เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2568 นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่าทางมูลนิธิเมาไม่ขับได้ยื่นเรื่องขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงโทษวินัยขั้นสูงสุดทหารที่กระทำความผิดฐานเมาแล้วขับ โดยได้ทำหนังสือถึงแม่ทัพภาคที่ 2
ตามที่ปรากฏข่าวเผยแพร่ต่อสาธารชน กรณีทหารบกสังกัดกองการสัตว์ทหารบก กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งปรากฏชื่อในข่าวที่เผยแพร่ชื่อพันโทคงกฤติ อายุ 51 ปี สังกัดกองการสัตว์ทหารบก กองทัพภาคที่ 2 โดยพันโทคงกฤติ ได้ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความผิดตามพรบ.จราจรทางบก เท่ากับการเมาแล้วขับ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เหตุเกิดที่สถานีตำรวจภูธรปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งในที่เกิดเหตุพบคู่กรณีที่ได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์เสียหายจากการขับรถชนของพันโทคงกฤติ
มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรที่ทำงานขับเคลื่อนการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2539 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามูลนิธิเมาไม่ขับเรียกร้องให้ข้าราชการทุกคนในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนจากพฤติกรรมเมาแล้วขับ เป็นนโยบายของรัฐบาลและของกองทัพบก นอกจากนั้นแล้วการที่ข้าราชการเมาแล้วขับ ไม่ว่าจะเป็นในเวลาราชการหรือนอกเวลาราชการ จะถือเป็นการกระทำความผิดเฉพาะตัวไม่ได้ เพราะการที่ข้าราชการฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาลและต้นสังกัดเป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพพจน์ของข้าราชการโดยรวม และหน่วยงานต้นสังกัดกองทัพบก
มูลนิธิเมาไม่ขับจึงมีหนังสือมาเพื่อขอให้ท่านตั้งคณะกรรมการสอบสวนพันโทคงกฤติ พลเดชวิลัย และขอให้มีการลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับทหารคนใดในกองทัพบกต่อไป
มูลนิธิเมาไม่ขับขอยืนยันว่ามูลนิธิเมาไม่ขับไม่มีเหตุโกรธเคืองอันใดกับพันโทคงกฤติ แต่ในหน้าที่ที่เป็นองค์กรที่ทำงานสนับสนุนการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมาอย่างยาวนานในประเทศไทย ถือเป็นหน้าที่โดยตรงในการปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากพฤติกรรมของผู้ที่เมาแล้วขับ