“อนุทิน” ภูมิใจเห็น “สีหศักดิ์” ตอกกัมพูชากลางเวทียูเอ็น แจง ไปพูดตามมติ ครม. ปกป้องศักดิ์ศรีคนไทย แม้ยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โว รัฐบาลชุดนี้เชื่อมทหารได้ 100% ต่างจากรบ.ชุดก่อน
    
วันที่ 28 ก.ย.2568 เวลา 14,35 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ตอบโต้กัมพูชา ว่า เห็นแล้วหรือไม่ วันนี้ รมว.ต่างประเทศที่ได้ไปแถลงที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เชื่อว่าได้ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนว่าจุดยืนของรัฐบาลนี้เป็นเช่นไร นายสีหศักดิ์นำแนวทางและนโยบายของรัฐบาลที่ได้หารือเป็นที่เรียบร้อยก่อนไปว่าเราจะแสดงจุดยืนอย่างนี้ ซึ่งท่านทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นความภาคภูมิใจ คนที่ตั้งท่านมาก็ดีใจ ภาคภูมิใจว่าบุคคลที่เราได้มอบหมายให้มาทำงานมีความเชี่ยวชาญในด้านที่ท่านถนัด

เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชายังคงยั่วยุ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องปกติ เราต้องอดทนต่อการยั่วยุแบบนี้ อดทนได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ชาวโลกและนานาชาติได้เห็นว่าประเทศไทยเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง ด้วยวัฒนธรรม ด้วยรูปแบบ และประเพณีของเรา ประเทศไทยเราไม่เคยไปรุกรานใคร ดูจากประวัติศาสตร์ได้ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนมาถึงรัตนโกสินทร์ ประเทศไทยเป็นฝ่ายถูกรุกรานมาโดยตลอด อดทนอดกลั้น บางครั้งต้องเสียอธิปไตยไป แต่บทเรียนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พวกเราก็เรียนประวัติศาสตร์มา ได้เห็นความอัปยศอดสูเวลาเราสูญเสียอธิปไตย เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ตนจะไม่ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย

เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลระบุว่าชาวบ้านต้องอดทน แต่ที่ผ่านมาชาวบ้านอดทนมาเต็มที่แล้ว ในขณะที่กัมพูชายังยั่วยุ รัฐบาลจะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คำว่าอดทนคือ ประเทศไทยเราต้องอดทน ส่วนเรื่องพี่น้องประชาชนเราจะเร่งให้มีการจัดการให้มีการดูแลความปลอดภัยแก่พวกเขา ถ้ามันถึงเวลาที่เราจะต้องตอบโต้ ซึ่งขณะนี้มันจะไม่เหมือนกับการทำงานในรัฐบาลชุดที่แล้ว อันนี้ไม่ได้ไปโทษอะไร ตนอยู่ในรัฐบาลชุดที่แล้วตนก็ควบคุมเรื่องฝ่ายปกครอง แต่ยังไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อกับฝ่ายทหารได้ 100% เพราะจะต้องผ่านตัวกลาง 

"แต่มายุคนี้ ผมถึงไม่มีรองนายกฯด้านความมั่นคง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความมั่นคงของประเทศ นายกฯต้องดูเอง ฉะนั้น ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ขึ้นอยู่กับนายกฯผมก็จะให้ 3 กำลังผนึกเป็นหนึ่งเดียวที่จะดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูแลไม่ให้ประเทศไทยถูกรุกราน"นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่า จะตอบโต้ทันทีหรือไม่ เพราะช่วงนี้กัมพูชาฉวยโอกาส ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเปลี่ยนผ่านแม่ทัพ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถือว่าทุกคนเข้ามา เริ่มวันที่ 1 ต.ค. ถือว่าเราไม่มีอะไรค้างคามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ จริงๆ ตอนนี้ยังบริหารเต็มตัวไม่ได้ ต้องรอวันที่ 30 ก.ย.ก่อน ก็พอดีวันที่ 1 ต.ค. ตนก็กดปุ่มรีสตาร์ทใหม่ คราวนี้ทุกคนต้องเชื่อรัฐบาล ทุกคนต้องทำตามนโยบายและข้อสั่งการของรัฐบาล

เมื่อถามว่าจะมีอะไรที่เป็นนโยบายเชิงรุกมากกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจมาบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าในช่วงที่มีการเกิดเหตุและต้องอพยพชาวบ้านออกมา พรรคภูมิใจไทยในขณะนั้นยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ยังให้การดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ สามารถจัดการในเรื่องของศูนย์พักพิง ศูนย์อพยพได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกจังหวัดที่มีเขตอันตราย

"ตอนนี้เป็นรัฐบาลแล้ว เรามีกลไกของรัฐบาล และความคล่องตัว การรู้จักพื้นที่ รู้จักความต้องการของพี่น้องประชาชน นี่แหละถึงจะต้องบูรณาการการทำงาน ฝ่ายปกครองต้องดูแลพี่น้องประชาชน ตั้งแต่การกิน การอยู่ การนอน และความปลอดภัย ฝ่ายกองทัพต้องรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ จะไปพูดคุยอะไรก็ตามสถานการณ์ แต่ต้องยึดประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสิ่งสูงสุด และนี่ไม่ใช่คำมั่น เป็นหน้าที่ เป็นภารกิจที่ต้องทำ ไม่ใช่คำมั่นสัญญา ไม่ใช่ว่าจะทำ แต่ทำแล้ว สั่งแล้ว"นายกฯกล่าว         
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายสีหศักดิ์ไปแถลงครั้งจะผิดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบาย นายอนุทิน กล่าวว่า ไปโดยมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ความจำเป็นเร่งด่วน ถ้าสิ่งที่ท่านทำในวันนี้แล้วยังมาบอกว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นของประเทศก็ไม่ทราบว่าจะตีความอย่างไรแล้ว จริงๆ ไม่ควรถามคำถามนี้ ถามแล้วทำให้คนสับสนเปล่าๆ สิ่งที่ท่านทำ ท่านทำความสง่างาม ทำให้ประเทศไทยได้มีศักดิ์ศรี ทำให้คนรู้ว่าประเทศไทยเรารักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ก็มีความชัดเจนตรงนั้น 

"จริงๆ ผมจะไปด้วยซ้ำ ฉะนั้น ไม่ต้องมานั่งถามว่าไปได้หรือไม่ได้ การไปรักษาประเทศโดยที่รัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายเป็นคนละเรื่องกันเลย แต่ผมมั่นใจในประสบการณ์และความสามารถของ รมว.ต่างประเทศ ผมถึงกล้ามอบหมายให้ท่านไปปฏิบัติหน้าที่ ในขณะที่ผมก็ทำการแถลงนโยบายในที่ประชุมรัฐสภาได้รับทราบ เพื่อที่รัฐบาลจะได้เริ่มดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินได้ทันเวลา 4 เดือนยุบสภาตามสัญญา"นายอนุทิน กล่าว
//////