เหยื่อดิไอคอนฯ ยื่นศาลแพ่ง ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 6 พันล้านบาท นัดพิจารณา 8 ธ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความ พากลุ่มผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มายื่นฟ้องคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม เพื่อเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้ง 17 ราย ได้แก่บรรดาบอสทั้ง 16 คน และบริษัท 1 ราย รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท
นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ฯรวมถึงจำเลยรายอื่น ทั้งหมด 17 ราย ซึ่งตรงกับแนวทางของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เช่นกัน ส่วนบอสดาราหรือแม่ข่ายคนอื่นๆ ที่ยังไม่ถูกฟ้อง เราก็กำลังพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติมอยู่ วันนี้ตนมายื่นฟ้องขอดำเนินคดีผู้บริโภคแบบกลุ่ม ที่สามารถมีโจทก์เพียง 1 คน และให้กำหนดสมาชิกกลุ่มที่จะได้รับค่าเสียหายตามหลักเกณฑ์เดียวกันได้ เรื่องที่ฟ้องวันนี้เป็นเรื่องทางแพ่งไม่เหมือนกับคดีอาญาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอัยการและส่งฟ้องไปแล้วฐานความผิดเรื่องแชร์ลูกโซ่ ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ที่พวกตนยื่นฟ้องเป็นเรื่องแพ่ง เพราะว่าเรื่องนี้มีการหลอกลวงให้ไปซื้อสินค้าและบริการ โดยมีการชักชวนโฆษณา ว่าจะได้ผลตอบแทน สินค้าจะเป็นที่นิยม สินค้าจะได้รับการโปรโมทสนับสนุน การทำการตลาดโดยคนมีชื่อเสียง แต่เงินกลับไม่ได้มาจากการซื้อขายสินค้าจริงๆ แต่ว่ามาจากการชักชวน หลอกให้ผู้เสียหาย หลงเชื่อมาซื้อสินค้าบริการไปแล้ว จะได้รับการสอน และดูแลจึงเป็นการที่ผู้บริโภคถูกหลอกลวงและเอาเปรียบ สุดท้ายสินค้ากับขายไม่ได้และไม่ได้เป็นที่นิยมอย่างที่โฆษณาเอาไว้ และลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทดิไอคอนฯ ก็เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้ทำตามที่ขออนุญาตการทำธุรกิจแบบตรงไว้ จึงเข้าข่ายลักษณะเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้บริโภค การฟ้องแพ่งนั้นจะทำให้ผู้เสียหายมีภาระน้อยลง ศาลไม่จำเป็นจะต้องพิสูจน์เจตนาว่าจำเลยเจตนาวางแผน เพียงแค่กระทำการใดที่ทำให้ผู้บริโภคเสียหาย ก็สามารถเอาผิดได้ และศาลสามารถกำหนดค่าเสียหายเพื่อการลงโทษ ซึ่งคดีอาญาทำไม่ได้ รวมถึงการขอให้ศาลแพ่งบังคับคดีได้ทุกๆ ทรัพย์สิน ซึ่งแตกต่างจากการยึดทรัพย์ของ ปปง.
อย่างไรก็ตาม คาดว่ากระบวนการไต่สวนมูลฟ้องและสืบคดีน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 - 2 ปี โดยศาลกำหนดเริ่มไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกวันที่ 8 ธันวาคมนี้ เวลา 13.30 น.ซึ่งเราจะต่อสู้ควบคู่ไปกับคดีอาญา เพื่อให้จำเลยถูกลงโทษตามกฎหมายอาญาและนำทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนชดเชยให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ดิไอคอนกรุ๊ปฯนั้นสร้างความเสียหายให้กับคนจำนวนมาก บางคนถึงกับล้มละลายเลยทีเดียว จึงยืนยันว่า จะร่วมต่อสู้ทุกมิติและช่วยเหลือพนักงานอัยการ เพื่อให้ได้ความเป็นธรรม ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายเปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนของผู้สูงอายุที่หลายคนนั้นมีเงินเก็บก้อนสุดท้ายของชีวิต แทนที่จะต้องเอาไปให้ลูกหลาน แต่กลับถูกหลอกลวงจนสูญสิ้น ต้องเผชิญกับความทรมาน จึงหวังว่า จะได้รับการเยียวยาค่าเสียหายจากกลุ่มจำเลย เพื่อมาชุบชีวิตต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นของการฟ้องดำเนินคดีแบบกลุ่มในครั้งนี้ เป็นการฟ้องดำเนินคดีผู้บริโภคตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 โดยมีผู้เสียหายยื่นฟ้องกับโจทก์ต่อศาลแพ่งไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย จากผู้เสียหายที่อ้างอิงตัวเลขในคำฟ้องของพนักงานอัยการไม่ต่ำกว่า 7,900 ราย โดยข้อเท็จจริงกล่าวอ้างว่า ผู้เสียหายทั้งหมดล้วนแต่ถูกชักชวนให้ซื้อสินค้าผ่านการหลอกลวง ด้วยกลไกการโฆษณาต่างๆ จากบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปฯ
#ดิไอคอนกรุ๊ป #ฟ้องกลุ่ม #คดีผู้บริโภค #วีรพัฒน์ปริยวงศ์ #แชร์ลูกโซ่ #DSI #ผู้เสียหายดิไอคอนกรุ๊ป #ศาลแพ่ง #ข่าวเศรษฐกิจ #Siamrath #สยามรัฐ