“ศุภชัย ใจสมุทร”ลงพื้นที่ปราศรัยช่วยผู้สมัคร สส.ตรัง พรรคภูมิใจไทย เขต 2 หาเสียง ยอมรับกระแสเปลี่ยนในพื้นที่จังหวัดตรังและภาคใต้มาแรง ขณะที่ผู้สมัครมั่นใจเต็มร้อยและมีความสุขกับการหาเสียง
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 17 ก.พ.62 ณ ลานอเนกประสงค์เทศบาลตำบลวังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ( อดีต สส.จังหวัดตรัง อยู่ในบัญชีรายชื่อพรรค) เดินทางมาร่วมปราศรัยหาเสียงให้กับ นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน ผู้สมัคร สส.ตรัง พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 22 โดยมีผู้สมัคร สส.ตรังทั้ง 2 เขต ผู้สนับสนุนและพ่อแม่พี่น้องจากพื้นที่เขต 2 ร่วมรับฟังกว่า 500 คน บรรยกาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีการนำรถแห่หาเสียงทั้ง 3 เขตมาหาเสียงด้วยการชูสโลแกน “ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน”
นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาช่วย นายชัยฤทธิ์ ถ่าย้วน ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 22 ต้องบอกว่าที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้มีการเลือกตั้งมานาน 8 ปี อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตนคิดว่าวิธีคิดของพี่น้องประชาชนจังหวัดตรังที่ตนสัมผัส จะพบว่าจะมีการเปลี่ยนวิธีคิดมากขึ้น ซึ่งประชาชนจังหวัดตรังให้โอกาสกับตัวเอง เลือกที่จะให้โอกาสที่จะทำให้ชีวิตของตัวเอง ครอบครัวมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่ประชาชนจังหวัดตรังคิดที่ผ่านมาทำใฟ้ต้องสูญเสียโอกาสในสิ่งที่ควรจะเป็นมานาน ทำให้ชีวิตไม่เปลี่ยน จำเจ และล้าหลังกว่าจังหวัดอื่นๆมากมาย ทั้งนี้สิ่งที่จะทำให้จังหวัดตรังเกิดการเปลี่ยนแปลงคือการให้โอกาสเปิดใจกว้างกับพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งเหล่านี้สัมผัสได้แล้วกับการเลือกต้งครั้งนี้
“ ทางพรรคภูมิใจไทยเอง มีความคาดหวังว่า ผู้สมัครในจังหวัดตรัง และจังหวัดภาคใต้น่าจะได้ผู้แทนหลายจังหวัดอยู่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน สำหรับ สส.บัญชีรายชื่อที่พรรคคาดหวังว่าจะได้ท่าไหร่นั้น มองความน่าจะเป็นของการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 เราได้คะแนนประมาณ 3ล้านกว่าคะแนน ถ้าคำนวณ ณเวลานั้นก็คงมากอยู่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน มิบังอาจคาดเดาได้ว่าจะได้กี่เสียง ทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญมากและมีความหมายสำหรับพรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะภาคใต้” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยมองทั้งประเทศไม่เฉพาะเรื่องของจังหวัดตรัง ประชาชนทั้งประเทศมีปัญหาเรื่องปากท้อง วันนี้ถ้าท้องอิ่ม ก็สามารถพัฒนาด้านอื่นได้ สิ่งที่มีศักยภาพของจังหวัดตรัง และสะดุดหยุดลงมานานหรืออาจจะไม่มีเลยก็คือศักยภาพเรื่องสินค้าเกษตร วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายที่จะทำให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นทั้งยางพารา และปาล์มน้ำมัน โดยใช้เรื่องของการทำกฎหมายการแบ่งบันผลประโยชน์ ด้วยการสนับสนุนนำปาล์มไปทำน้ำมันเชื้อเพลิง จากนั้นจะมีการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว จังหวัดตรังซบเซามานานวันนี้เก็บเศษเงินจากจังหวัดอื่นๆที่ล้นกันอยู่ จึงอยู่ที่ว่าจะต้องนำนักบริหารมืออาชีพมาทำ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นนักบริหารมืออาชีพอยู่แล้วและสามารถทำเรื่องทั้งหมดได้เป็นอย่างดี” นายศุภชัย กล่าว
ขณะที่ นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเปิดเวทีหาเสียงในพื้นที่ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เป็นครั้งแรกของเขต 2 การตระเวนหาเสียงพบชาวบ้านที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องการเปลี่ยนผู้แทนมาก ตนเองมีความสุขกับการหาเสียง ไม่เครียด ได้ชี้แจงนโยบาย ได้บอกกล่าวถึงสภาพปัญหาของปาล์มน้ำมันและยางพารา และเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาต่างๆซึ่งชาวบ้านชอบมาก ตนเองหลังจากที่พบปะชาวบ้านมีความมั่นใจเต็มร้อย ว่านโยบ่ายของพรรคที่นำมาเสนอ ตอบรับความต้องการได้ และตนเองก็มีเครดิสที่ทำงานให้กับสังคม เกษตรกรไม่ว่าจะเป็นเรื่องยางพารา หรือปาล์มน้ำมัน เมื่อเกษตรกรรู้ถึงปัญหาที่ตนเสนอทางออกและแก้ไข ตนมั่นใจการหาเสียงครอบคลุมครบ 32 ตำบล 12 เทศบาลตำบลในพื้นที่เขต 2 ด้วยการเดินเคาะประตูจะทำคะแนนได้อย่างดีที่สุด
นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาช่วย นายชัยฤทธิ์ ถ่าย้วน ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 22 ต้องบอกว่าที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้มีการเลือกตั้งมานาน 8 ปี อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตนคิดว่าวิธีคิดของพี่น้องประชาชนจังหวัดตรังที่ตนสัมผัส จะพบว่าจะมีการเปลี่ยนวิธีคิดมากขึ้น ซึ่งประชาชนจังหวัดตรังให้โอกาสกับตัวเอง เลือกที่จะให้โอกาสที่จะทำให้ชีวิตของตัวเอง ครอบครัวมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่ประชาชนจังหวัดตรังคิดที่ผ่านมาทำใฟ้ต้องสูญเสียโอกาสในสิ่งที่ควรจะเป็นมานาน ทำให้ชีวิตไม่เปลี่ยน จำเจ และล้าหลังกว่าจังหวัดอื่นๆมากมาย ทั้งนี้สิ่งที่จะทำให้จังหวัดตรังเกิดการเปลี่ยนแปลงคือการให้โอกาสเปิดใจกว้างกับพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งเหล่านี้สัมผัสได้แล้วกับการเลือกต้งครั้งนี้
“ ทางพรรคภูมิใจไทยเอง มีความคาดหวังว่า ผู้สมัครในจังหวัดตรัง และจังหวัดภาคใต้น่าจะได้ผู้แทนหลายจังหวัดอยู่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน สำหรับ สส.บัญชีรายชื่อที่พรรคคาดหวังว่าจะได้ท่าไหร่นั้น มองความน่าจะเป็นของการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 เราได้คะแนนประมาณ 3ล้านกว่าคะแนน ถ้าคำนวณ ณเวลานั้นก็คงมากอยู่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน มิบังอาจคาดเดาได้ว่าจะได้กี่เสียง ทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญมากและมีความหมายสำหรับพรรคภูมิใจไทยมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะภาคใต้” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยมองทั้งประเทศไม่เฉพาะเรื่องของจังหวัดตรัง ประชาชนทั้งประเทศมีปัญหาเรื่องปากท้อง วันนี้ถ้าท้องอิ่ม ก็สามารถพัฒนาด้านอื่นได้ สิ่งที่มีศักยภาพของจังหวัดตรัง และสะดุดหยุดลงมานานหรืออาจจะไม่มีเลยก็คือศักยภาพเรื่องสินค้าเกษตร วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายที่จะทำให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นทั้งยางพารา และปาล์มน้ำมัน โดยใช้เรื่องของการทำกฎหมายการแบ่งบันผลประโยชน์ ด้วยการสนับสนุนนำปาล์มไปทำน้ำมันเชื้อเพลิง จากนั้นจะมีการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว จังหวัดตรังซบเซามานานวันนี้เก็บเศษเงินจากจังหวัดอื่นๆที่ล้นกันอยู่ จึงอยู่ที่ว่าจะต้องนำนักบริหารมืออาชีพมาทำ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นนักบริหารมืออาชีพอยู่แล้วและสามารถทำเรื่องทั้งหมดได้เป็นอย่างดี” นายศุภชัย กล่าว
ขณะที่ นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเปิดเวทีหาเสียงในพื้นที่ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เป็นครั้งแรกของเขต 2 การตระเวนหาเสียงพบชาวบ้านที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องการเปลี่ยนผู้แทนมาก ตนเองมีความสุขกับการหาเสียง ไม่เครียด ได้ชี้แจงนโยบาย ได้บอกกล่าวถึงสภาพปัญหาของปาล์มน้ำมันและยางพารา และเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาต่างๆซึ่งชาวบ้านชอบมาก ตนเองหลังจากที่พบปะชาวบ้านมีความมั่นใจเต็มร้อย ว่านโยบ่ายของพรรคที่นำมาเสนอ ตอบรับความต้องการได้ และตนเองก็มีเครดิสที่ทำงานให้กับสังคม เกษตรกรไม่ว่าจะเป็นเรื่องยางพารา หรือปาล์มน้ำมัน เมื่อเกษตรกรรู้ถึงปัญหาที่ตนเสนอทางออกและแก้ไข ตนมั่นใจการหาเสียงครอบคลุมครบ 32 ตำบล 12 เทศบาลตำบลในพื้นที่เขต 2 ด้วยการเดินเคาะประตูจะทำคะแนนได้อย่างดีที่สุด