เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 ก.ย. 68 ที่งานสืบสวนสภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ ดาระภา รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ทำการจับกุมตัว นายภูมินทร์ วงษ์หาญ หรือหนุ่ม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310 ม.1 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการเพื่อความสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร
พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายขโมยมิเตอร์น้ำประปา ทั้งยังได้รับการประสานจากการประปาว่ามีประชาชนถูกขโมยมิเตอร์ประปาจำนวนมาก ขอให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้าย ในจุดที่ประชาชนแจ้งหายไว้
"จากการลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสคนร้าย ส่วนใหญ่ในจุดที่ติดตั้งมิเตอร์ประปานั้น ไม่มีวงจรปิด จึงได้เสาะหาในจุดที่ห่างไกลออกไป จนพบชายต้องสงสัย อายุประมาณ 30 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ต่อพ่วงมีหลังคา ขับขี่วนเวียนใกล้จุดเกิดเหตุ จึงตามร่องรอยของรถคันดังกล่าว พบว่า ขับขี่ออกไปตามถนนเหล่านาดี มุ่งหน้ามาที่บ้านสะอาด ต.เมืองเก่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตามเบาะแสที่หาพบจากวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ ก็ทราบว่า ชายต้องสงสัยรายดังกล่าว ทราบชื่อเล่นว่า นายหนุ่ม มีอาชีพรับจ้างยกสินค้าในตลาดสด และพักอยู่ห้ององเช่าในพื้นที่หมู่ 2 บ้านสะอาด ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น"
พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่าชุดสืบสวนจึงไปตรวจสอบที่ห้องเช่าดังกล่าว พบนายภูมินทร์ อยู่ในห้องเช่า จากการตรวจค้น พบหม้อน้ำทองเหลืองจากมิเตอร์น้ำในสภาพถูกตัด เจียรตราราชการ และเผาเพื่อลบพิรุธจึงตรวจยึดของกลางพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวน จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักมิเตอร์น้ำจริง เพราะอาชีพรับจ้างยกของ มีรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงต้องหารหารายได้เสริม ส่วนการก่อเหตุนั้น จะออกก่อเหตุในเวลากลางคืน ลักเอามิเตอร์น้ำครั้งละ 8–10 ชิ้น เท่าที่จะได้ลักมาแล้วมากกว่า 50 ชิ้น เมื่อได้มาก็จะนำตัด เจียรตราราชการ และเผา เพื่อทำลายหลักฐานที่มิเตอร์น้ำ จากนั้นก็เอาทองเหลืองไปขาย ที่ร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ บ้านคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น โดยจะได้เงินครั้งละ 30-50 บาท นำมาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบสวนแล้วเสร็จจึงได้ ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ภูมิภาค/48