วันที่ 29 ก.ย. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าของสมาชิกรัฐสภาในช่วงค่ำ มีการโต้ตอบกันไปมา โดยเฉพาะการอภิปรายของพรรคประชาชน โดยนายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน อภิปรายเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณปี 69 ที่จะประกาศใช้ในวันที่ 1 ต.ค. เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ และโครงการซอฟท์ พาวเวอร์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายด้านการท่องเที่ยว มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลว่ามีความไม่โปร่งใสต่อการดำเนินการที่เกิดขึ้น และยึดโยงกับอดีตนายกฯ อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้มีข้อกล่าวหาว่าหากเจออดีตนายกฯ ที่ไหนต้องเจอกับบุคคล 2 คนที่ อักษรย่อ ป. และ อ. ทั้งนี้พบว่ามีการฉายสไลด์ที่เกี่ยวโยงไปยังรัฐบาลของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ
ทำให้สส.พรรคเพื่อไทย ได้ลุกประท้วงเนื่องจากเป็นประเด็นที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่สามารถชี้แจงได้ และไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า การอภิปรายลักษณะที่ไม่สามารถให้รัฐบาลชุดเดิมชี้แจงได้ และมีรายละเอียดที่เป็นเรื่องบุคคลภายนอก
อีกทั้งการอภิปรายที่เกี่ยวเนื่องกับบุคคลภายนอกไม่ควรทำ ตามข้อบังคับ ดังนั้นขอกรุณาอภิปรายรัฐบาลไปที่นโยบายรัฐบาล การนำนโยบายเสียเวลาของฝ่ายค้านและตรวจสอบฝ่ายค้านด้วยกันเอง ขอให้ทำหน้าที่นโยบายรัฐบาล อย่าทำให้ชัดเกินไป เพราะทำให้เสียความรู้สึกต่อกัน
ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โต้แย้งว่า พรรคเพื่อไทยชี้แจงไม่ได้ แต่รัฐมนตรีชี้แจงได้ว่าจะทำต่อหรือไม่ กับนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ที่มีประเด็นเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับนโยบายการท่องเที่ยว
ทำให้ประธานในการประชุม กล่าวว่า ขอให้ตรงไปตรงมา ซึ่งนายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า การอภิปรายนั้นตรงไปตรงมาที่สุดแล้วเพราะเกี่ยวกับการทุจริต
ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า ที่บอกว่าหากทุจริตขอให้ไปร้องเรียน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ หากนายปกรณ์วุฒิไม่เกรงใจตน ขอให้เกรงใจหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ใช่ผู้นำฝ่ายค้ำ
นายปกรณ์วุฒิ ใช้สิทธิพาดพิงว่า ตนจำไม่แม่นว่าพูดคำว่าอย่างไร หากกล่าวหาว่ารัฐบาลที่แล้วทุจริต ขอถอนคำพูด แต่กรณีที่นายณัฐพล อภิปรายเรื่องที่ดูไม่ปกติ และถามได้รัฐมนตรีว่าจะจัดการอย่างไรหรือทำอย่างไรกับโครงการของรัฐบาลเก่าที่ทำต่อเนื่องมา
นายณัฐพล อภิปรายชี้แจงว่าต่อว่างบปี 69 มีงบก้อนใหญ่ 4,000 ล้านบาทที่จะทำเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ตนอยากทราบว่ารัฐบาลใหม่จะดำเนินการอย่างไรต่อหรือไม่ เพราะมีประเด็นที่ถูกกล่าวหา หากไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์
ทำให้นายวรวัจน์ ประท้วงเพราะได้นำภาพประกอบการอภิปรายพาดพิงรัฐบาลชุดก่อนหน้า ว่า ขอความกรุณาฝ่ายค้านด้วยกันอย่าทำลายเวลาฝ่ายค้าน เลี่ยงพูดเรื่องอื่มอย่ามาเตะรัฐบาลเดิมที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน แบบนี้จะทำงานร่วมกันไม่ได้จริงๆ
อย่างไรก็ดีนายณัฐพล อภิปรายว่า ควรได้อภิปรายเพราะเกี่ยวเนื่องกับงบประมาณที่รัฐบาลใหม่จะใช้ อย่างไรก็ดีตนมีข้อเสนอให้รัฐบาลสั่งชะลอโครงการและโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณจำนวน 4,000 ล้านบาท และตัดงบก้อนอื่นที่รัฐบาลก่อนทิ้งไว้เพื่อนำงบไปใช้ที่จำเป็นกว่า หรือ สานต่อผ่านการตั้งคณะกรรมการให้ทำงาน โดยเปลี่ยนชื่อโครงการ หรือ คิดและทำใหม่ ใช้โอกาสวางรากฐานให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตั้งที่ปรึกษา โดยดึงเอกชนเข้ามาทำงานได้แต่ต้องมีเกณฑ์ให้ชัดเจน และขีดเส้นห้ามเอกชนที่มีส่วนคิด ห้ามมีส่วนเกี่ยวข้องกับงบประมาณ