เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดหนองบัวลำภู นำโดย นายประสิทธิ์ มหาวงค์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดหนองบัวลำภู, นายอนุชา ภูเปี่ยมศักดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน อำเภอเมือง พร้อมด้วย สมาชิก อส. และ ร.อ.จิระศักดิ์ สำราญพัฒน์ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยหนองบัวลำภู ได้รับแจ้งว่าพบชายมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จากนั้นจึ่งได้วางแผนเข้าจับกุม นายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนิน อายุ 37 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 7 บ้านดอนนาดี ตำบลบ้านขาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้าสูตรใหม่เม็ดสีแดงซึ่งผสมสารกระตุ้นจำนวน 645 เม็ด หลังจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองจังหวัด ได้ทลายเครือข่ายจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ ที่ผ่านมา สามารถตรวจยึดยาบ้าได้จำนวนหนึ่ง
และวันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าสูตรใหม่ที่ผู้ต้องหาได้ซุกซ่อนอยู่ในกระติ๊บข้าวเหนียว และใส่ถุงพลาสติกนำไปซ่อนไว้ในท่อพักส้วมหลังบ้านอีกจำนวนหนึ่ง สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายตั้งตนเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงาน ในเขตจังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากนั้นจึงได้วางแผนเข้าจับกุมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่เส้นทางบ้านดอนนาดี โดยนายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนิน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้สั่งซื้อยาเสพติดมาจากนางกองและนายสอน ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง ตนเองเคยติดคุกในคดียาเสพติดที่เรือนจำภูเขียว จังหวัดชัดชัยภูมิ ติดอยู่ 3 ปี 6 เดือน และก่อนจะออกจากคุก มีเพื่อนนักโทษ ชื่อว่านายสมทรงนำเบอร์โทรศัพท์มาให้ และบอกว่าถ้าอยากได้เงินให้โทรไปที่เบอร์ดังกล่าว ตนเองออกจากคุกกลับมาอยู่บ้านไม่มีอะไรทำเลยลองโทรไปดู และมีผู้รับสายตนเองนำยาบ้ามาจำหน่ายได้ประมาณ 5 – 6 ครั้งแล้ว เห็นว่าได้กำไรดีจึ่งทำมาเรื่อยๆ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนิน โทรศัพท์สั่งซื้อยาบ้าซึ่งปลายสายได้มีผู้หญิงรับสายใช้คำแทนตัวว่าแม่ โดยได้สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 5 ถุงจำนวน 1,000 เม็ด โดยได้นัดให้นำมาส่งที่ บ้านดอนนาดี อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าจุด บริเวณที่ได้นัดหมาย พอถึงเวลานัดหมายได้มีรถเก๋งสีขาวเข้ามาจอดตามที่นายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนินได้แจ้งไว้ ที่บริเวณปากทางเข้าวัดป่าบ้านดอนนาดี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น โดยทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนางกอง เป็นชาวลาวมาพร้อมกับสามีชื่อว่านายสอน พร้อมลูกชายอีก 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์พบว่าเป็นเบอร์เดียวกันกับที่ นายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนิน ผู้ต้องหา โทรเข้าไปสั่งซื้อยาบ้า แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นอยู่หลายชั่วโมงก็ไม่พบยาบ้าแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาบันทึกถ้อยคำ
โดยได้เปิดคลิปเสียงในการล่อซื้อให้นางกองและนายสอน ฟังแต่ทั้งสองได้ปฏิเสธไม่ขอให้การใดๆ ขอให้การในชั้นศาล และแจ้งว่าตนเองเป็นชาวอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ จะเดินทางจะไปจังหวัดอุดรธานี ผ่านหนองบัวลำภูปวดท้องจึ่งได้จอดแวะ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเบอร์โทรศัพท์ที่สั่งซื้อยาบ้าเป็นเบอร์เดียวกัน และเส้นทางดังกล่าวถ้ามาจากจังหวัดชัยภูมิ เข้าอำเภอชุมแพ ควรจะผ่านอำเภอเมืองหนองบัวลำภู และตรงเข้าไปอุดรธานีเลย ซึ่งเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ได้เจอ 2 สามีภรรยานี้ เป็นเส้นทางแยกจะไปจังหวัดขอนแก่น ซึ่งต้องอ้อมมาไกลมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อจะดำเนินการกับ 2 สามีภรรยาคู่นี้ต่อไป โดยในเบื้องต้น 2 สามีภรรยาไม่เซ็นชื่อและไม่ลงบันทึกใดๆโดยเจ้าหน้าที่ได้เซ็นกำกับไว้ ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
จ.หนองบัวลำภู นายวรรธนะ ทองดี
และวันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าสูตรใหม่ที่ผู้ต้องหาได้ซุกซ่อนอยู่ในกระติ๊บข้าวเหนียว และใส่ถุงพลาสติกนำไปซ่อนไว้ในท่อพักส้วมหลังบ้านอีกจำนวนหนึ่ง สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายตั้งตนเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงาน ในเขตจังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากนั้นจึงได้วางแผนเข้าจับกุมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่เส้นทางบ้านดอนนาดี โดยนายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนิน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้สั่งซื้อยาเสพติดมาจากนางกองและนายสอน ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง ตนเองเคยติดคุกในคดียาเสพติดที่เรือนจำภูเขียว จังหวัดชัดชัยภูมิ ติดอยู่ 3 ปี 6 เดือน และก่อนจะออกจากคุก มีเพื่อนนักโทษ ชื่อว่านายสมทรงนำเบอร์โทรศัพท์มาให้ และบอกว่าถ้าอยากได้เงินให้โทรไปที่เบอร์ดังกล่าว ตนเองออกจากคุกกลับมาอยู่บ้านไม่มีอะไรทำเลยลองโทรไปดู และมีผู้รับสายตนเองนำยาบ้ามาจำหน่ายได้ประมาณ 5 – 6 ครั้งแล้ว เห็นว่าได้กำไรดีจึ่งทำมาเรื่อยๆ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนิน โทรศัพท์สั่งซื้อยาบ้าซึ่งปลายสายได้มีผู้หญิงรับสายใช้คำแทนตัวว่าแม่ โดยได้สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 5 ถุงจำนวน 1,000 เม็ด โดยได้นัดให้นำมาส่งที่ บ้านดอนนาดี อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าจุด บริเวณที่ได้นัดหมาย พอถึงเวลานัดหมายได้มีรถเก๋งสีขาวเข้ามาจอดตามที่นายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนินได้แจ้งไว้ ที่บริเวณปากทางเข้าวัดป่าบ้านดอนนาดี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น โดยทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนางกอง เป็นชาวลาวมาพร้อมกับสามีชื่อว่านายสอน พร้อมลูกชายอีก 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์พบว่าเป็นเบอร์เดียวกันกับที่ นายประสิทธิ์ ล้อมสูงเนิน ผู้ต้องหา โทรเข้าไปสั่งซื้อยาบ้า แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นอยู่หลายชั่วโมงก็ไม่พบยาบ้าแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาบันทึกถ้อยคำ
โดยได้เปิดคลิปเสียงในการล่อซื้อให้นางกองและนายสอน ฟังแต่ทั้งสองได้ปฏิเสธไม่ขอให้การใดๆ ขอให้การในชั้นศาล และแจ้งว่าตนเองเป็นชาวอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ จะเดินทางจะไปจังหวัดอุดรธานี ผ่านหนองบัวลำภูปวดท้องจึ่งได้จอดแวะ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเบอร์โทรศัพท์ที่สั่งซื้อยาบ้าเป็นเบอร์เดียวกัน และเส้นทางดังกล่าวถ้ามาจากจังหวัดชัยภูมิ เข้าอำเภอชุมแพ ควรจะผ่านอำเภอเมืองหนองบัวลำภู และตรงเข้าไปอุดรธานีเลย ซึ่งเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ได้เจอ 2 สามีภรรยานี้ เป็นเส้นทางแยกจะไปจังหวัดขอนแก่น ซึ่งต้องอ้อมมาไกลมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อจะดำเนินการกับ 2 สามีภรรยาคู่นี้ต่อไป โดยในเบื้องต้น 2 สามีภรรยาไม่เซ็นชื่อและไม่ลงบันทึกใดๆโดยเจ้าหน้าที่ได้เซ็นกำกับไว้ ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
จ.หนองบัวลำภู นายวรรธนะ ทองดี