จากกรณีนางศศิธร วงศ์ชาลี ผู้อำนวยการโรงเรียนโนนคำพิทยาคม ตำบลคำแก้ว อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ตกเป็นข่าวถูกผู้ปกครองนักเรียนกดดันให้ย้ายออกจากโรงเรียน เนื่องจากเป็นเจ้าระเบียบเคร่งครัดจนนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามได้โดยนำรองเท้านักเรียนที่ถอดไม่เป็นระเบียบใส่กระสอบปุ๋ยไปโยนทิ้งและไล่นักเรียนออกกลางเทอมตามข่าวที่สื่อมวลชนเสนอไปนั้น
เช้าวันนี้ (17 ก.พ.62 )เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นางศศิธร วงศ์ชาลี ผอ.โรงเรียนโนนคำพิทยาคม ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย พร้อมด้วยนายสัจสิทฐ์ ถินนะสิทธิ์ นิติกร ศธจ.บึงกาฬ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ตกเป็นข่าว กรณีข่าวการริบรองเท้าของนักเรียนที่ถอดไม่เป็นระเบียบไปโยนทิ้ง ซึ่งในข่าวบอกว่า ผอ.สั่งให้คุณครูหอบรองเท้านักเรียนยัดใส่ถุงปุ๋ยแล้วนำไปโยนทิ้งนั้น ในกรณีนี้ขอชี้แจงต่อสื่อมวลชน เพื่อสร้างความเข้าใจในข้อเท็จจริงว่า หลังจากที่ดิฉันเข้ามารับตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนโนนคำพิทยาคม เมื่อ พ.ค. 2561ได้มองเห็นการที่นักเรียนถอดรองเท้าไม่เป็นระเบียบก็เลยประกาศบอกนักเรียนว่า ขอให้นักเรียนถอดรองเท้าแล้ววางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม จะหยิบไปสวมใส่ได้ง่ายไม่ต้องเสียเวลาในการหารองเท้าขณะเดินออกจากห้องประชุมบางครั้งก็เดินชนกัน กว่าจะหารองเท้าของตัวเองเจอ ทำให้เสียเวลาอลวนสับสนอลหม่าน บางครั้งรีบอาจจะหกล้มได้ เลยประกาศให้นักเรียนทราบ โดยให้นักเรียนที่มาคนแรกถอดรองเท้าเรียงไว้ คู่ที่ 1 คนที่ 2-3-4-5-6-7-8และ9..ตามลำดับ เมื่อออกมาจากห้องก็มาหยิบรองเท้าของตัวเองมาสวมใส่ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาหารองเท้าก็จะสะดวกสบาย เมื่ออบรมบอกเหตุผลเรื่องการถอดเก็บวางรองเท้าแล้วก็ให้โอกาสนักเรียนได้ปฏิบัติ สังเกตอยู่เป็นเวลา 1 เดือนนักเรียนส่วนใหญ่ถอดรองเท้าเป็นระเบียบดี แต่มีบางส่วนบอกแล้วบอกอีกไม่ทำตาม ดิฉันเลยทำทีเป็นริบรองเท้าและครูก็นำไปคืนให้นักเรียนเวลาหลังเลิกเรียนแล้ว เพื่อเป็นการปรามนักเรียนที่วางรองเท้าไม่เป็นระเบียบ แต่ในใจไม่ริบหรอกคะ แค่ทำให้เด็กหลาบจำเป็นเทคนิคการสอน ที่ทำให้นักเรียนเห็นว่าใครถอดรองเท้าไม่เป็นระเบียบจะต้องถูกริบมีแค่นั่นเอง มีผู้ปกครองได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องจึงมีการบิดเบือนข่าวเพื่อทำลายให้ดิฉันเสียหาย จากวันนั้นเริ่มจัดระเบียบถอดรองเท้าคือ ก.ค.2561 มาถึงวันนี้นักเรียนโนนคำพิทยาคมได้ถอดวางรองเท้าเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก สร้างระเบียบวินัยให้เกิดขึ้นในทางสร้างสรรค์ดีงามเป็นวินัยขั้นพันฐาน ซึ่งโรงเรียนอื่นเขาทำมานานแล้ว พอดิฉันมาสอนลูกหลานให้รู้จักระเบียบวินัย กลับถูกกล่าวหาว่าเคร่งครัดเกินไป การให้ข่าวในเรื่องนำรองเท้าเด็กไปทิ้ง จึงไม่มีมูลความจริงเลย
ส่วนประเด็นเรื่องการไล่นักเรียนออกกลางเทอมนางศศิธร กล่าวว่า ผอ.ไม่มีสิทธิ์ทำได้และไม่มีกฎหมายรองรับ การให้ข่าวว่าไล่นักเรียนออก 5-7 คนที่มาเรียนสายกลางเทอมนั้นไม่เป็นความจริง เพราะปกติผู้บริหารโรงเรียนทุกคนต้องการให้มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้น เพราะนั่นมันหมายถึงศักยภาพความสามารถของผู้อำนวยการโรงเรียน การที่มีนักเรียนน้อยหรือลดลงจึงเป็นการฟ้องว่าผู้บริหารไม่มีฝีมือ ซึ่งผู้บริหารทุกคนไม่อยากจะเป็นเช่นนั้น เมื่อนักเรียนมาสายก็ให้โอกาส เพราะบริบทของผู้ปกครองในเขตบริการต้องให้ลูกหลานได้ช่วยเหลือทำงานไปกรีดยางหรือหยอดน้ำกรดช่วยในตอนเช้าตรู่ก่อนมาโรงเรียน โดยการให้ปรับเปลี่ยนเวลาทำงานจากให้ช่วยวันจันทร์-ศุกร์ก็ให้ลูกหลานช่วยทำงานในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาก็มี นร.มาขอลาออกเพื่อย้ายติดตามผู้ปกครอง 1 ราย ย้ายไปเรียน กศน.1 ราย รวม 2 รายเท่านั้นส่วนใครที่ติด ร.ต้องส่งใบงาน หรือติด 0 ต้องสอบซ่อมถึงจะจบก็เท่านั้น จากที่เป็นข่าววันที่12 ก.พ.ผ่านมาจึงเป็นการนำเสนอข่าวแต่เพียงฝ่ายเดียวคือกลุ่มที่ไม่พอใจการทำงานของดิฉันนั่นเอง วันนั้นฝ่ายประธานกรรมการศึกษาของ ร.ร.โนนคำพิทยาคม ได้เชิญผู้ปกครองมาประชุมโดยดิฉันไม่ทราบเรื่องมาก่อน มีนายนภดล จอมเพชร นายอำเภอโซ่พิสัย พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย นายศักดิ์ดาเดช ทาซ้าย ตัวแทน สพม.21นายสัจสิทฐ์ ถินนะสิทธิ์ นิติกร ศธจ.ทหาร กกล.รส.บึงกาฬ ผู้นำชุมชน กำนัน และนายนิยม นิติพจน์ นายก อบต.คำแก้ว และเป็นประธานกรรมการสถานศึกษา ร.ร.โนนคำพิทยาคม มาร่วมรับฟังการชี้แจงครั้งนี้ด้วย ซึ่งทุกท่านก็เข้าใจยอมรับในแนวทางการทำงานของดิฉันดีไม่มีปัญหาอะไร
ด้านนายสัจสิทฐ์ ถินนะสิทธิ์ นิติกร ศธจ.กล่าวว่าการปฏิบัติงานของ นางศศิธร วงศ์ชาลี ผอ.ร.ร.โนนคำพิทยาคม ถือว่าเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของกฎกระทรวงศึกษาธิการทุกประการ แต่การเสนอข่าวของสื่อมวลชนจะนำเสนอเฉพาะมุมของฝ่ายที่ไม่พอใจหรือฝ่ายผู้ปกครองที่กล่าวหา ผอ.เท่านั้น โดยไม่มีคำชี้แจงของ ผอ.ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าใดนัก วันนี้จึงเป็นเรื่องดีที่สื่อมวลชนให้โอกาสให้ ผอ.ศศิธร ได้ชี้แจงเหตุการณ์ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ผ่านมา.


