บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ต่างทยอยรีบเดินทางมารับบุตร-หลานที่มาเรียนชดเชยพิเศษ ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หลังมีกระแสข่าวทหารกัมพูชายิงยั่วยุที่ช่องอานม้า หวั่นเกิดการปะทะรอบสอง ขณะเดียวกันผู้ปกครองยังขอร้องให้ อย่าตื่นตระหนก และรับฟังข้อมูลแจ้งเตือนจากหน่วยงานภาครัฐ

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 27 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาพ่อแม่และผู้ปกครองในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ต่างรีบขับขี่รถจักรยานยนต์ รถซาเล้ง และรถยนต์ เดินทางมารับบุตรหลาน ที่ได้เดินทางมาเรียนหนังสือชดเชย ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่โรงเรียนต่างๆในเขตตัว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับการประสานจากทางโรงเรียนให้เดินทางมารับก่อนกำหนดเลิกเรียนในเวลาประมาณ 16.00 น.

จากการสอบถามบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่เดินทางมารับบุตรหลาน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางครูได้แจ้งให้มารับบุตรหลานกลับบ้าน แต่ไม่ได้แจ้งถึงสาเหตุของการให้มารับกลับก่อนกำหนด ซึ่งบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ต่างเข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.03 น.(27 ก.ย.68) ที่พบว่า ทหารฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธปืนกลยิงและใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ยิงเข้ามาฝั่งไทย ที่ช่องอานม้า อ.บ้านน้ำยืน จ.อุบลราชธานี แต่ทางฝ่ายทหารไทยไม่ได้มีการตอบโต้กลับคืน

พร้อมกันนี้ ผู้ปกครองบางท่านยังได้ฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนว่า ขอให้ติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ จากหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน และแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งเป็นข่าวสารที่ได้รับการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รับการยืนยันแล้ว โดยไม่ควรเชื่อข่าวจากโลกออนไลน์ที่เป็นแหล่งข่าวที่ยังไม่ทราบที่มา หรือแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะยิ่งจะทำให้เกิเดการตื่นตระหนกตกใจไปกันใหญ่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือนจากแหล่งที่ไม่ได้รับการยืนยันตัวตน

น.ส.รุ่งเรือง สารพัฒน์ อายุ 43 ปี ชาวบ้านใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า คุณครูได้แจ้งให้มารับลูกกลับบ้านก่อนกำหนด จากที่เลิกเรียนในเวลาประมาณ 16.00 น. ก็ไม่ทราบสาเหตุ อุตส่าห์เตรียมของมากะว่าจะขายหลังเด็กเลิกเรียนก็ไม่ได้ขาย เพราะบรรดาผู้ปกครองต่างหวาดวิตกเกรงจะเกิดสถานการณ์ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยากให้มีการตื่นตระหนกจนเกินไป และอยากให้มีการรับฟังหรือติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนต่างๆจากหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น ยิ่งการติดตามข่าวสารจากโซเชียลที่ไม่ทราบแหล่งอ้างอิงที่มาชัดเจน แล้วพากันตีความไปแบบผิดๆถูกๆ ก็ยิ่งจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกไปกันใหญ่ 

ด้านนางพวย แอกประโคน อายุ 50 ปี ชาวบ้านใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า คุณครูให้รีบมารับลูกหลานกลับบ้านจึงรีบเดินทางมารับหลานกลับ ก็ไม่รู้ว่าเป็นด้วยสาเหตุอะไร เพราะทางโรงเรียนก็ไม่ได้แจ้ง บอกเพียงว่าให้มารับ ก็อาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าข่าวไหนเป็นข่าวจริงข่าวลวง ทำให้คนที่ดูข่าวสารจากสื่อออนไลน์พากันตื่นตระหนกไปกันหมด จึงอยากฝากให้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐ และแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ

#ภูมิภาค-54