สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในหนังสือเวียน กรมบัญชีกลางที่ กค 0416.2/ว 537 เรื่อง การกำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายารักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ลงวันที่ 13 ส.ค.2568 แจ้งไปยังปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เลขาธิการ ผู้อำนวยการ อธิการบดี ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการสถานพยาบาลของทางราชการ
โดยหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาว่า ตามที่กรมบัญชีกลางได้กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคหรือกลุ่มโรค ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น โรคมะเร็งและโลหิตวิทยา กลุ่มโรครูมาติก โรคผิวหนังเรื้อรัง และโรคทางระบบประสาทที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ เป็นต้น ตลอดจนกำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายาบางรายการ ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า เพื่อให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้ภาครัฐสามารถประหยัดงบประมาณรายจ่ายค่ายาในบางส่วน โดยไม่ทำให้คุณภาพการรักษาพยาบาลลดลง และสามารถนำงบประมาณที่ประหยัดได้ไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านอื่นที่จำเป็น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อธิบดีกรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงเห็นควรดำเนินการ ดังนี้
1.ยกเลิกอัตราเบิกจ่ายค่ายา ดังนี้
1.1 ยา Azacitidine ความแรง 100 มิลลิกรัม ยา Bendamustine ความแรง 25 และ 100 มิลลิกรัม และ ยา Bortezomib ความแรง 1 และ 3.5 มิลลิกรัม ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 10 ของหนังสือที่อ้างถึง 1 (หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0416.2/ว 243 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2565)
1.2 ยา Abiraterone ความแรง 250 และ 500 มิลลิกรัม ตามหนังสือที่อ้างถึง 2 (หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0416.2/ว 693 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2565)
1.3 ยา Trastuzumab ความแรง 150, 440 และ 600 มิลลิกรัม ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 5 ของหนังสือที่อ้างถึง 3 (หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0416.2/ว 1342 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2565)
1.4 ยา Rituximab ความแรง 100, 500 และ 1,400 มิลลิกรัม ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 5 ของหนังสือที่อ้างถึง 4 (หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค ที่ กค 0416.2/ว 771 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2566)
1.5 ยา Dasatinib ความแรง 20, 50 และ 70 มิลลิกรัม ยา Fulvestrant ความแรง 250 มิลลิกรัม และยา Imatinib ความแรง 100 และ 400 มิลลิกรัม ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 5 ของหนังสือที่อ้างถึง 5 (หนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ ที่ กค 0416.2/ว 185 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2567)
2.กำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายา Abiraterone, Azacitidine, Bendamustine, Bevacizumab, Bortezomib, Dasatinib, Erlotinib, Etanercept, Fulvestrant, Imatinib, Gefitinib, Lenalidomide, Rituximab, Thalidomide และ Trastuzumab โดยให้เบิกจ่ายได้ไม่เกินอัตราที่กำหนด และใช้กับการรักษาทุกข้อบ่งชี้รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับกับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2568 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป
แหล่งข่าวจากกรมบัญชีกลาง เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ว่า หนังสือเวียนที่ออกไปดังกล่าว ไม่ได้กำหนดให้มีการร่วมจ่าย หรือ copayment แต่อย่างใด แต่เป็นการปรับเรื่องการใช้ยาให้เหมาะสม ตามอัตราที่กรมบัญชีกลางกำหนด ให้เป็นไปตามเงื่อนไข ข้อบ่งชี้ และเพดานที่กำหนด
โดยอ้างอิงจากข้อมูลการใช้ยาจริงของสถานพยาบาล และฐานข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล (Medical Benefit Database) ของกรมบัญชีกลาง และราคาจัดซื้อของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้มั่นใจว่า อัตราใหม่สอดคล้องกับราคาที่จัดซื้อจริง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณด้านยาอย่างคุ้มค่า เป็นการกำหนดเงื่อนไขการจ่ายตามปกติ ที่กรมบัญชีกลางทำมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกรณีค่าห้อง ค่าอวัยวะเทียม และค่าตรวจวินิจฉัย เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมียาหลายชนิดที่มียาสามัญ (Generic) และยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilar) ออกสู่ตลาด ซึ่งผ่านการรับรองว่ามีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย เทียบเท่ายาต้นแบบ (Original) แต่มีราคาย่อมเยากว่า ดังนั้น การนำยากลุ่มนี้มาใช้ จึงช่วยให้ระบบสาธารณสุขสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งไม่กระทบสิทธิการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยแต่อย่างใด นอกจากนี้ หากใช้ยาเทียบเคียง โดยไม่ใช้ยา Original ผู้รับสิทธิ์ไม่น่าจะต้องมีการจ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่หากต้องการที่จะใช้ยา Original ก็จะทำให้มีส่วนต่าง เพราะยากลุ่มนี้แพงมาก
“การปรับอัตราเบิกจ่ายฯในครั้งนี้ ได้มีการทบทวนราคาของยาเดิม 9 รายการ และเพิ่มรายการยาจำนวน 22 รายการ อย่างไรก็ดี กรมบัญชีกลางไม่ได้ตัดสิทธิ์การใช้ยา Original แต่อย่างใด แต่ให้ใช้ตามข้อบ่งชี้ของแพทย์” แหล่งข่าวระบุ
#กรมบัญชีกลาง #ค่ายาราคาสูง #ข้าราชการ #สิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการ #กระทรวงการคลัง #แพตริเซียมงคลวนิช #สปสช #เบิกจ่ายค่ายา #ยาต้นแบบ #ยาชีววัตถุคล้ายคลึง #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าววันนี้