เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมแนบแผนที่ ชี้แจงประเด็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา หลังมีเจ้าหน้าที่และสื่อไทยอ้างว่า กัมพูชาได้เซ็นรับรองเส้นเขตแดนเรียบร้อยแล้ว
ฮุน มาเนต ระบุว่า กัมพูชาและไทยเป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายศตวรรษ และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป แม้ทั้งสองประเทศยังไม่ได้ปักปันเขตแดนเสร็จสิ้น แต่ประชาชนทั้งสองฝ่ายได้อาศัยและเพาะปลูกในพื้นที่ดังกล่าวมานานหลายทศวรรษ ซึ่งนำไปสู่ข้อพิพาทที่ต้องแก้ไขผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (JBC) ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU 2000) ที่ลงนามเมื่อปี 2543 และขึ้นทะเบียนกับสหประชาชาติแล้ว
ตาม TOR ปี 2546 การปักปันเขตแดนต้องดำเนินการ 5 ขั้นตอน ได้แก่
การปักเสาหลักเขตแดนใหม่ การซ่อมแซม และการเปลี่ยน
การจัดทำแผนที่ภาพถ่ายออร์โธโฟโต้
การวางแนวที่จะสำรวจลงบนแผนที่
การตรวจสอบภูมิประเทศ
การปักเสาหลักเขตแดน
กรณีที่ฝ่ายไทยเผยแพร่แผนที่ดาวเทียมและบันทึกการสำรวจร่วม ระหว่าง BP 42–43 และ BP 44–47 นั้น ฮุน มาเนต ชี้ว่าเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง เพราะทีมสำรวจทั้งสองประเทศตกลงเฉพาะจุด BP 43 เท่านั้น อีกทั้งทีมสำรวจไม่มีอำนาจตัดสินใจเส้นเขตแดน การลงนามดังกล่าวเป็นเพียง “ขั้นตอนแรก” ของทั้งหมด 5 ขั้นตอนเท่านั้น
นายกฯ กัมพูชาเผยด้วยว่า แม้ตามแผนที่ที่ฝ่ายไทยเผยแพร่เอง ก็ยังแสดงให้เห็นว่ามีคนไทยจำนวนมากครอบครองและทำกินในดินแดนฝั่งกัมพูชาหลายเฮกตาร์อย่างต่อเนื่องหลายปี ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของข้อพิพาทชายแดนที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างสันติ ผ่านกลไก JBC
ฮุน มาเนต ย้ำว่า รัฐบาลกัมพูชามุ่งมั่นแก้ไขปัญหาเขตแดนกับไทยอย่างฉันมิตรและยุติธรรมตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันว่า “เขตแดนจะต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง” และเรียกร้องให้ไทยเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา เช่นเดียวกับที่กัมพูชาเคารพต่อประเทศเพื่อนบ้านเสมอมา
#ฮุนมาเนต #กัมพูชา #เขตแดนไทยกัมพูชา #ข้อพิพาทชายแดน #MOU2000 #JBC #ข่าวการเมือง #ข่าวต่างประเทศ #ไทยกัมพูชา