นายกฯ อนุทิน ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมอยุธยา ย้ำรัฐบาลทำงานเป็นทีมแม้ต่างพรรค พร้อมเร่งสร้างคลองระบายน้ำบางบาล–บางไทร คาดแล้วเสร็จปี 2569 เดินหน้าพัฒนาระบบชลประทานเพื่อบรรเทาและป้องกันน้ำท่วมในอนาคต
วันที่ 27 ก.ย.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันเจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดา วิเชียรศรี นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ส.ส.พรรคประชาชน เขต1 พระนครศรีอยุธยา ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัด นางสมทรง. พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ นายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบางบาล ให้การต้อนรับ ณ วัดโคกหิรัญ ต.บางชะนี อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
นายอนุทิน กล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก เริ่มจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทำให้ระบบการระบายน้ำ ระบายลงสู่ท้องทะเล ได้ยากและแม่น้ำเจ้าพระยา มีลักษณะที่เป็นคอขวดทำให้การไหลระบายน้ำช้าลง ส่งผลให้มีการของน้ำล้นตลิ่งขึ้นมาท่วมพื้นที่ของประชาชน ซึ่งเราพยายามสู้กับธรรมชาติมาโดยตลอด พยายามคิดที่จะให้มีโครงการแผนงานบรรเทาการเกิดอุทกภัยให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด
นอกจากเรื่องของการแก้ไขปัญหา น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง รัฐบาลก็จะใช้ สทนช ที่จะต้องคอยเป็นผู้กำหนดนโยบายต่างๆ ในการจัดการบริหารสถานการณ์น้ำท่วม เห็นอยู่ตรงนี้เป็นคนของประชาชน นายสุรศักดิ์ ลูกชายนายกอบจ.ของพวกท่าน วันนี้เขาได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอว. ดูแลการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย อย่างกำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง นำมาใช้ ลดภาวะภัยธรรมชาติ
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา กล่าวว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยา เพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้การช่วยเหลือ กรณีผู้ประสบเขตภัยพิบัติให้เหมาะสมกับสภาพของความเสียหาย ตลอดจนกำหนดกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยเยียวยา ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และต้องการให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้การบริหารจัดการน้ำ มากระทบหรือให้เกิดปัญหาอุทกภัยซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ทบทวน 9 แผนงานโครงการลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ของกรมชลประทาน
#ภูมิภาค-44