"โฆษก พท." นายดนุพร ปุณณกันต์ ออกมาเขย่าขวัญถึงแนวทางร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หวั่นถูก "คุมกำเนิด" ด้วยอำนาจ สว. ซัดร่าง สสร. ของภูมิใจไทย "ไร้ประชาชน" ย้ำ MOU ส้ม-น้ำเงิน อาจเป็นแค่ "พิธีกรรม" ที่เปิด "กล่องแพนโดร่า" พร้อมตั้งคำถามถึงพรรคประชาชน (ปชน.) ให้หยุดทำรัฐธรรมนูญเป็นเกมลับ เรียกร้องให้ "ตั้งโต๊ะเจรจา" กับภูมิใจไทยและ สว.สีน้ำเงิน และถ่ายทอดสดให้สาธารณชนรับรู้ทุกข้อตกลง เพราะนี่คือการเอาอนาคตของชาติมาแลก
วันที่ 28 ก.ย.2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงการยื่นญัตติเสนอร่างแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ขณะนี้มีร่างของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยแล้ว ดังนั้นการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ เงื่อนไขสำคัญที่สุดที่รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้คือขั้นตอนของการรับหลักการในวาระที่ 1 และวาระ 3 ต้องการเสียงเห็นชอบจาก สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ซึ่งทำให้ ส.ส.ร. ทั้งของพรรคเพื่อไทย และของพรรคประชาชนเองอาจจะถูกคุมกำเนิด เมื่อพิจารณาจากแนวทางที่พรรคภูมิใจไทยเสนอการได้มาซึ่ง ส.ส.ร.ก็ไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับการเปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมเลย
"การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตาม MOA ส้ม-น้ำเงิน ในครั้งนี้อาจจะกลายเป็นเพียงพิธีกรรมที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ เพราะท้ายที่สุดแล้วผู้ที่จะกำหนดว่าใครจะได้เป็น ส.ส.ร. จะมีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ในคราบ สว.สีน้ำเงิน และพรรคภูมิใจที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวันจากการรดน้ำพรวนดิน บำรุงด้วยแร่ธาตุสารสีส้ม ซึ่งจวนเจียนจะมีสมาชิกถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภาเต็มที
ดังนั้น ปลายทางของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจจะไม่ใช่สิ่งดีงามอย่างที่พรรคประชาชนคาดหวัง และสภาพการณ์นี้จะกลายเป็นการเปิดกล่องแพนโดร่า ที่ปลดปล่อยหายนะออกมา และปิดขังความหวังเอาไว้ด้านใน
ฉะนั้นเพื่อเป็นการหยุดยั้งหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น พรรคประชาชนในฐานะที่เป็นผู้ทำคลอดรัฐบาลสีน้ำเงินนี้มากับมือ ไม่เพียงแต่เข้าไปพูดคุยเจรจากับคุณอนุทิน ชาญวีรกุล นายกฯ เท่านั้น แต่ต้องตั้งโต๊ะพูดคุยเจรจาอย่างเปิดเผยระหว่างพรรคประชาชน ในฐานะฝ่ายค้ำรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ สว. ในฐานะตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำการเมืองให้ตรงไปตรงมาอย่างที่เคยป่าวประกาศ จะดีลอะไรกัน จะแลกเปลี่ยนอะไร ก็ให้ประชาชนได้รับรู้ด้วย" นายดนุพร กล่าว
นายดนุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การตัดสินใจของพรรคประชาชน จะไม่สูญเปล่า เนื่องจากนี่คือการเอาอนาคตของประเทศมาเดิมพัน และความรับผิดชอบที่มากขนาดไหนจากพรรคประชาชนก็ไม่เพียงพอ หากความหวังที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กลายเป็นความสิ้นหวังหรือหายนะที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา