเป้าหมายกลุ่มลูกค้าเบื้องต้นเป็นกลุ่มข้าราชการ การประชุมสัมมนาต่างๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป ทั้งนี้ นาย สุนทร ได้กล่าวต่อว่า ด้วยเมืองเชียงราย เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น ไร่สิงห์ปาร์ค วัดพระธาตุดอยตุง ถ้ำขุนน้ำนางนอน ซึ่งห่างจากโรงแรมประมาณ 30 กว่ากิโลเมตร รวมไปถึงมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อย่าง พระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ พระนักพัฒนาจากวัดใหม่ศรีร่มเย็น อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับความเคารพศรัทธาจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 นี้อัตราการเข้าพักของโรงแรมโดยเฉลี่ยน่าจะเต็ม 100% อย่างแน่นอน สยายปีกแบรนด์ฟอร์จูน ขณะที่ในบทบาทของผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมนั้น ทาง นาย สุนทร ได้กล่าวว่า เวลานี้มีโรงแรมใกล้ๆ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโขงทั้ง 4 สะพาน ตั้งแต่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ลงมา จนถึงจังหวัดหนองคาย มุกดาหาร นครพนม ซึ่งแต่ละแห่งต่างได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความนิยมนั้นเอง โดยภายในเดือนมีนาคม 2562 กลุ่มธุรกิจโรงแรมได้เตรียมเปิดบริการแบรนด์ฟอร์จูนเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ โรงแรมฟอร์จูน บุรีรัมย์ และโรงแรมฟอร์จูน พิษณุโลก พร้อมกันนี้ยังมีโรงแรมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดบริการได้ภายในสิ้นปีนี้อีก 3 แห่ง คือ โรงแรมฟอร์จูน มุกดาหาร โรงแรมฟอร์จูนระยอง และโรงแรมฟอร์จูน สมุทรสาคร รวมมูลค่าการลงทุน 5 แห่งประมาณ 750 ล้านบาท และเมื่อรวมกลุ่มธุรกิจโรงแรมทั้งหมดในปีนี้จะมีประมาณ 15 แห่ง หรือมีห้องพักรวมโดยเฉลี่ยประมาณ 2 พันห้อง ขยายธุรกิจเสริมกำลังทัพ สำหรับธุรกิจหลักของ กลุ่ม ซี.พี.แลนด์ มีทั้ง การสร้างออฟฟิศ และมีพื้นที่ให้เช่า ซึ่งอยู่ในหลายๆ จังหวัด รวมถึงธุรกิจโรงแรม ในช่วงสิ้นปีนี้น่าจะมีอัตรารายได้โดยเฉลี่ยเท่าๆ กัน คือ 50% ด้าน ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่จังหวัดขอนแก่น เป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังสร้างรายได้ให้กับกลุ่มธุรกิจ เนื่องจากขอนแก่น เป็นจังหวัดในภาคอีสานที่ โดดเด่นและมีจุดแข็งในการพัฒนาธุรกิจไมซ์ อย่างสูง เพราะเป็นศูนย์กลาง ทั้งทางด้านการคมนาคม มีชุมทางรถไฟ ทางหลวง และสนามบินขนาดใหญ่รองรับการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของหน่วยราชการสำคัญ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนราชการระดับเขตและระดับภาค รวมถึงเป็นแหล่งนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายด้าน มีมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาเป็นฐานบุคลากร ความรู้และวิทยาการ ทำให้มีศักยภาพสูงยิ่งในการจัดประชุมสัมมนาและจัดแสดงงานในทุกด้าน ซึ่ง นาย สุนทร ได้กล่าวว่า กลุ่ม ซี.พี.แลนด์ได้เปิดโครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น (KICE) หรือ Khonkaen International Convention and Exhibition Center โดยหวังว่าจะเป็นส่วนเสริมของธุรกิจไมซ์ ในขอนแก่นให้แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยเป็นการเพิ่มพื้นที่จัดประชุมนิทรรศการรวม 25,000 ตารางเมตร และเน้นความแตกต่างจากหอประชุม กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทั้งนี้ ไคซ์ (KICE) จะมุ่งเป้าหมายกลุ่มธุรกิจและการจัดงานจากส่วนกลางที่มาแสดงงานในภาคอีสาน โดยเฉพาะภายหลังจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะปิดซ่อมแซม ในปลายปี 2018 นี้ ด้วยการลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท จึงวางแผนให้มีงานจัดแสดงสินค้า ไม่ต่ำกว่า 24 ครั้งต่อปี เพื่อช่วยยกระดับให้เมืองขอนแก่นเป็นปลายทางในการจัดประชุมระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังจะดึงการจัดสอบของหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาใช้พื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกต่อทั้งหน่วยงานราชการและผู้เข้าสอบอีกด้วย